ท้ายที่สุดแล้ว คนที่เกิดและเติบโตในตระกูลถัง คำพูดของเขาย่อมมีพลังมากกว่าถังเฉาอยู่แล้ว เพียงไม่กี่คำก็สามารถที่จะระดมจุดยืนของคนส่วนใหญ่ในตระกูลถังแล้ว
“คุณพูดถูก เหมือนฉันก็เคยได้ยินว่าครั้งก่อนเขาก็เอาชนะถังโจ่ด้วยวิธีนี้เช่นกัน ไม่น่าเชื่อเลยว่าเพิ่งผ่านไปได้ไม่กี่วัน เขาก็ใช้วิธีเดิมนำชัยชนะสู่ตัวเองอีกครั้ง หากหวางหวู่รู้ว่าเขาเป็นคนร้ายกาจเช่นนี้เขาจะต้องรู้สึกผิดหวังแน่เลย”
“ใครว่าไม่ใช่ล่ะ บนโลกนี้จะมีคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร อยู่ข้างนอกตั้งหลายปีกลับมาปุ๊บก็กลายเป็นยอดฝีมือทันที เหลวไหลชัดๆ ? ”
ทุกคนพิพากษ์พิจารณ์ไม่หยุด และไม่มีใครคิดว่าการที่ถังเฉาได้ช่วยชีวิตคนของตระกูลถัวในเมื่อสักครู่นี้เป็นการช่วยเหลือพวกเขา ในทางตรงกันข้ามพวกเขาให้ความสำคัญกับอุปกรณ์เสริมที่ถังเฉาใช้มากกว่า
เพียงแต่ว่าถังเฉาไม่ได้สนใจมากนัก เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองออกมาให้ทุกคนเห็นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เมื่อกี้นี้หากไม่ใช่เพราะถังยวนพ่ายแพ้การต่อสู้ ถังเฉาไม่มีทางแสดงฝีมืออย่างแน่นอน
ก่อนที่คนอื่นจะพูด ถังเฉาก็ริเริ่มที่จะเดินไปที่ประตูกะจะจากไปโดยตรง
แต่ในขณะนั้นเอง ถังเฉาก็ได้ยินผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังเขาพยายามที่จะให้ความยุติธรรมแก่เขา
“คุณจะใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นแบบนี้ไม่ได้นะ! ถังเฉาไม่มีทางทำอย่างนั้นหรอก ถ้าพวกคุณเก่งนัก ทำไมเมื่อกี้นี้พวกคุณไม่ออกมาต่อต้านหวางหวู่ล่ะ? แหม แต่ละคนพูดซะสวยหรูเชียว แต่ในระหว่างการต่อสู้นั้น ไม่เห็นมีใครกล้าออกมาเลยสักคน”
คำพูดสั้นๆ ของถังเชียนเชียนทำให้ทุกคนหุบปากในทันที มันก็ตรงตามที่ถังเชียนเชียนกล่าว วินาทีที่เกิดเรื่องไม่มีใครกล้าเสนอตัวออกมาเลย แต่ในทางตรงกันข้ามหลังจากจบการต่อสู้แล้ว พวกเขากลับปากมากกว่าใครๆ
“เอาล่ะ หยุดพูดกันได้แล้ว มันก็เหมือนกับที่เชียนเชียนพูด ถ้าพวกคุณแน่จริง ทำไมเมื่อสักครู่นี้พวกคุณถึงไม่ลุกขึ้นมาต่อต้านหวางหวู่ล่ะ แต่ตอนนี้พวกคุณกลับกล่าวหาคนที่กล้าที่จะลูกขึ้นสู้ซะงั้น ”
“ อีกอย่างหนึ่งถังเฉาไม่ได้ไขว่คว้าชัยชนะด้วยอุปกรณ์เสริมใดๆ ทั้งนั้น พวกคุณจะลงมติตามใจตัวเองแบบนี้ไม่ได้ และฉันก็ไม่เห็นเขาใช้อุปกรณ์เสริมอะไรมาทำให้เขาได้รับชัยชนะในครั้งนี้ด้วย สรุปคือฉันยอมรับชัยชนะในครั้งนี้ของเขาและฉันก็จะมอบรางวัลที่คู่ควรแก่เขาด้วย
คำพูดของถังซานฉ่ายทำให้ถังยวนที่อยู่ข้างๆรู้สึกสิ้นหวังมาก ก่อนจะมาถึงจุดนี้ได้เขาต้องสร้างเนื้อสร้างตัวมาตั้งหลายปี ตอนนี้เขาเพิ่งจะมีความหวังที่จะได้เป็นผู้นำของครอบครัวได้ไม่นาน แต่กลับได้ยินคำพูดเหล่านี้ ทำให้จิตใจเขาหนักหนาราวกับหินก้อนใหญ่ที่ตกลงมาจากที่สูงกว่าพันฟุตในทันที
หลังจากการแข่งขันสิ้นสุดลง ถังยวนก็มาพบถังเฉาในทันที
“ ถังเฉา นายหมายความว่าไง? นายมีสิ่งที่ทรงพลังเช่นนี้ ทำไมถึงไม่นำมันมาให้ฉันแต่กลับเก็บไว้ใช้เองล่ะ นายต้องการที่จะชนะการแข่งขันชิงแชมป์กับฉันหรือ?”
