จักรพรรดิมารหวนคืน – ตอนที่ 289

บทที่ 289 การยั่วยุ

“คุณ ก็คือราคานี้!”

สีหน้าของจางหยางไม่เป็นมิตร

“ตอนนี้ ผมไม่ลดราคา ให้คุณแล้ว ราคาเดิมคือหินทิพย์

ระดับล่างห้าร้อยก้อน หนึ่งก้อนก็ลดไม่ได้

ในขณะที่เสียงนั้นลดลง ท่าทางที่โอ่อ่าของจางหยางใน แดนเส้นทงชั้นต้น ก็ปกคลุมไปยังเฉินจิ้น

“ไสหัวไป!”

สีหน้าของเฉินจิ้นเย็นชาทันที

พ่นค่าหนึ่งคําออกมา

นำคลื่นเสียงที่มองไม่เห็นขึ้นมา มันทําให้ออร่าของจาง

หยางแตกสลายและแตกเป็นเสียง

สีหน้าของจางหยางเปลี่ยนไป

เฉินจิ้นเป็นเพียงชั้นสูงสุดของแดนฝึกลม กลับสามารถ สลัดความกดดันของตนออกไป

“ไอ้หนุ่ม ผมขอเตือนคุณ มอบหินทิพย์ออกมาดีๆ เราซื้อ ขายกันตามปกติ ถ้าคุณต้องการเอาเปรียบ งั้นคุณก็เลือกผิด คนละ”
จางหยางกล่าวต่อ

ในเวลาเดียวกัน ก็มีคนอีกสองสามคนเดินเข้ามาใน

ทิศทางของเฉินจิ้น

เห็นได้ว่าเป้าหมายคือเฉินจิ้น

“ถ้าอย่างนั้น พวกคุณเลือกผมเป็นแกะของพวกคุณ ต้องการฆ่าผม งั้นพวกคุณก็เลือกคนผิดแล้วเหมือนกัน!

“ และราคานี้ พวกคุณอาจจะทนรับไม่ได้!

เฉินจิ้นกล่าวจางๆ

“จริงเหรอ?ไอ้หนุ่ม คุณไม่เห็นบนแผนที่ซึ่งมีเครื่องหมาย หนึ่งในกองกำลังที่ไม่สามารถยั่วยุได้ สำนักเสวียนเทียนเห

รอ?”

ในเวลานี้ มีคนอื่นๆเดินเข้ามาด้วยเช่นกัน

ล้อมรอบเฉินจิ้นไว้ตรงกลาง และพูดออกมา

การเคลื่อนไหวทางนี้ ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวน

มาก

แต่ไม่มีใครยืนขึ้นและพูดอะไรบางอย่าง พวกเขาเคยเห็น เรื่องแบบนี้มามากแล้ว และในทำนองเดียวกัน พวกเขาทุก คนมีความคิดที่รอดูอะไรสนุกๆ

สำนักเรียนเรียน ขี้หมาอะไรกัน ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน!”

เฉินจิ้นยิ้มเยาะ

ในโลกเป็นหนึ่งเดียว กองกำลังที่สามารถเข้าตาของเขามี เพียงมีผู้แข็งแกร่งแดนวิญญาณปกครองดูแลเท่านั้น

เฉินจิ้นได้รู้จักชื่อของผู้มีอำนาจตระกูลและสำนักเหล่านั้น

แล้ว

ไม่มีสำนักเสวียนเทียนเลย

สำนักที่ไม่มีแดนวิญญาณปกครอง เฉินจิ้น สามารถ ทําลายได้ในภายหลัง

* คุณกล้าดูถูกสำนักเสวียนเทียนของเรา หาที่ตายชัดๆ!

การแสดงออกของจางหยางมืดมนอย่างสมบูรณ์

ยื่นมือออกไปจับเฉินจิ้น

มีข้อบังคับในเมืองตงเส็ง ห้ามมิให้ต่อสู้ตามความ ประสงค์ แต่โดยทั่วไปแล้ว ขอเพียงแค่ไม่มีการต่อสู้ขนาด ใหญ่หรือการสู้รบที่หายวับไป ก็จะไม่มีใครมาสนใจ

และเขาอยู่ในแดนเงินทง หากเขาต้องการที่จะชนะชั้น สูงสุดของแดนฝึกลมอย่างเฉินจิ้น กระบวนท่าเดียวก็เพียง พอแล้ว!

