น้องน้อยโจวที่ได้รับบาดเจ็บรีบกลับเข้ามาในตระกูลถังทันที
ส่วนในตอนนี้ถังเฉาก็กำลังเตรียมที่จะนอน จู่ๆกลับรู้สึกได้ถึงลมหายใจเฮือกหนึ่ง
ตอนแรกนึกว่ามีคนคิดที่จะเข้ามาลอบโจมตี ถังเฉาแอบเดินไปอยู่ริมๆ เจาะรูเล็กๆที่ประตูหน้าต่าง มองคนที่อยู่ข้างนอก
พอมองไป ก็พบว่าเป็นน้องน้อยโจว น้องน้อยโจวท่าทางอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง ค่อยๆเดินตรงมาที่ห้องของถังเฉาอย่างช้าๆ ถังเฉาก็รีบเปิดประตูออกทันที พยุงน้องน้อยโจวเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมถูกเล่นงานจนสภาพเป็นแบบนี้ ใครเป็นคนทำร้ายเธอ?”
จริงๆแล้วถังเฉาก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าน้องน้อยโจวจะถูกทำร้ายแบบนี้ พอเห็นท่าทางที่อ่อนแอไร้เรี่ยวแรงแบบนี้ของน้องน้อยโจว ก็รู้สึกละอายใจอยู่ไม่น้อย
แต่น้องน้อยโจวกลับหันมองถังเฉาที่อยู่ข้างๆด้วยสีหน้าขอโทษ
“ขอโทษจริงๆ พี่ถังเฉา เมื่อตะกี้ตอนที่ฉันกำลังวิ่งหนีอยู่นั้น ไม่ทันได้ระวังเผลอไปทำสัญญาหมั้นพังหมดแล้ว แม้ว่าฉันจะขโมยมันออกมาได้แล้วก็ตาม”
ตอนแรกถังเฉายังไม่เข้าใจว่าทำไมน้องน้อยโจวถึงมีสีหน้ารู้สึกผิด ตอนนี้พอเห็นแล้วก็เข้าใจขึ้นมา ที่แท้น้องน้อยโจวก็ทำสัญญาหมั้นพังแล้วนี่เอง หลังจากที่ถังเฉาได้ฟังคำพูดนี้แล้ว ในใจก็รู้สึกยากที่จะรับไหวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ยัยบ๊อง ทำมันพังแล้วก็แล้วทำไมล่ะ? มันไม่สำคัญสักหน่อย ที่สำคัญคือเธอไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว”
ถังเฉาพยุงน้องน้อยโจวมานั่งลงที่เก้าอี้ จากนั้นก็ใช้มือกดจุดให้กับน้องน้อยโจวเบาๆ
“ขอโทษจริงๆนะ ฉันไม่คิดว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บ ฉันนึกว่าจ้าวไท่นั่นเป็นแค่คนไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น”
แม้จะรู้ว่าถังเฉาบดขยี้โจวหลี่จนน่าสังเวชมากก็ตาม แต่ยังไงน้องน้อยโจวก็คิดไม่ถึงอยู่ดี ว่าสำหรับถังเฉาแล้ว จ้าวไท่คนนี้จะเป็นแค่คนไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น
แต่ตอนนี้น้องน้อยโจวไม่อยากคิดพิจารณาอะไรมากมาย หันความสนใจทั้งหมดไปที่มือของถังเฉา
นี่เป็นครั้งแรกที่เธออยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายขนาดนี้ พูดกันตามตรง ใจของน้องน้อยโจวในตอนนี้กำลังรู้สึกแปลกๆอยู่ไม่น้อย เธอไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน
ถังเฉากำลังกดจุดอยู่ ใจไม่แกว่งและไม่คิดฟุ้งซ่านแม้แต่น้อย แต่ในตอนนี้เอง ร่างกายของน้องน้อยโจวก็สั่นกระตุกขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าถูกถังเฉากดเอาไว้ จากนั้นร่างกายก็ตอบสนองกลับมา
“เป็นอะไร? ฉันใช้แรงมากเกินไปเหรอ? เดี๋ยวฉันจะผ่อนแรงลงหน่อยแล้วกัน”
พูดเสร็จถังเฉาก็กดจุดต่อ
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดกระบวนขั้นตอนก็สิ้นสุดลงสักที ทักษะฝีมือของถังเฉาทำให้น้องน้อยโจวนอนหลับสนิทไปบนเก้าอี้เรียบร้อยแล้ว