ถังเฉารู้แต่แรกแล้วว่าถังยวนจะมาหาเขาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ และถังเฉาก็ไม่รู้ควรอธิบายอย่างไรเช่นกัน เพราะเขาไม่ได้ใช้อุปกรณ์เสริมใดมาเป็นตัวช่วยจริงๆ
“ผมเคยบอกตั้งแต่แรกแล้วว่า ผมไม่ได้ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงอะไรเลย ผมใช้หมัดเปล่าในการต่อสู้จริงๆ อีกอย่างสิ่งที่คุณขอมาผมก็ให้คุณไปแล้ว คุณยังจะเอาอะไรกับผมอีก? ”
ถังยวนอดที่จะเยาะเย้ยไม่ได้ “เป็นไปได้ยังไง? สิ่งที่คุณพูดมี้ความน่าเชื่อถือตรงไหน? หวางหวู่เป็นคนระดับไหนคุณก็รู้ไม่ใช่หรือ? นายคิดว่าตัวเองจะสามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดายหรือ? ”
“ถ้านายบริสุทธิ์จริง นายก็ต้องยอมให้ฉันค้นตัวเดี๋ยวนี้ ทุกคนจะได้รู้ว่านายซ่อนอะไรไว้ในร่างกายกันแน่ ”
ถังเฉาไม่มีทางยอมให้คนอื่นมาค้นตัวเขาง่ายๆ หรอก เขาปฏิเสธคำขอของถังยวนโดยตรง
และถังยวนไม่กล้าที่จะยั่วโมโหถังเฉา เขาคิดว่ามีเทคโนโลยีชั้นสูงบางอย่างถูกซ่อนอยู่ในร่างกายของถังเฉา เขากลัวว่าตัวเองจะได้รับบาดเจ็บ จึงทำได้แค่ยืนมองถังเฉาอย่างเย็นชาและบอกว่า
“นายอย่าได้ใจให้มันมากนักเลย ฉันใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลถังเป็นเวลาหลายปีแล้ว คิดเหรอว่าฉันจะจัดการกับเด็กเมื่อวานซืออย่างแกไม่ได้?”
“ไม่ช้านักหรอก นายจะหายสาบสูญไปจากราชวงศ์ต้าเซี่ยและตระกูลถังในเร็วๆ นี้ ”
ถังเฉาไม่ได้หันศีรษะกลับมาด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่ได้ใส่ใจกับประโยคสุดท้ายของถังยวนเลยสักนิด
เพียงแต่ถังเฉาถูกปลุกให้ตื่นโดยเสียงเคาะประตูในเช้าวันรุ่งขึ้น
“ใครมาเคาะประตูของฉันแต่เช้าเนี่ย! ”
เพราะเมื่อคืนนี้ถังเฉานอนดึกมาก และตอนนี้เพิ่งจะหกเจ็ดโมงเช้า ก็มีคนมาเคาะประตูของเขาแล้ว พูดตามตรงมันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
เพียงแต่ว่าอาศัยอยู่ในบ้านเขา ถังเฉาก็ทำได้แค่ฝืนใจเดินไปเปิดประตู
โชคดีที่เปิดประตูแล้ว ก็พบว่าคนตรงหน้าไม่ใช้คนที่เกลียดชังอะไร แต่เป็นถังเชียนเชียน
“เชียนเชียน? ทำไมคุณมาหาผมในเวลาเช้าตรู่แบบนี้ล่ะ? ”
เห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและความตื่นเต้นของถังเชียนเชียนแล้ว ถังเฉาไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นจริงๆ
เขาเห็นถังเชียนเชียนหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา จากนั้นก็ชี้บางสิ่งที่อยู่บนหน้าจอให้ถังเฉาดูอย่างรวดเร็ว “คุณดูนี่สิ คนคนนี้ก็คือคุณไม่ใช่เหรอ? ดูเหมือนชื่อเสียงของคุณจะโด่งดังไปทั่วแล้วนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ถังเฉาถึงยอมดูอย่างละเอียด และพบว่าเรื่องที่เขาต่อสู้กับหวางหวู่ในเมื่อวานนี้ถูกแพร่กระจายออกไป และผลที่ตามมาก็คือชื่อของถังเชียวก็ถูกแพร่กระจายไปทั่วราชวงศ์ต้าเซี่ยเช่นกัน
