เมื่อเห็นว่าถังเฉาที่ไม่มีความสามารถในการโจมตีกำลังจะถูกฆ่าตาย ถังเชียนเชียนก็พุ่งเข้ามาจากด้านข้าง ดูเหมือนว่าเธอพยายามที่จะปกป้องถังเฉาจากการโจมตี
การการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ถังเฉาไม่เคยคาดคิดมาก่อน
โชคดีที่ถังเฉาปฏิกิริยาตอบสนองได้อย่างรวดเร็วพอ ถึงได้ผลักถังเชียนเชียนไปด้านข้างได้ทันเวลา มิฉะนั้น ถังเชียนเชียนจะต้องถูกฆ่าตายด้วยการโจมตีของหวางหวู่อย่างแน่นอน
“พี่ค่ะ อย่าต่อสู้กับเขา ถ้าคุณต่อสู้กับเขา คุณจะแพ้แน่นอน ถ้าคุณเสียชีวิตมันจะได้คุ้มเสียนะ ” ถังเชียนเชียนกล่าวอย่างกระตือรือร้น
ในเวลานี้ มีใครสักคนยอมออกมาให้กำลังใจตนเองด้วยนามของตระกูลถัง พูดตามตรงมันทำให้ถังเฉารู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อย
ด้วยเหตุนี้ ถังเฉาจึงมุ่งมั่นกับการรักษาตำแหน่งผู้นำแห่งตระกูลถังให้ได้ในชั่วคราว
“ไม่ต้องกังวลนะเชียนเชียน ฉันไม่มีทางทำเรื่องโง่ๆ หรอก ”
ถังเฉาสาบานอย่างเต็มปากเต็มคำ ถังเชียนเชียนเห็นว่าถังเฉามีความมั่นใจขนาดนี้ ใจเธอก็สัมผัสถึงถังเฉาอย่างเหลือเชื่อ ราวกับว่าเขาจะมีความสามารถในการแก้ปัญหาเรื่องนี้จริงๆ
หลังจากที่รู้ตัวอีกที ถังเชียนเชียนกก็พยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ถ้างั้นคุณต้องระวังให้ดีนะ!”
หลังจากที่ถังเฉาตอบตกลงกับเธอ เขาก็ผลักถังเชียนเชียนออกไป และหันไปพูดกับหวางหวู่ “ขอโทษทีนะ ลูกพี่ลูกน้องของฉันเป็นห่วงฉันมากเกินไปเธอเลยทำแบบนี้ คราวนี้จะไม่มีใครขัดขวางการประลองฝีมือระหว่างเราอีกแล้ว เอาล่ะ เรามาสู้กันต่อเถอะ”
เมื่อได้ยินคำอธิบายจากถังเฉา หวางหวู่จึงไม่โกรธมาก เพียงแค่ตั้งท่าใหม่เตรียมที่จะแข่งกับถังเฉาต่อ
หวางหวู่ตั้งท่าอย่างจริงจัง แต่กลับเห็นถังเฉาที่อยู่ตรงหน้าเขา ไม่มีความเกรงกลัวต่อตัวเองเลยแน้แต่นิดเดียว
“ อะไรกันเนี่ยถังเชียว ไหนบอกว่าจะแข่งขันกับฉันอย่างจริงจังไง? แล้วทำไมจนถึงตอนนี้แล้วนายยังไม่ตั้งท่าเตรียมการต่อสู้ล่ะ?”