เขาอุ้มน้องน้อยโจวมาวางไว้บนเตียงนอนของตัวเอง ห่มผ้าห่มให้กับเธอ ส่วนตัวเองก็นั่งลงบนเก้าอี้คอยเฝ้าน้องน้อยโจวที่กำลังนอนหลับอยู่ตลอดทั้งคืน
เช้าวันต่อมา น้องน้อยโจวที่ตื่นเช้าจนเป็นนิสัยแล้วก็ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ แต่พอหันไปมองถังเฉาที่นั่งอยู่ น้องน้อยโจวก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูก
“หรือว่าเขาเฝ้าฉันนอนตลอดทั้งคืนเลยอย่างนั้นเหรอ หมดกัน ถ้าอย่างนั้นเมื่อคืน……คงจะไม่ถูกเขาเห็นหมดแล้วใช่ไหม”
น้องน้อยโจวนึกถึงเมื่อคืนตอนที่ตัวเองพูดละเมอขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ พอคิดแล้วใบหน้าก็รู้สึกอึดอัดหงุดหงิดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“พี่ รีบตื่นขึ้นมาได้แล้ว ได้ยินว่าคนของญี่ปุ่นจะมาแล้ว ฉันกลัวว่าพวกเขาจะมาหาคุณ คุณรีบไปหลบซ่อนเร็วเข้าเถอะ”
หลังจากที่ถังเฉาได้ยินเสียงร้องเรียกของถังเชียนเชียนที่ประตู ก็ตื่นขึ้นมา พอเห็นน้องน้อยโจวที่อยู่บนเตียง ถังเฉาก็แค่ยิ้มนิ่งๆเท่านั้น
ถังเฉาก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย แค่เดินไปเปิดประตู หลังจากที่ถังเชียนเชียนเห็นภาพภายในห้องแล้ว เธอก็อึ้งตะลึงไป ฝีเท้าถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างอดไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้น พี่ ทำไมเธอถึงอยู่ในห้องของพี่ได้ หรือว่าเมื่อคืนพวกคุณสองคนอยู่ด้วยกันอย่างนั้นเหรอ?”
ถังเชียนเชียนมองถังเฉากับน้องน้อยโจวด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
ถังเฉาพยักหน้าพูดขึ้น
“ใช่ เมื่อคืนเธออยู่ที่ห้องของฉันทั้งคืน”
พอพูดถึงตรงนี้ ขอบตาของถังเชียนเชียนก็เริ่มแดง วิ่งออกไปทันที ส่วนถังเฉาก็สีหน้าอึ้งตะลึง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น น้องน้อยโจวพอเห็นว่าถังเชียนเชียนเข้าใจผิดแล้ว ก็รีบลุกลงมาจากเตียงทันที
แต่เธอกลับไม่คิดว่า ที่ตัวของตัวเองจะมีแค่เสื้อคลุมเอาไว้เท่านั้น พอลุกยืนขึ้นมา ถังเฉาหันหน้าไป ทั้งสองคนก็สบตากัน สถานการณ์ตรงนั้นอึดอัดสุดๆ
“คุณรีบออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”
พูดกันตามตรง ถังเฉากลับไม่ได้รู้สึกอะไร ถึงยังไงนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตัวเองเจอเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนน้องน้อยโจวไม่ได้เปิดใจกว้างขนาดนั้น ตอนนี้มันทำให้เธอรู้สึกยากที่จะรับไหวอยู่ไม่น้อย
ไม่รู้ว่าอยู่ในห้องนานเท่าไรแล้ว น้องน้อยโจวถึงได้ค่อยๆเดินออกมา นาทีที่เห็นถังเฉา หน้าก็แดงขึ้นมาทันที ราวกับถูกหมึกแดงสาดมาที่ใบหน้าอย่างไรอย่างนั้น
“เรื่องเมื่อตะกี้นี้ คุณต้องลืมไปซะ แล้วก็ห้ามพูดออกไปด้วย ไม่อย่างนั้นฉันไม่ให้อภัยคุณแน่นอน”
ถังเฉามองน้องน้อยโจว แม้ว่าจะให้เธอไปช่วยตัวเองทำธุระ แต่ไม่ว่ายังไง ถังเฉาก็เป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเธอเอาไว้ แล้วทำไมถึงมาพูดแบบนี้กับเขา
“เกิดอะไรขึ้น? ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย เธอจะตื่นตัวขนาดนี้ทำไม?”
พอเห็นถังเฉาไม่แยแสสนใจขนาดนี้ น้องน้อยโจวก็ยิ่งอึดอัดขึ้นไปอีก ออกจากที่นี่ไปอย่างรวดเร็ว
ถังเฉาส่ายหัวอย่างหมดหนทาง พอนึกถึงคำพูดเมื่อตะกี้นี้ของถังเชียนเชียน ถังเฉาก็รีบไปยังห้องโถงตระกูลถังทันที
เพิ่งจะเดินมาถึงห้องโถง ถังเฉาก็มาเจอเข้ากับจ้าวไท่ แล้วก็มีผู้หญิงหนึ่งคนยืนอยู่ข้างๆเขาด้วย
“เจ้าหญิง มันนี่แหละที่เป็นคนลงมือกับผม พวกเรารีบส่งคนมาฆ่ามันเถอะ”
จ้าวไท่ไม่กล้าผลีผลามทำอะไร แต่พูดกับเจ้าหญิงที่อยู่ข้างๆ
เจ้าหญิงจะไม่รู้ได้ยังไงว่าคนที่มาลงมือกับตัวเองจะมีลักษณะท่าทีแบบไหน รีบตัดบทของจ้าวไท่ทันที จากนั้นก็พูดขึ้น
“จะเสียมารยาทไม่ได้ อย่าพูดแบบนี้ต่อหน้าของถังเฉาสิ ประเทศของพวกเรากับราชวงศ์ต้าเซี่ยเป็นมิตรที่ดีต่อกัน จะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเพียงเพราะเรื่องส่วนตัวเล็กๆน้อยๆเรื่องเดียวของนายได้ยังไง?”
หลังจากที่ฟังคำพูดนี้แล้ว ถังเฉาก็รู้สึกไม่เข้าใจอยู่ไม่น้อย
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้เข้าใจเจตนาของคนอื่นเป็นอย่างดี ไม่เพียงแต่จะไม่ตำหนิถังเฉาแล้ว ยังช่วยพูดแทนถังเฉาอีก
ส่วนจ้าวไท่พอได้ยินเจ้าหญิงพูดแบบนี้ เขาก็ไม่กล้าพูดอะไร ทำได้แค่มองถังเฉาด้วยสีหน้าโหดร้าย
“น่ารังเกียจสิ้นดี ผู้หญิงคนนี้มาขัดขวางเรื่องของฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอล่ะก็ ป่านนี้ฉันเข้าไปฆ่าไอ้เดรัจฉานนั่นแล้ว”
จ้าวไท่พูดบ่นในใจ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชอบเจ้าหญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ กลับยิ่งรู้สึกว่าเธอเป็นอุปสรรคคอยกีดกันอยู่ไม่น้อย
“เจ้าหญิง ไม่ทราบว่ามาเยี่ยมเยียนที่พวกเราในครั้งนี้มีเรื่องอะไรเหรอครับ เกรงว่าตระกูลเล็กๆแบบพวกเราจะเตรียมการต้อนรับเจ้าหญิงไม่ดีพอ”
เจ้าหญิงยิ้มพร้อมกับส่ายหัวพูดขึ้น
“ไม่ใช่หรอก คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันแค่ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้คนของพวกเรา เผลอไปยุแหย่คนคนหนึ่งของตระกูลถังของพวกคุณเข้า ดังนั้นฉันก็เลยตั้งใจที่จะมาขอโทษด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันไม่เกิดการเข้าใจผิดขึ้นตอนที่เจรจาต่อรองกับราชวงศ์”
“แต่จากคำพูดของลูกน้องของฉันเมื่อตะกี้นี้แล้ว เกรงว่าน่าจะเป็นคุณผู้ชายสินะคะ”