“ผมนึกว่าเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรซะอีก? เรื่องแค่นี้เองเหรอ ถ้าไม่มีธุระอื่น ผมขออนุญาตกลับไปนอนต่อนะ เธอก็รีบกลับไปนอนเถอะ”
พูดจบถังเฉาก็เตรียมที่จะปิดประตู ทุกการเคลื่อนไหวของถังเฉาทำให้ถังเชียนเชียนที่อยู่ตรงหน้าเขาทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย
“พี่ถังเฉาค่ะ ตอนนี้คุณเป็นผู้ถูกแย่งชิงอย่างดุเดือดของสายฟ้ากับสายดินและสายจิต ทั้งสามสายเลยนะ คุณไม่รู้สึกตื่นเต้นสักนิดเลยเหรอ? คุณรู้หรือเปล่าว่าผู้คนที่ต้องการตัวคุณเหล่านี้ เป็นถึงผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดของแต่ละสายเชียวนะ”
“ถ้าคุณฝึกวิชากับพวกเขา คุณจะหมดความกังวลทาฃั้งชีวิตเลยแหละ และคุณจะกลายเป็นคนที่แข็งเกร็งที่สุดในโลก! ”
เมื่อพูดถึงจุดนี้ ถังเฉาก็นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้
“ พูดถึงเรื่องที่ฉันถูกแย่งชิงอย่างดุเดือด ในสามสายนี้ฉันจะไม่เลือกสักสายเลย เพราะฉันอยากเป็นตัวแทนของสายอื่น ”
ถังเชียนเชียนมองถังเฉาด้วยใบหน้างุนงง และตั้งหน้าตั้งตารอประโยคต่อไปของถังเฉา
“แล้วคุณจะต่อสู้เพื่อสายไหนเหรอ? ”
ถังเฉายิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ ฉันจะต่อสู้เพื่อสายพระจันทร์”
หลังจากได้ยินคำพูดดังกล่าว ถังเชียนเชียนก็ตะลึงงันไปเลย และในเวลาเดียวกันคำพูดเหล่านั้นก็สะดุดใจของเธอเล็กน้อย
ในบรรดาสมาชิกของตระกูลถังทั้งหมด มีเพียงถังเชียนเชียนคนเดียวเท่านั้นที่เป็นสายพระจันทร์ ดังนั้นตระกูลถังจึงไม่มียอดฝีมือที่เป็นสายพระจันทร์เลยสักคน
ตอนนี้มีถังเฉาเพิ่มมาอีกคน แถมยังมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นตัวแทนของสายพระจันทร์ด้วย แสดงว่าชีวิตของถังเชียนเชียนจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ในที่สุดถังเชียนเชียนก็สามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของสายอื่นๆ และฝึกวิชาของสายพระจันทร์แท้ๆ กับถังเฉาสักที
ในขณะที่ถังเฉากำลังสงสัยว่าถังเชียนเชียนจะบอกอะไรกับเขานั้น ถังเชียนเชียนก็กล่าวอย่างแน่วแน่ว่า
“ เยี่ยมไปเลย พี่คะฉันจะสนับสนุนพี่เอง และฉันก็จะต่อสู้เพื่อสายพระจันทร์เช่นกัน ”
พูดตามตรงเมื่อถังเฉาได้ยินว่าถังเชียนเชียนสนับสนุนตัวเองขนาดนี้เขารู้สึกดีใจมาก อย่างน้อยก็พิสูจน์ให้รู้ว่าผู้หญิงที่ไร้เดียงสาคนนี้ ไม่ได้ร้ายกาจเจ้าเล่ห์เหมือนคนอื่นๆ ในตระกูลถัง
ถังเฉาหันหลังและศีรษะกลับมาจากนั้นก็พูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า
“ถ้าอย่างนั้น ต่อไปนี้เธอต้องติดตามฉันให้ดีนะ”