เมื่อก่อนฐานะของน้าถังเยว่หวาก็อยู่เหนือคนนับหมื่นและก้มหัวให้เพียงคนคนเดียว แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น สถานการณ์ทั้งหมดก็พลิกผัน” ถังยวนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
ถังเฉาฟังถังยวนแจกแจงมา สายตาหนักอึ้งสุดๆ หัวใจก็เดือดดาลอยู่ตลอด
ฟังจากที่ถังยวนพูด ก็คือตอนนี้ในราชวงศ์ต้าเซี่ยมีคนครึ่งหนึ่งที่เลือกปลดหญิงนักบุญ และอีกครึ่งหนึ่งเลือกสนับสนุนหญิงนักบุญ
ส่วนพรรคที่เลือกไม่ปลดหญิงนักบุญมีผู้นำเป็นน้าเล็กของถังเฉา ถังเยว่เหมย
อีกพรรคที่สนับสนุนให้ปลดหญิงนักบุญมีผู้นำเป็นผู้อาวุโสใหญ่
“บอกตามตรง เพื่อชิงอำนาจในการตัดสินใจนี้ ตระกูลถังให้ความสำคัญกับการแข่งขันสมาคมบูโดมาก เพราะหากได้เป็นผู้ชนะเลิศ ก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้ และให้คำตอบสุดท้าย”
ถังเฉาฟังจบก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนนี้มีคนมากมายต้องการเป็นผู้ชนะเลิศของการแข่งขันสมาคมบูโดครั้งนี้
เพราะนี่ไม่ได้เป็นเพียงชื่อเสียงของตระกูลเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงสิทธิในการลงคะแนนเสียงอีกด้วย
หากมีสิทธิการออกเสียงนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีคนมากมายเข้ามาประจบ และเป็นการเพิ่มรางวัลของผู้ชนะเลิศในครั้งนี้ด้วย
หลังจากฟังสิ่งที่ถังยวนพูดจบ ถังเฉาก็รับปากว่าจะนำอุปกรณ์ไฮเทคกลับมาให้เขา และออกไปทันที
“ถังเยว่เหมยคนนี้ฉันไม่เคยได้ยิน แต่คนที่เป็นแกนนำต่อต้านการปลดหญิงนักบุญได้ ดูท่าน่าจะเก่งกาจมาก”
ถังเฉารู้ว่าหากยกเลิกระบบหญิงนักบุญ แม่ของตัวเองก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้น หรืออาจจะถูกราชวงศ์ต้าเซี่ยเผาทั้งเป็น ดังนั้นชัยชนะของถังเยว่เหมยสำคัญมาก
พูดไป ถังเฉาก็ตั้งใจจะไปเยี่ยมเยียนถังเยว่เหมยคนนี้ด้วยตัวเอง
เขาถามตลอดทาง จนในที่สุดถังเฉาก็รู้ที่อยู่ของคนคนนี้
แม้ว่าถังเยว่เหมยก็เป็นหนึ่งในชนชั้นสูง แต่ไม่ชอบความวุ่นวายมากมายเหล่านั้น จึงเลือกอยู่คนเดียวที่หมู่บ้านบนเขาเล็กๆปลีกวิเวก
หมู่บ้านแห่งนี้จึงมีชื่อว่าวิลล่าเยว่เหมย
ภายในวิลล่าเยว่เหมย ถึงแม้จะมีคนอยู่ไม่กี่คน แต่กลับเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต ถังเฉามาถึงตีนเขาของวิลล่าเยว่เหมยก็สัมผัสได้ถึงพลังอัศจรรย์บางอย่าง
แต่วิลล่าแห่งนี้ใช่ว่าอยากขึ้นก็ขึ้นได้
ถังเฉาเพิ่งมาถึงที่นี่ แต่มองขึ้นไปจากด้านล่างก็รู้แล้วว่าทำไมถังเยว่เหมยถึงเลือกที่จะอาศัยในสถานที่แห่งนี้
ทั้งตีนเขาของวิลล่าเยว่เหมยไม่มีจุดให้คนวางเท้าเลยสักจุด ต้องปีนขึ้นไปทีละก้าวด้วยพลังแกร่งกล้าที่ตัวเองฝึกฝนมา
ถังเยว่เหมยมีพลังแข็งแกร่ง จึงขึ้นไปได้เป็นธรรมดา แต่สำหรับคนอื่นๆคงไม่ง่ายขนาดนั้น
โชคดีที่ถังเฉาไม่ได้รู้สึกว่าวิลล่าด้านหน้าแห่งนี้ปีนยากเท่าไหร่
ในไม่ช้า ถังเฉาก็มาถึงด้านบนสุดของวิลล่า
มองลงไปจากด้านบนถังเฉาถึงรู้ว่าวิลล่าแห่งนี้สูงแค่ไหน และบนวิลล่านี้มีสายน้ำเล็กๆไหลผ่านด้วย
ถังเฉาเดินเลาะสายน้ำไป ก็เห็นผืนทะเลสาบ
ตอนแรกเขาคิดว่าไหนๆตัวเองก็มาถึงที่นี่แล้ว และไม่ได้อาบน้ำอาบท่าดีๆมาหลายวัน ถังเฉาจึงเดินเข้าไปหมายจะล้างหน้า
ตอนแรกทุกอย่างยังปกติ แต่เมื่อถังเฉาเริ่มเข้าใกล้ทะเลสาบ กลับได้ยินเสียงน้ำไหล
ถังเฉาหันไปมอง ก็พบว่ามีร่างร่างหนึ่งนั่งตระหง่านอยู่ในน้ำ
รูปร่างเพรียวบางให้ความรู้สึกดอกบัวกลางน้ำ ถังเฉาอดนิ่งมองไม่ได้ แต่แล้วในตอนนั้นเอง บุคคลในน้ำหันกลับมามองถังเฉา ถังเฉาถึงรู้ตัวในตอนนี้ว่า คนตรงหน้านี้เป็นหญิงสาววัยละอ่อน
“ใครกันที่เข้ามา ถึงบังอาจกระทำบัดสีบัดเถลิงเช่นนี้ รีบไสหัวออกไปซะ!”
เขาเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนนั้นโดยไม่ตั้งใจ จึงรีบปิดตาตัวเองและหันกลับไปมอง
แต่ที่คิดไม่ถึงคือผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที เสียงของหญิงสาวคนนั้นก็หายสาบสูญไปในทะเลสาบ
ถังเฉาหันกลับไปมองด้วยใจที่สงสัย และไม่พบใคร เห็นเพียงตรงตำแหน่งเดิมนั้นเกิดริ้วน้ำขึ้นมานิดหน่อย
เขามองไปก็พบว่าไม่มีใครอยู่ในน้ำ หลังจากนั้น ถังเฉาถึงกลับไปอยู่ริมฝั่งทะเลสาบอย่างสบายใจ
แต่ในตอนนั้นเอง ที่มีร่างหนึ่งพุ่งไปที่ถังเฉาอย่างรวดเร็ว
เมื่อมาอยู่ตรงหน้าถังเฉา ร่างนั้นยื่นขาขวาออกไป เตะเข้าที่หน้าของถังเฉา
แน่นอนว่าเตะไม่โดนถังเฉา แต่เขาไปซ่อนอยู่ด้านหลังของหญิงสาวด้วยความเร็วปานสายฟ้า กอดเธอหมับก่อนจะเหวี่ยงไปที่ต้นไม้ด้านข้าง
ถังเฉาไม่อยากทำร้ายคนคนนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าคนที่มีทักษะดีเช่นนี้จะเป็นผู้หญิง
ครั้งล่าสุดที่เห็นผู้หญิงที่ทักษะดีขนาดนี้ก็มีเฟิ่งหวงนี่แหละ คิดไม่ถึงว่าจะเจอคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้
“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน ถึงบุกรุกเข้ามาในเขตต้องห้ามของสตรี แกรู้มั้ยว่าสถานที่แห่งนี้ห้ามผู้ชายเข้า”
ถังเฉามีสีหน้าไร้เดียงสา และบอกไปว่าตัวเองไม่รู้จริงๆ ถึงยังไงตั้งแต่ขึ้นมาจากตีนขา ตัวเองก็ยังไม่เห็นป้ายใดๆที่ระบุว่าห้ามผู้ชายเข้า
เขามองผู้หญิงที่ร้องไห้อยู่ข้างหลัง และพี่สาวคนหนึ่งที่ดูยังละอ่อนอยู่ ถังเฉาทำอะไรไม่ถูก
“เสี่ยวยี เธอไปก่อน ที่นี่ปล่อยให้ฉันจัดการก็พอ”
ผู้หญิงที่ร้องไห้อยู่ก็จากไปทั้งที่ยังร้องไห้อยู่อย่างนั้น
เมื่อเห็นถังเฉาส่ายหัว หญิงสาวคนนั้นก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เตรียมโจมตีอีกครั้ง และถังเฉาก็โบกมืออย่างบ้าคลั่งพลางกล่าว
“คุณครับ คุณอย่าเข้าใจผิด ผมมาที่นี่เพื่อตามหาถังเยว่เหมย ไม่ได้ตั้งใจมาดูคุณอาบน้ำครับ”
คำพูดของถังเฉาทำเอาหญิงสาวสองคนหน้าแดง ทำอะไรไม่ถูก
ทว่าหลังจากที่หญิงสาวได้ยินคำพูดของถังเฉาแล้ว นอกจากทำอะไรไม่ถูกยังมีสีหน้าเกรี้ยวกราดอีกด้วย คำว่าอับอายจนพาลโมโหดูจะเข้ากับสถานการณ์นี้ได้เป็นอย่างดี
“ภูเขาลูกนี้ไม่ใช่ว่าจะขึ้นมาได้ง่ายๆหรอกนะ และคนที่รู้จักที่นี่ต้องรู้จักชื่อถังเยว่เหมยของฉันด้วย ของฉัน ถ้ำมองก็คือถ้ำมอง ทำไมต้องโกหกด้วย?”
ถังเฉาได้ยินว่าผู้หญิงคนนี้ก็คือถังเยว่เหมยที่ตัวเองกำลังตามหา พลันสุขใจขึ้นไม่น้อย
“อีกอย่าง นายเป็นใครกัน ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นนายที่ตระกูลถังมาก่อนเลยล่ะ ถ้าไม่ใช่คนตระกูลถังไม่มีทางรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่”
“รีบบอกมาว่านายเป็นใคร?”
ถังเฉาจำคำพูดของถังซานฉ่ายได้ และยังรู้ด้วยว่าที่ถังซานฉ่ายพูดนั้นไม่ได้โกหก เขากลอกตาไปมาก่อนจะตอบ
“ชื่อของผมคือถังเชียว เป็นคนตระกูลถัง ถ้าไม่เชื่อคุณจะโทรลงไปถามก็ได้ครับ”
ทว่าเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ สายตาของถังเยว่เหมยไม่ได้ฉายแววเคลือบแคลง หากแต่แสดงอารมณ์ความรู้สึกผ่านตาคู่นั้น
“นายเป็นใครกันแน่ ทำไมฉันเห็นนายแล้วถึงมีความรู้สึกคุ้นเคยสุดๆอันน่าประหลาดล่ะ?”
หลังจากได้ยินประโยคนี้ ถังเฉาก็อ่อนไหว เขาถอนหายใจ มองถังเยว่เหมยตรงหน้าและกล่าว “ชื่อของผมคือถังเฉา”
ฟึ่บ!
เมื่อได้ยินชื่อของถังเฉา สายตาของถังเยว่เหมยเป็นประกาย นัยน์ตาตื้นตันขึ้นมาทันที