อย่างไรก็ตาม ในมือของจางหยาง ขณะที่เขาจับเงินขึ้น
เฉินจิ้นยกมือขึ้นพร้อมกับสะบัด

ปัดไป จางหยาง!

“หา!”

ทันใดนั้น จางหยางก็กรีดร้อง

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก

มือขวาที่เขาไปคว้าเฉินจิ้น ถูกทำลายแล้ว!

ทันใดนั้น ความเจ็บปวดที่เสียดแทงหัวใจก็เกิดขึ้น

“ ไอ้สัส มึงกล้า!”

ในเวลานี้ มีคนอื่นหลายคนลงมือ ในเวลาเดียวกัน พวก เขาทั้งหมดก็โหดร้ายมากจนถึงสุดขีด

ต้องการจัดการเงินจิ้นในครั้งเดียว

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ผู้คนที่เข้ามาและบินออกไปจาก

เฉินจิ้นทีละคน

เส้นลมปราณทั้งหมดแตก!

กระดูกหัก!

ทุกคนถูกทําลาย ในทันที

บรรดาผู้ที่ต้องการชมการแสดงสนุกๆ ต่างประหลาดใจ ข้างหลังเฉินจนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ชายหนุ่มในชุดดำปรากฏหล่อมาก!

แต่ออร่าที่หลั่งออกมาจากร่างกายของเขา ทำให้ทุกคน

ตกใจ

แดนเส้นให!

ทันใดนั้น ทุกคนก็ได้ข้อสรุป

ไม่น่าแปลกใจที่เฉินจิ้นไม่กลัวสำนักเสวียนเทียน

ทุกคนต่างก็มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น

คนเหล่านี้ของสำนักเสวียนเทียน มันเป็นเพียงแค่พวกหัว มังกุท้ายมังกรเท่านั้น

มีแดนเงินให้เป็นผู้นำ นำพากลุ่มนักฝึกเดี่ยว สร้างเป็นก องกำลังหนึ่ง

วันๆเอาแต่หลอกเงินคนอื่น!

เพียงแค่ว่า พวกเขารู้ที่ต่ำที่สูง ไม่เคยละเมิดผลประโยชน์ ของกองกำลังใหญ่ในท้องถิ่น

นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมจึงไม่มีผู้คนหรือกองกำลังใหญ่มา

จัดการพวกเขา!

คนของสำนักเสวียนเทียน คราวนี้ พวกเขาเตะโดนแผ่น เหล็กแล้ว!
ในใจของจางหยาง ตกใจอย่างมากในทันที

สมาชิกของสำนักเสวียนเทียนทั้งหมด ถูกจัดการกลาย เป็นคนไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ส่วนเขา ถูกทำลายแต่มือข้าง

เดียว

จางหยางไม่รู้ว่าเขาควรจะโชคดีหรือรู้สึกโชคร้าย

อย่างไรก็ตาม จางหยางรู้ดีว่า ถ้าเขาทำให้คนที่มีแดนเงิน ให้หนุนหลังขุ่นเคือง ถ้าไม่ฉลาดหน่อย จุดจบจะไม่ได้ดีไป กว่าคนเหล่านั้นอย่างแน่นอน

จากนั้น จางหยางก็คุกเข่าลงโดยตรง

“เป็นเพราะผมมีตาแต่หามีแววไม่ ขอให้ผู้อาวุโสไว้ชีวิต ผมด้วยเถอะ!”

พูดจบ จางหยางก็ก้มลงและวางร่างของเขาไว้ในตำแหน่ง

ทําต่อยมาก

นี่เป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไมเขาถึงมีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอน

ยึดได้หดได้!

“ไสหัวไป!”

เฉินขึ้นไม่ต้องการฆ่าคนเมื่อเขาเพิ่งมาที่เมืองเชิงเฉิงเป็น

ครั้งแรก

นี้
จางหยางได้ยิน แม้ว่าในใจของเขาจะเกลียดเฉินขึ้นมาก แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะแสดงมันออกมา

ทันใดนั้น เขาก็กลิ้งไปที่จุดนั้นและกลิ้งไปในระยะไกลด้วย

ทํากลิ้ง

ศักดิ์ศรีนั้น ไม่สำคัญ

ชีวิต มีความสำคัญกว่า

กลับไป บอกหัวหน้า ให้หัวหน้ามาล้างแค้นให้ตนเองนี่คือ วิธีที่ถูกต้อง !