หลังจากที่ถังเฉาได้ยินคำพูดดังกล่าวก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ไม่ คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันพร้อมแล้ว คุณเข้ามาได้ทุกเมื่อเลย ”
ถังเฉากล่าวด้วยรอยยิ้มในขณะที่สายตาของหวางหวู่เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร เขาพุ่งเข้าหาถังเฉาราวกับเสือดุร้ายตัวหนึ่ง
ทุกคนคิดว่าคราวนี้ถังเฉาไม่มีทางรอดแน่นอน
แต่แล้วเพียงไม่กี่วินาทีต่อมา จู่ๆ ก็มีพลังมหาศาลจากตำแหน่งของถังเฉา และจากนั้นพื้นกระเบื้องก็ทะลุราวกับถูกบางสิ่งบางอย่างทุบใส่
อากาศเต็มไปด้วยฝุ่น ทำให้มองไม่เห็นอะไรเลยราวกับว่าทุกอย่างที่อยู่รอบข้างซ่อนตัวไปแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองได้เข้าไปอยู่ในนรก
ในวินาทีต่อมา ร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากควันและกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรง
“ พี่ค่ะ คุณไม่เป็นอะไรนะ? ”
เมื่อถังเชียนเชียนเห็นว่ามีคนบินออกมาเลยคิดว่าเป็นถังเฉา ดังนั้นเธอจึงรีบวิ่งเข้าไปดูทันที
ในขณะนั้นเอง ดวงตาของถังเชียนเชียนเปิดกว้างราวกับหลอดไฟสองดวง จ้องมองคนตรงหน้าโดยไม่กะพริบตาเลยสักครั้ง และเวลานี้ดูเหมือนว่าเธอจะทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
“ เกิดอะไรขึ้น? เป็นไปไม่ได้! พี่ชายฉันอยู่ไหน? ”
ทุกคนตะลึงกับคำพูดดังกล่าวของถังเชียนเชียน
ตามความคาดหวังของทุกคนแล้ว คนที่ยืนอยู่บนผนังในขณะนี้ควรจะเป็นถังเฉา ไม่ใช่คนอื่น แต่ประโยคดังกล่าวของถังเชียนเชียนบอกทุกคนรู้อย่างชัดเจนว่าคนที่ยืนอยู่บนผนังไม่ใช่ถังเฉา
ทุกคนอดทนกับฝุ่นควัน ดวงตาเบิกกว้าง รอลุ้นว่าหลังจากฝุ่นควันสลายแล้วคนที่ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาคือใคร?
ในขณะนี้ ควันก็ค่อยๆ จางหายไป และร่างที่คุ้นเคยก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในอากาศ
“ฉันผิดหวังในตัวคุณมาก ฉันถึงว่าคุณจะแข็งแกร่งมากกว่านี้”
เสียงที่คุ้นเคยดังถึงหูของทุกคน และทุกคนในตระกูลถังก็ตกตะลึง
“เป็นไปได้อย่างไรกัน? คนที่ชนะคือถังเชียว!”
ถังยวนคอยสังเกตจากด้านข้างอยู่เสมอ เขาคิดว่าถังเฉาจะต้องเสียชีวิตจากการต่อสู้ในครั้งนี้อย่างแน่นอน เขาจึงเตรียมที่จะหัวเราะเยาะถังเฉาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ตอนนี้ เขาไม่คาดคิดว่าหลังจากที่ฝุ่นควันจางหายไปแล้ว คนที่เดินออกมาคนแรกจะเป็นถังเฉา
“เป็นไปไม่ได้ ไอ้หมอนี้จะต้องใช้อุปกรณ์บางอย่างแน่ๆ มิฉะนั้น เขาไม่มีทางต้านทานการโจมตีจากหวางหวู่ได้อย่างแน่นอน ”
แต่ข้อเท็จจริงอยู่ตรงหน้าพวกเขา และความจริงก็คือถังเฉาเอาชนะหวางหวู่ได้อย่างง่ายดาย
โชคดีที่ถังเฉาเมตตาและออมมือต่อเขา หวางหวู่เลยไม่ถึงกับเสียชีวิต เขาเพียงแค่หมดสติไปเท่านั้น
หลังจากที่หวางหวู่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงรบกวนจากคนรอบข้าง เขาก็ยกมือไปจับแขนที่บาดเจ็บของตัวเองและยืนขึ้นอย่างเงียบๆ และมองไปยังบุคคลที่อยู่ข้างหน้าเขาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
“เป็นไปได้อย่างไรกัน? บนโลกนี้มีคนที่ทรงพลังเช่นนี้ด้วยเหรอ คนคนนี้เป็นใครกันแน่? ”
