ถังเฉาเกร็งกล้ามเนื้อทั้งสองขา กำลังเตรียมที่จะพุ่งกระโจน แต่ในตอนนี้เอง จู่ๆสองมือของถังเหยียนก็ปล่อยพลังออกมา
ตอนที่ถังเฉาไม่รู้ว่าถังเหยียนกำลังจะทำอะไรอยู่นั้น ถังเหยียนก็กระโดดลงมาจากปากของงูหลามยักษ์ แต่ยังคงไม่ปล่อยสองมือ
ทันใดนั้น ร่างกายของถังเหยียนก็ใช้แรงกระตุก ร่างของงูหลามยักษ์ถูกถังเหยียนใช้แรงจากสองมือเปล่าซัดจนพลิกออกไป
การกระทำนี้แม้แต่ถังเฉาเองก็รู้สึกว่าเหลือเชื่อสุดๆ ส่วนถังเยว่เหมยที่อยู่ข้างๆ แค่มองถังเหยียนด้วยใบหน้าภูมิอกภูมิใจ
“เยว่เหมย เธอไม่เป็นไรใช่ไหม ถ้าเธอเป็นอะไรล่ะก็ พี่สาวของเธอจะต้องเอาฉันตายแน่ๆ”
หลังจากที่พูดจบ ถังเยว่เหมยก็มองถังเหยียนที่อยู่ข้างๆด้วยสายตาเย็นชา
“คุณเองก็รู้ ว่าถ้าฉันได้รับบาดเจ็บ พี่สาวของฉันไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่นอน แล้วผ่านไปนานขนาดนั้นคุณเพิ่งจะลงมา ฉันจะบอกคุณนะว่า เรื่องนี้ ฉันจะต้องบอกพี่สาวของฉันแน่นอน ถึงตอนนั้นรอดูซิว่าเธอจะจัดการกับคุณยังไง”
พอพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าของถังเหยียนก็ยิ้มอย่างอมทุกข์
“แค่พวกเราสามารถออกไปได้ ก็ดีมากแล้ว ต่อให้พี่สาวของเธอตีฉันตาย ฉันก็ยอม แต่เกรงว่าเหตุการณ์ในตอนนี้คงจะยังไม่ได้”
ถังเหยียนอยู่ภายในถ้ำมาโดยตลอด ไม่รู้เลยว่าข้างนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง จากที่ดูเมื่อตะกี้นี้ ถังเหยียนสามารถออกไปจากถ้ำแห่งนี้เมื่อไรก็ได้ แต่เพื่อความปลอดภัยของชีวิตภรรยาตัวเอง ถังเหยียนทำได้แค่ต้องอาศัยอยู่ที่นี่เท่านั้น
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ หลังจากที่ถังเฉากับถังเยว่เหมยมารับตัวเองออกไปแล้วนั้น ก็กำลังจะไปรับถังเยว่หวาด้วยเช่นกัน ถังเหยียนที่ไม่รู้เรื่องอะไรยังนึกว่าสถานการณ์ในตอนนี้ยังเหมือนกับเมื่อหลายปีที่แล้ว ขอแค่ตัวเองออกไป คนของราชวงศ์ก็จะไม่ออกคำสั่งฆ่าถังเยว่หวาแล้ว
พอฟังถึงตรงนี้ ถังเยว่เหมยที่อยู่ข้างๆก็ยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นก็เอามือกอดอก
“คุณกำลังดูถูกฉันหรือว่าอะไร คุณคิดว่าช่วงหลายปีมานี้ที่ฉันอยู่ข้างนอกทำเรื่องอะไรบ้าง?”
ถังเหยียนรู้ว่าถังเยว่เหมยจะต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองอยู่ข้างนอกมาโดยตลอดอย่างแน่นอน รวมถึงถังเยว่หวาด้วย แต่จากพลังของถังเยว่เหมย ถังเหยียนยังคงรู้สึกว่าความเป็นไปได้ในการช่วยตนเองออกมานั้นมันยังมีไม่สูงมากนัก
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าถังเหยียนรู้สึกเหลือเชื่ออยู่ไม่น้อย
“นี่เธอหมายความว่ายังไง หรือว่าเธอมีวิธีช่วยพี่สาวของเธอแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
พอพูดถึงตรงนี้ ถังเยว่เหมยก็ยิ้มออกมาด้วยท่าทางภูมิอกใจภูมิใจอีกครั้ง เชิดหน้าขึ้น จ้องมองถังเหยียนที่อยู่ตรงหน้า
“ถึงจะบอกว่าใช้แค่กำลังของฉันคนเดียวมันก็ไม่ถูก แต่ว่าคุณลืมไปแล้วเหรอ ว่าคุณยังมีลูกชายของคุณอยู่ด้วยหนึ่งคน ขอแค่บวกเข้ากับลูกชายของคุณแล้วก็ฉันคนนี้ มันก็เป็นเรื่องง่ายดายมากๆแล้วไม่ใช่หรือไง”
จู่ๆถังเฉาก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงตึงเครียดกดดันอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าตัวเองจะมีจิตวิญญาณที่ห้าวหาญของคนที่มีพลังอำนาจระดับสูงสุดแบบนี้ แต่ตอนเจอพ่อของตัวเองก็รู้สึกปรับตัวไม่ได้อยู่ไม่น้อย
ในตอนนี้ถังเหยียนก็คิดถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ มองถังเยว่เหมยด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
“เธอหมายความว่ายังไง? หรือว่าลูกชายของฉันกลับมาแล้ว? ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เป็นยังไงบ้าง? หน้าตาเป็นยังไง? รีบพาฉันไปหาเร็วเข้า”
ยังดีที่ถังเหยียนไม่รู้ว่าถังเฉาหน้าตาเป็นยังไงบ้าง ถ้าเขารู้ล่ะก็ ไม่มีทางแสดงท่าทีออกมาแบบนี้แน่นอน ถึงยังไงหลายปีขนาดนี้เขาไม่เคยได้ดูแลถังเฉาเลย ในใจรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย ถึงขนาดที่ไม่รู้ว่าถังเฉาให้อภัยตัวเองแล้วหรือยัง
หลังจากที่ได้ยินประโยคนี้แล้ว ถังเยว่เหมยก็ยิ้มอย่างประจบประแจง มองถังเฉาที่อยู่ข้างๆ ราวกับว่ารอถังเฉาเปิดปากพูดอะไรออกมา แต่ถังเฉาแค่หันหน้าไปทางอื่นด้วยความรู้สึกอึดอัด แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
“เธอรีบบอกมาสิ ถังเยว่เหมย ว่าลูกชายของฉันอยู่ไหนกันแน่? ฉันอยากจะเจอจริงๆ คนที่พ่อแข็งแกร่งขนาดนี้แบบเขา ลูกชายจะเป็นแบบไหนกัน”
พอเห็นท่าทางที่ตื่นตัวของถังเหยียน ไม่รู้ว่าทำไมในใจของถังเฉากลับรู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย ถึงยังไงตัวเองก็ไม่ได้ชีวิตล้มเหลว อยากจะรู้จริงๆว่าถ้าเกิดตอนที่พ่อของตัวเองรู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นลูกชายของเขา เขาจะแสดงอารมณ์ความรู้สึกแบบไหนออกมา
“ช่างเถอะๆ ฉันขี้เกียจมาบอกกับคุณที่นี่แล้วล่ะ แต่พอถึงเวลาที่คุณควรจะรู้ว่าเขาคือใคร คุณก็จะรู้เอง ตอนนี้ไปรับภรรยาสุดที่รักของคุณกับฉันก่อนเถอะ”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ถังเหยียนก็ทั้งผิดหวังและคาดหวัง ถึงยังไงตัวเองไม่ได้เจอเธอมาหลายปี คิดถึงถังเยว่หวาจนสุดหัวใจ
“เอาเถอะ ถ้าอย่างนั้นก็ตามนี้แล้วกัน ไปรับภรรยาของฉันก่อน ถึงตอนนั้นค่อยพาภรรยาของฉันไปรับลูกด้วยกัน”
พูดจบถังเหยียนเดินออกไปจากถ้ำคนเดียว ท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่หันมองงูหลามยักษ์ที่เพิ่งจะถูกตัวเองซัดนอนกองอยู่ข้างหลังแม้แต่นิดเดียว ราวกับว่าไม่รู้สึกแปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เลยแม้แต่น้อย
ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ ถังเหยียนอยู่ในถ้ำก็ไม่เคยหยุดที่จะฝึกฝนตัวเอง แถมยังยืมพละกำลังของงูหลามยักษ์เพื่อมาพัฒนาตัวเอง จนกระทั่งตัวเองสามารถฆ่ามันได้อย่างสบายแล้ว ถังเหยียนจึงปล่อยงูหลามยักษ์ตัวนี้ไป
แต่มาวันนี้น้องสะใภ้ของตัวเองมา งูหลามยักษ์เกือบจะทำร้ายน้องสะใภ้ของตัวเอง ถังเหยียนก็เลยจำเป็นต้องลงมือฆ่ามันทิ้ง
“จู่ๆราชวงศ์ก็เปิดกว้างขนาดนี้แล้วเหรอ? ไม่คิดว่าจะปล่อยพวกนักโทษที่อยู่ในคุกออกมาทั้งหมด แล้วก็ไม่รู้ว่าได้ปล่อยฉันแล้วยัง ถ้าปล่อยฉันแล้วล่ะก็ แล้วทำไมถึงไม่ส่งคนไปจัดการกับงูหลามยักษ์ตัวนั้นล่ะ? หรือว่าพวกเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าพลังของฉันนั้นแข็งแกร่งมาก?”
ถังเหยียนไม่ได้เข้มงวดเหมือนที่ตัวเองคิดเอาไว้ แต่กลับเหมือนตัวเองอยู่ไม่น้อย ชอบพูดจาโผงผาง หลังจากที่ถังเฉาเห็นแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกดีใจชอบพออยู่ไม่น้อย
“พี่เขย ถือว่าฉันขอร้องล่ะ ช่วยพูดให้น้อยๆลงหน่อย คุณไม่ถามเรื่องจริงๆจังๆหน่อยเหนอ ฉันจะถามไม่ได้เลยเหรอว่าหลังจากที่คุณกลับตระกูลถังแล้วจะทำยังไง? พูดแต่เรื่องของงูหลามยักษ์ตัวนั้นอยู่ได้ ตอนนี้มันก็ถูกคุณฆ่าตายไปแล้วไม่ใช่หรือไง?”
แม้ว่าผิวหน้าถังเหยียนจะท่าทางเลอะเทอะดูไม่เอางานเอาการ แต่ในใจกลับระมัดระวังอย่างที่ทำให้คนไม่กล้าจะจินตนาการได้
แม้จะบอกว่าถังเหยียนเอาแต่พูดเรื่องของงูยักษ์ตัวนั้นตลอดเวลา แต่จริงๆแล้วในใจของเขาคิดอยู่ตลอดว่าหลังจากที่พาถังเยว่หวากลับตระกูลถังแล้ว จะจัดการแก้ไขกับความคิดเห็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของตระกูลถังที่มีต่อตัวเองยังไง?
แม้ว่าถังเหยียนจะไม่สนใจการสู้รบของเหล่าบรรดาวีรชน แล้วจัดการทำลายทั้งตระกูลถังทิ้งซะ แต่ถ้าทำขนาดนี้ล่ะก็ จะดึงดูดความเกลียดของทั้งราชวงศ์ แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ล่ะก็ ตระกูลถังก็จะไม่ยอมรับตัวเอง ตัวเองก็จะกลับไปยังถ้ำอีกครั้ง ส่วนถังเยว่หวาก็จะถูกจับตัวเอาไว้อีกครั้งเช่นกัน
พอคิดถึงเรื่องพวกนี้ อารมณ์ของถังเหยียนก็ยุ่งเหยิงวุ่นวายมาก ไม่แสดงออกมา แต่เพื่อที่จะทำให้ทั้งสองคนที่อยู่ข้างกายของตัวเองไม่เป็นกังวลนั่นเอง
“ใช่แล้ว น้องชายคนนี้คือใครเหรอ ทำไมดูแล้วคุ้นหน้าคุ้นตาขนาดนี้ ดูเหมือนกับภรรยาของฉันอยู่ไม่น้อย”
ถ้าถังเฉาไม่ใช่ลูกชายของถังเหยียน หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ ก็อาจจะนึกว่าถังเหยียนเป็นผู้ชายที่มีปัญหาผิดปกติไปแล้วจริงๆ