เฉินจิ้นเห็นจางหยางกลิ้งจริงๆ

ไม่ได้หัวเราะออกมาดังๆเหมือนผู้คนที่มุมดูรอบๆ แต่กลับมีนัยยะของการดูถูกในดวงตาของเขา

เขาดูถูกคนเช่นนี้

คนแบบนี้ ถ้าไม่มีหัวใจของผู้แข็งแกร่ง ก็ไม่มีทางกลาย เป็นผู้แข็งแกร่งได้อย่างแท้จริง!

เฉินจนไม่สนใจเขาอีก ทันใดนนั้นก็ออกจากที่นี่กับเป็นเต้า

อย่างไรก็ตาม เฉินจิ้นยังไม่ได้เดินไปสองสามก้าว

ก็หยุดลงด้วยเสียงเรียก

* ศิษย์พี่เฉิน!”
เสียงอ่อนหวานดังมา

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ปากของเฉินจิ้นก็มีรอยยิ้มที่น่าสนใจ

หันกลับไปมอง

เห็นสาวสวยกับสาวๆอีกหลายคน ยืนอยู่ข้างหลังที่ไม่ไกล จากเฉินจิ้น ทักทายเฉินจิ้น

แต่ละคน คือสาวน้อยที่กำลังรอเบิกบาน

ศิษย์น้องหวเอ๋อ! ”

เฉินจิ้นโบกมือ

หญิงสาวที่เป็นคนน่า คือสาวใช้คนสนิทของหนานกง

เขียนเอ๋อ ทรัวเอ๋อ!

“ พี่เซียนเอ๋อรู้ว่าศิษย์พี่มาที่เมืองเชิงเฉิง ดังนั้นจึงให้ฉัน มาต้อนรับศิษย์ โดยเฉพาะ!

หรั่วเอ๋อยิ้มหวาน

“นางฟ้ารู้ได้อย่างไรว่าผมจะมาเมืองเชิงเฉิง”

เฉินจนอดไม่ได้ที่จะถามด้วยรอยยิ้ม

แต่ในใจของเขา ไม่รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย

หนานกาเซียนเอ๋อ รู้มานานแล้วว่าเขาจะมาที่จงโจว เมือง

เชิงเฉิงไม่ช้าก็เร็ว
ส่วนร้านเดี่ยวหวี่ เป็นกองกำลังใหญ่ในจงโจว

การเคลื่อนไหวภายนอกค่ายส่งก่อนหน้านี้ เพียงพอที่จะ ทําให้ร้านเดี่ยวหวี่ตอบสนอง

* หาวเอ๋อไม่รู้ ถ้าศิษย์พี่อยากรู้ก็ไปถามพี่เซียนเอ๋อได้

เลย!”

หวเอ๋อยิ้มหวานอีกครั้ง

ให้ความรู้สึกใกล้ชิดสนิทกับผู้คนเป็นพิเศษ

“ถ้าอย่างนั้น รบกวนหรั่วเอ๋อช่วยนำทางให้หน่อย!!

เฉินจิ้นไม่ปฏิเสธ

“ศิษย์พี่เชิญตามฉันมา

หวเอ๋อดูเหมือนจะตื่นเต้นเล็กน้อย กระโดดไปมานำทาง

ให้กับเฉินจิ้น

เด็กผู้หญิงไม่กี่คนรอบๆ หวเอ๋อ จากไปอย่างเงียบๆ

เมืองเชิงเฉิง วัดที่โบราณแห่งหนึ่ง

เป็นสถานที่สอนของสำนักเสวียนเทียน

สถานที่ตั้งค่อนข้างห่างไกลจากเมือง
ไม่อลังการและยิ่งใหญ่เท่าพระราชวังและวังที่มี มหาอำนาจเหล่านั้นอยู่

“หัวหน้า วันนี้ ไอ้หนุ่มคนนั้น ไม่ได้ทำเห็นเราอยู่ในสายตา เลย จัดการพี่น้องของเราอย่างง่ายดาย มือของผมก็ถูกเขา ทําลายเช่นกัน สํานักเสวียนเทียนเราเสียหน้าหมด!”

จางหยาง เผชิญหน้าไปทางห้องโถง ร้องทุกข์ใส่ชายวัย กลางคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์

ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว ความแข็งแกร่งของแดนเงินให คนนั้น เป็นไง?

“ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าท่าน

จางหยาง ให้ค่าตอบยืนยัน

เพราะยังไง ความแข็งแกร่งของหัวหน้าก็เป็นแดนเงินไห ชั้นสูดกลิ่นอายของเวิ่นเท้า ไม่ได้มีพลังเท่าหัวหน้า

อย่างไรก็ตาม ชายวัยกลางคนไม่ได้โกรธเพราะเรื่องนี้ เขาสามารถอยู่รอดในเมืองเชิงเฉิงไม่ได้อาศัยพละกำลัง

แต่ ยอมแพ้!

คนที่ไม่สามารถรุกรานได้ จะไม่ทำให้โกรธเคือง

คนที่มีความแข็งแกร่งเท่าเทียมกัน ทำให้ขุ่นเคืองก็ไม่กลัว ก็จะไม่ไปผิดใจกับคนอื่นแน่นอน!
เฉพาะคนที่ไม่มีคนหนุนหลังหรือสนับสนุนจริงๆ เขาจึงจะ

ไม่สนใจมัน

แต่วันนี้ คนที่จางหยางพวกเขาไม่พอใจ เป็นคนที่ได้รับ การสนับสนุนจากแดนเงินให้

นอกจากนี้ ยังเด็กมาก

มันต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน

จางหยางเห็นหัวหน้าครุ่นคิด สีหน้าก็แย่ลงขึ้นเรื่อยๆ และ เขาก็พูดต่อทันทีว่า “หัวหน้าฝ่ายตรงข้ามไม่แข็งแกร่งเท่า ท่าน คราวนี้เราถูกตบหน้าอย่างรุนแรง หากเราไม่ไป ศักดิ์ศรีกลับมา ในอนาคต จะเป็นเรื่องยากที่จะตั้งหลักใน เมืองเซิ่งเฉิงเมื่อถึงเวลา ธุรกิจที่ทำกำไรเพียงอย่างเดียวของ เราก็จะไม่สามารถทำได้ง่ายๆแล้ว ”

วิธีการทำเงินในเมืองเชิงเฉิงถูกควบคุมโดยกองกำลัง ต่างๆทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก

สำนักเสวียนเทียนไม่กล้าที่จะรุกราน ไม่รุกรานผล ประโยชน์ของกองกำลังเหล่านั้น นี่เป็นวิธีใหม่ หาเป้าหมาย นักฝึกที่ไม่รู้จักเมืองเชิงเฉิงและขายแผนที่อธิบายสิ่งต่างๆ ของเมืองเชิงเฉิงให้กับพวกเขา

ผลกำไรที่ได้มาตลอดที่ผ่านมานั้น ถือว่าไม่น้อย นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของสำนัก
เสวียนเทียน

ยังเป็นสถานที่ที่หัวหน้า ให้ความสำคัญที่สุด

จางหยางแอบคิด ด้วยนิสัยของหัวหน้า มีเพียงวิธีนี้ เมื่อ บอกว่าธุรกิจได้รับผลกระทบ หัวหน้าจึงจะมีแนวโน้มที่จะยืน หยัดหรือยอมออกมาเพื่อเขา

เขาจึงจะมีโอกาสแก้แค้น

จริงอย่างที่คิด หลังจากที่เขาบอกว่าธุรกิจอาจได้รับผลก ระทบ สีหน้าของหัวหน้าก็แย่ลงยิ่งขึ้น

จางหยางแอบดีใจ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ บนบัลลังก์ไม่ได้คิดที่จะแก้แค้นให้เขา

แต่ว่า กำลังครุ่นคิดว่า ไอ้หมาจางหยางคนนี้ กลับใช้ใน นามของสํานักเสวียนเทียนทำให้คนที่อาจมาจากกองกำลัง ใหญ่ขุ่นเคือง

หากเขาจะไปขอโทษ นอกจากน่าชีวิตของจางหยางแล้ว ยังมีอะไรอีกที่ต้องนำไปด้วย จึงจะทำให้คนอื่นไม่ถือสา

สำหรับสิ่งที่จางหยางพูด ความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ไม่ดี เท่าเขา เขามองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ

สามารถบ่นเพาะอัจฉริยะในชั้นสูงสุดของแดนฝึกลมทําลายมือหนึ่งข้างของจางหยางที่อยู่ในแดนเส้นทงขั้นต้น ยังมีแดนเงินได้ที่อายุไม่ต่างกันมาก จะมองยังไง มีเฉพาะ กองกำลังขนาดใหญ่เหล่านั้นเท่านั้นที่สามารถบ่นเพาะคน แบบนี้ออกมาได้

เป็นไปได้มากกว่า มันจะไม่ใช่กองกำลังธรรมดา