“แต่ฉันล่ะอยากรู้เหลือเกิน ฉันเป็นอะไรจริงๆหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ทำไมแกถึงยังยิ้มได้อย่างมีความสุขขนาดนี้”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของถังเฉา ดูเหมือนว่าจ้าวไท่จะดูถูกดูแคลนสุดๆ
“แกรู้ไหมว่าตำแหน่งของฉันคืออะไร ฉันเป็นถึงนายพลเชียวนะ พวกคนที่ใกล้ตายแบบแก เห็นได้ชัดว่าในใจรู้สึกกลัวมากๆ แต่แสร้งทำเป็นคนที่นิ่งสงบ ฉันเห็นมามากแล้ว”
“จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของฉัน ตอนนี้แกร้องออกมาน่าจะรู้สึกดีขึ้นกว่าหน่อยนะ วางใจเถอะ ฉันจะไม่หัวเราะแกแน่นอน”
จ้าวไท่เยาะเย้ยอยู่ตรงหน้าของถังเฉาอย่างบ้าคลั่ง แต่คนส่งสารก็พูดตัดบทขึ้นมา
“นายพลจ้าว พวกเราเคยบอกแล้วว่า เรื่องนี้จะต้องส่งมอบให้กับนายแน่นอน แต่ว่าตอนนี้ขอให้นายช่วยเงียบปากด้วย ฉันต้องรีบไปจัดการเรื่องงาน”
คนของญี่ปุ่นหยิ่งยโสมาโดยตลอด แต่สีหน้าของผู้ส่งสารคนนี้กลับดูหวาดกลัวถดถอยอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากที่ได้ยินคำพูดที่หมดความอดทนของผู้ส่งสารแล้ว จ้าวไท่ก็พยักหน้าตอบกลับทันที
“ครับๆ ท่านทูต ท่านพาหมอนั่นไปจัดการธุระเถอะครับ ผมไม่รบกวนท่านแล้วครับ”
พูดจบผู้ส่งสารก็พาถังเฉาเข้าไปยังพระราชวังของราชวงศ์
เพิ่งจะถึงพระราชวัง ถังเฉาก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยใบหน้าหนึ่ง ใบหน้านี้ก็คือเจ้าหญิงที่โก้งโค้งขอโทษตัวเองเมื่อครั้งที่แล้วนั่นเอง
“อ้อ? ในที่สุดพี่น้องถังคนนี้ก็มาแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
คนที่นั่งอยู่ข้างๆเจ้าหญิงก็คือผู้นำตระกูลของราชวงศ์นั่นเอง แล้วก็เป็นคนที่มีอำนาจสูงสุดของราชวงศ์ต้าเซี่ยอีกด้วย
“เจ้าหญิง จากเจตาของท่าน หรือว่าไม่อยากจะตัดหัวของหมอนี่จริงๆเหรอ? ความผิดที่เขาทำมันร้ายแรงมากนะ”
“แบบนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราสองประเทศหรือไง”
เจ้าหญิงแค่ยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้น
“วางใจได้ ไม่มีทางแน่นอน ส่วนทางด้านของจ้าวไท่ ฉันจะไปเจรจาต่อรองเอง ท่านวางใจได้ เขาไม่มีทางปริปากบ่นแน่นอน”
พูดจบสีหน้าของถังเฉาก็สับสนไม่เข้าใจ
ตอนแรกกะที่จะใช้วิชาหายตัวหนึ่งในเคล็ดลับวิชาของสายพระจันทร์หลบหนีออกจากที่นี่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะมาเจอเข้ากับเจ้าหญิงที่นี่
“เจ้าหญิงทำไมต้องช่วยผม? ผมกับเจ้าหญิงยังไม่เคยเจอกันมาก่อนเลยนะ”
ถังเฉาไม่ระมัดระวังการกระทำคำพูดเลยแม้แต่น้อย เปิดปากพูดออกมากลางพระราชวังตรงๆทันที น้ำเสียงก็ไม่ยอมแพ้ต่อใครหน้าไหนในนี้ทั้งนั้น
“คิดไม่ถึงว่าพี่น้องถังจะไม่มีทีท่าว่าจะวิ่งหนีไปเลยแม้แต่น้อย ช่างกล้าหาญชาญชัยเสียจริง ดูท่าฉันคงจะไม่ได้คิดผิดที่ช่วยคุณ”
“ทำไมต้องวิ่งหนี? ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิด นายพลจ้าวเป็นคนยังไง คุณเองก็รู้”
“ผมคิดว่า ในเมื่อราชวงศ์ต้าเซี่ยยอมที่จะแต่งงานกับคนของญี่ปุ่น ถ้าอย่างนั้นก็เชื่อว่าคนของญี่ปุ่นคงจะมีคุณลักษณะที่ไม่เลวเลย แต่ว่านายพลจ้าวของพวกคุณมีคุณลักษณะยังไงนั้น พวกคุณเองไม่รู้เหรอ? เจอเข้ากับคนแบบนี้ พวกเราราชวงศ์ต้าเซี่ยเองก็มีสิทธิ์ที่จะผิดสัญญาไม่ใช่หรือไง?”
ถังเฉาพูดไม่เยอะ พูดจนผู้นำตระกูลของราชวงศ์หยุดชะงักไป
พูดแบบนี้ มันก็สมเหตุสมผลอยู่ ถึงยังไงผู้นำตระกูลราชวงศ์ของราชวงศ์ต้าเซี่ยก็ไม่อยากให้คนทางนี้ของตัวเองไปแต่งงานกับคนญี่ปุ่นแล้วยังต้องถูกรังแกอีก
พอฟังมาถึงตรงนี้ เจ้าหญิงที่สีหน้าสบายๆไร้กังวลก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนไปอึดอัดอยู่ไม่น้อย
“ใช่ พี่น้องถัง เป็นเพราะทางฝั่งของพวกเราไม่ดีเอง นายพลจ้าวของพวกเราก็เป็นคนหยาบคาย ปกตินิสัยของเขาเป็นยังไง ฉันเองก็รู้ดี”
“แน่นอนอยู่แล้ว ในเมื่อคุณถังเชียนเชียนของราชวงศ์ต้าเซี่ย ไม่ยอมที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับนายพลจ้าวของพวกเรา ถ้าอย่างนั้นพวกเราญี่ปุ่นเองก็คงต้องยอมรับและทำตาม”
“แต่แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันยังมีเรื่อง ที่จะขอให้พี่น้องถังช่วยสักหน่อย”
ถังเฉามองเจ้าหญิงด้วยความสับสนไม่เข้าใจ แต่หลังจากที่คิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนอยู่สักพักแล้ว ก็พูดตอบกลับอย่างร่าเริงแจ่มใส
“ไม่มีปัญหา ขอแค่มันไม่มากเกินไป เป็นเรื่องที่ผมสามารถทำได้ ผมก็จะช่วยแน่นอน คุณวางใจได้”
“ดีเลย พี่น้องถังเป็นคนที่ทำการใหญ่ได้อย่างที่คิดเอาไว้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็คงจะไม่รบกวนอะไรมากมายต่อแล้วล่ะ”
เจ้าหญิงพูดขึ้นกับผู้นำตระกูลของราชวงศ์ ผู้นำตระกูลก็คิดว่าน้อยเรื่องดีกว่ามากเรื่อง ก็เลยปล่อยถังเฉากับเจ้าหญิงไป
หลังจากที่เดินมาถึงตรงประตู หลังจากที่ผู้ส่งสารแล้วก็จ้าวไท่เห็นแล้ว ทั้งสองคนก็เดินตรงเข้ามาอย่างทองไม่รู้ร้อน สีหน้าเหลือเชื่อ
“เกิดอะไรขึ้นเจ้าหญิง มันหลับนอนกับคู่หมั้นของผมนะครับ ท่านปล่อยมันไปแบบนี้เนี่ยนะ? หรือว่าท่านกำลังขอร้องอ้อนวอนมันอยู่อย่างนั้นเหรอ?”
เห็นได้ชัดว่าจ้าวไท่ไม่อยากจะเชื่อเรื่องจริงที่อยู่ตรงหน้า พูดตะโกนออกมาจากข้างๆ ส่วนในตอนนี้เองเจ้าหญิงกลับเดินไปอย่างนิ่งสงบ ท่าทีสูงส่งเด่นสง่าน่าเกรงขามทำให้จ้าวไท่ยอมจำนนไปในทันที จากนั้นก็พูดขึ้นมาเบาๆหนึ่งประโยค
“ครั้งนี้นายทำให้ญี่ปุ่นของพวกเราอับอายขายขี้หน้า กลับไปฉันจะคิดบัญชีกับนาย ตอนนี้ฉันมีธุระที่ต้องไปจัดการ นายไม่ต้องตามฉันมา”
หลังจากที่เจ้าหญิงเดินจากไปแล้ว จ้าวไท่ก็สีหน้าอึ้งตะลึง
“ช่วงนี้มันเกิดอะไรขึ้น ฉันประสบแต่ความยากลำบากไม่ราบรื่น ทำไมฉันยังต้องถูกพูดขู่อีก มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
จริงๆแล้วถังเฉาในตอนนี้ก็อยู่ในสภาวะที่ยังเข้าใจอะไรอย่างถ่องแท้นัก แม้จะรู้ว่าเจ้าหญิงจะขอให้ตัวเองช่วย แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องเป็นตัวเองด้วย เห็นได้ชัดว่าสถานภาพที่นี่ของตัวเอง ไม่มีใครคนไหนรู้จักเลยสักคนด้วยซ้ำ
“เอาล่ะ เจ้าหญิงพูดออกมาได้แล้ว ที่นี่ไม่มีใคร คุณไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไปแล้ว”
เดินมาได้มาประมาณหนึ่งชั่วโมง อาจจะเป็นเพราะเจ้าหญิงไม่กล้าเปิดปากพูดออกมา ถังเฉากลับหยุดฝีเท้าลงกลางป่าเขาลูกหนึ่ง พูดถามขึ้น
หลังจากที่เจ้าหญิงถูกเรียกแล้วก็หยุดอยู่ที่เดิม หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของถังเฉาแล้ว ก็คิดพิจารณาอยู่สักพัก
“ได้ ฉันจะพูดออกมาตรงๆเลยแล้วกัน จริงๆแล้วระบบภายในของญี่ปุ่นของพวกเราใกล้จะล่มสลายแล้ว ฉันมาที่นี่ก็เพื่อมาขอให้คุณช่วย”
ถ้าจะบอกว่านี่เป็นความจริงล่ะก็ ถังเฉาก็พอจะช่วยได้ แต่เรื่องระหว่างประเทศแบบนี้ ถังเฉาได้ฟังแล้วกลับรู้สึกไม่เข้าใจอยู่ไม่น้อย หรือว่าเจ้าหญิงที่อยู่ตรงหน้าจะรู้สถานภาพจริงๆที่เป็นถึงเจ้ามังกรของตัวเองอย่างนั้นเหรอ?
“ทำไมถึงต้องเป็นผม ผมเป็นแค่คนธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น ทำไมถึงต้องให้ผมไปช่วยล่ะ?”
เจ้าหญิงส่ายหัว มองถังเฉาอย่างแน่วแน่
“พี่น้องถัง คุณเข้าใจผิดแล้ว คุณไม่ใช่คนธรรมดา ฉันรู้สถานภาพที่แท้จริงของคุณ”
“แม้ว่าฉันจะไม่เคยออกมาจากราชวงศ์ต้าเซี่ยแล้วก็ญี่ปุ่นมาก่อน แต่ฉันอยู่ในญี่ปุ่นก็พอจะได้ยินข้อมูลข่าวคราวมากมายของคุณอยู่เหมือนกัน พลังของคุณมันคุ้มค่าพอที่จะทำให้ผู้คนต่างนับถือชื่นชม”
“แถมที่สำคัญที่สุดก็คือ ฉันรู้ว่าคุณยังรู้จักกับคนคนหนึ่งอีกด้วย”
ตอนที่ฟังความในส่วนข้างหน้า ถังเฉาไม่รู้สึกแปลกใจอะไร แต่หลังจากที่ฟังความส่วนหลัง ถังเฉาก็เริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที ไม่คิดว่า การที่เขาจะรู้จักกับใคร จะข้องเกี่ยวกับคนกลุ่มนี้ด้วย
“ไหนคุณพูดมา ว่าใครกันที่รู้จักกับผม”
พูดจบ เจ้าหญิงก็เม้มปาก มองดูว่ารอบข้างไม่มีคนแล้ว จากนั้นก็พูดเสียงเบาๆ
“เรื่องที่ฉันจะให้คุณช่วยในครั้งนี้ ก็คือผู้หญิงที่หายตัวไปนานมากแล้วคนนั้น โอดะไอ”
ตอนที่ชื่อของโอดะไอได้ยินมาถึงหูของถังเฉา ถังเฉาก็รู้ว่าน่าเหลือเชื่อขึ้นมาทันที
“คุณจะหาเธอทำไม? สถานภาพของเธอก็ไม่น่าจะคุ้มค่ากับการที่คุณจะต้องพยายามทุ่มเทตามหาขนาดนี้หนิ”