ในบรรดาคนที่มีอายุเท่าหวางหวู่ ถังเฉาเป็นคนเดียวที่แข็งแกร่งถึงขั้นนี้ได้
เท่าที่เขาจำได้ โดยปกติแล้วคนที่มีอายุเท่าตัวเองมักจะมีความสามารถที่อ่อนกว่าตัวเอง แต่ถังเชียวที่อยู่ตรงหน้าเขากลับเป็นสิ่งดำรงอยู่ที่สามารถเอาชนะตัวเองได้อย่างง่ายใด และหวางหวู่ยอมรับความจริงนี้ไม่ได้จริงๆ
“ถึงนายจะไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น แต่ในวัยนี้ ระดับนายก็ถือว่าไม่เลวแล้ว อย่าท้อถอยและกลับไปฝึกฝนให้ดีเถอะ”
ถังเฉาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ปกติหวางหวู่เป็นคนที่ฟังคำสั่งสอนของอาจารย์ตัวเองเท่านั้น แต่ตอนนี้เขารับฟังอย่างตั้งใจมาก และการได้รับคำชมจากถังเฉาทำให้เขารู้สึกมีความสุขจากใจจริง
“นายควรบอกให้ฉันรู้ตั้งแต่แรกว่านายเป็นคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หากเป็นเช่นนั้นเรื่องวุ่นวายอย่างวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น มันยังทำให้ฉันได้รับบาดเจ็บด้วย เสียเวลาจริงๆ”
“นายทุบตีฉันจนสาหัสขนาดนี้ ต่อไปถ้าฉันมีคำถามเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้มาถามนาย นายต้องให้คำตอบแก่ฉันนะ ”
ทัศนคติของหวางหวู่เปลี่ยนไปดังฟ้ากับดิน หลังจากที่เห็นสาระรูปณเวลานี้ของหวางหวู่แล้ว ถังเฉาก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ จากนั้นเขาก็กล่าวว่า
“ไม่ต้องห่วง เราทุกคนล้วนเป็นสมาชิกของตระกูลถัง วันหลังถ้ามีอะไรจะถามฉัน ก็เข้ามาถามได้ทุกเมื่อเลย ไม่ต้องเกรงใจ”
เห็นได้ชัดว่าประโยชน์ดังกล่าวนั้นพูดขึ้นมาเพื่อหวางหวู่โดยเฉพาะ เพราะในระยะเวลาอันสั้นนี้ ตระกูลถังไม่มีทางเปลี่ยนไปเป็นครอบครัวอื่นแน่นอน
ด้วยความแข็งแกร่งอันทรงพลังของถังเฉา เขาก็ยอมรับมันเช่นกัน
“ดี ถ้งอย่างนั้น ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ ถ้ามีโอกาสฉันมาหานายแน่”
พูดจบหวางหวู่ก็หันหลังและเดินจากไปโดยตรง และตอนนี้สิ่งที่ถังเฉาจะต้องเผชิญก็คือผู้นำของตระกูลถัง
ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าถังเฉามีทักษะที่ทรงพลังเช่นนี้
และจากการต่อสู้ในเมื่อสักครู่นี้ ทุกคนสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ออร่าที่หลั่งออกมาจากการต่อสู้ในเมื่อสักครู่นี้ของถังเฉาคือออร่าแห่งสายพระจันทร์ ตามสามัญสำนึก เขามีคุณสมบัติในการเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำมากที่สุด
ในฝูงชนที่เต็มไปด้วยเสียงจ้อกแจ้กจอแจ ถังยวนได้ยินเสียงแผ่วเบาที่กำลังพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับสายพระจันทร์อยู่
ทันใดนั้น ถังยวนก็รู้สึกว่าสถานะของตัวเองไม่ได้มั่งดงดั่งเช่นเคยแล้ว
ตอนนี้ มีเพียงวิธีเดียวที่จะสามารถรักษาตำแหน่งของตัวเองได้ นั่นก็คือพูดจาใส่ร้ายถังเฉาอย่างเต็มที่
“ไม่เห็นจะเก่งตรงไหนเลย เขาก็แค่แอบใช้อุปกรณ์ลับที่มิมาจเปิดเผยให้คนอื่นรู้ได้จริงไหม? ถ้าฉันมีอุปกรณ์ประเหล่านั้นเหมือนเขา ฉันก็สามารถที่จะสังหารเทวดาผีสิงที่บังอาจมาขวางหน้าฉันได้เช่นกัน”
ประโยคฉับพลันนี้ ดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที