“แกลองคิดดูสิ ว่าพวกเราราชวงศ์ต้าเซี่ยจะฆ่าพี่น้องท้องเดียวกันของตัวเพื่อเรื่องอะไร?”
คำย้อนถามประโยคเดียวของเฉินเหมิ่งทำให้คนคนนั้นตะลึงไป ไม่รู้ว่าที่เฉินเหมิ่งพูดออกมาหมายความว่าอย่างไร
“นายพลเฉิน กระผมมีความรู้น้อย ไม่ทราบว่าที่ท่านพูดมาหมายความว่าอย่างไร แต่ว่าท่านวางใจได้เลย ความลับที่ผมพูดมานี้เป็นความจริงอย่างแน่นอน ถ้าหากมีความเท็จแม้แต่ครึ่งประโยค ท่านจะฆ่าผมก็ได้”
เฉินเหมิ่งหลับตาลง จากนั้นก็พูดเสียงเบาขึ้นหนึ่งประโยค
“คนที่แกพูดมาคนนี้ก็คือเพื่อนของฉัน นึกไม่ถึงว่าแกจะกล้าบอกให้ฉันลงโทษเขาที่นี่ แกคิดว่าเป็นไปได้หรือ?”
ระหว่างที่พูด เฉินเหมิ่งก็ถืออาวุธในมือของตนขึ้นมา เสียบเข้าไปที่ลำคอของคนคนนั้น
ฉัวะ!
ทันใดนั้นศีรษะกับตัวก็แยกจากกัน โลหิตที่ตกลงพื้นสาดกระจายไปทั่ว
“นายพลเฉิน คุณโฉ่งฉ่างมากเกินไปจริง ๆ สิ่งที่เขาพูดก็ไม่ใช่ความเท็จ คุณแทงเขาตายในทีเดียวแบบนี้ ถ้าหากว่าองค์กรนั่นมาหาพวกเราจะทำอย่างไร?”
ด้านหลังพูดอย่างทำให้คนใจหวิวอย่างเป็นทุกข์
เฉินเหมิ่งลุกขึ้นมาด้วยใบหน้าเข้มงวด มองดูคนแก่สองคนที่อยู่ด้านหลัง
“ถ้าหากพวกเราไม่ยุ่งเรื่องของคนอื่น คนอื่นจะมาหาถึงบ้านหรือ? ถ้าหากมีศักดิ์ศรีก็ให้พวกมันมาหาฉัน เฉินเหมิ่ง ฉันจะดูซิว่าพวกมันมีความสามารถอย่างไร จะทำอะไรฉันได้”
ว่าแล้วคนแก่ทั้งสองคนก็ส่ายศีรษะอย่างจนปัญญา เฉินเหมิ่งกลับไม่แม้แต่จะหันกลับมา ทั้งยังเดินออกจากห้องโถงใหญ่ไปตรง ๆ
“ทางด้านหว่างเหลี่ยงนั่นได้ให้ข้อมูลมาแล้ว บอกว่าให้ฉันรีบฆ่าถังเฉาซะ แกว่าการแข่งขันสมาคมบูโดในครั้งนี้พวกเราควรจะจัดการอย่างไรดี?”
คนแก่ที่ร่างผอมคนนี้เอ่ยขึ้นกับคนแก่ที่รูปร่างสูง
“เจ้าเตี้ย เรื่องนี้ยังต้องถามด้วยหรือ? แน่นอนว่าต้องฆ่ามันไปตรง ๆ เลยน่ะสิ ถึงอย่างไรเฉินเหมิ่งก็ไม่กล้าสอดมือเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ ถ้าหากว่าพวกเราให้เฉินเหมิ่งลอบฆ่าละก็ เฉินเหมิ่งจะต้องทำให้งานล่าช้าแน่”
สิ้นเสียง ทั้งสองคนก็หัวเราะขึ้นมาในห้องโถงใหญ่
……
โจวฉังเต๋อในตอนนี้กำลังวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าควรจะทำอย่างไรในการแข่งขันสมาคมบูโดของราชวงศ์ต้าเซี่ย
เขาคิดว่าวิธีการมามากมายนับไม่ถ้วน สุดท้ายก็ตัดสินใจเตรียมจะประกาศฐานะของถังเฉาอย่างเสียงดังในงานการแข่งขันสมาคมบูโด จากนั้นก็ใช้อำนาจทั้งหมดของตระกูลถังไปต่อต้านถังเฉาด้วยกัน
ถึงแม้ว่าโจวฉังเต๋อจะรู้ว่าแม้ว่าลูกน้องของตัวเองจะเยอะมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของถังเฉา แต่ตอนนี้เขากลับมีเพียงวิธีการนี้ที่จะมีความสามารถมากเพียงพอที่จะทำให้คนในราชวงศ์ให้ความสำคัญขึ้นมา และสังหารถังเฉา
และการจู่โจมในครั้งนี้ องค์ชายทั้งสองก็ถูกโจวฉังเต๋อเอามาใช้เป็นกำลังหลักอย่างไม่มีเหตุให้ต้องวิจารณ์
แต่ว่าองค์ชายทั้งสองพระองค์นี้ล้วนแต่เคยประมือกับถังเฉามาก่อน รู้ลึกดีว่าความสามารถของถังเฉาไม่ธรรมดา สามารถบดตนเองให้แหลกละเอียดได้อย่างสบาย ๆ เห็นได้ชัดว่าไม่ยินดีเป็นอย่างมาก
“นายท่านโจว สมมติว่าคนใดคนหนึ่งในพวกเราสองคนไม่ระวังตัว ถูกเจ้าหมอนั่นฆ่าตายจะทำอย่างไร? คุณต้องรู้ว่าเจ้าหมอนั่นไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน พวกเราสองคนสู้ด้วยกันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”
ดูเหมือนว่าโจวฉังเต๋อจะเดาออกได้ตั้งนานแล้วว่ามิยาโมตะจะพูดเช่นนี้ จึงหยิบรีโมทคอนโทรลในมือขึ้นมาด้วยใบหน้าคุกคามพลางเอ่ยว่า
“นี่มันไม่ใช่ปัญหา ผมเชื่อว่าของสิ่งนี้อยู่ในมือของผมแล้ว ไม่ว่าอย่างไรพวกคุณก็สู้ได้”
ได้ฟังคำพูดของโจวฉังเต๋อแล้ว ใบหน้าขององค์ชายทั้งสองพระองค์ก็ผุดความร้อนรนใจขึ้นมา
พวกเขารู้ว่าขอเพียงนายท่านโจวกดปุ่มนั้นลงไป พวกเขาสองคนก็จะเจ็บปวดทรมานจนแทบไม่อยากจะมีชีวิต ทรมานยิ่งกว่าตาย
“พอถึงตอนนั้นถ้าหากว่าพวกคุณสองคนคิดอยากจะหนีไปละก็ พวกคุณวางได้เลย ผมจะทำให้พวกคุณมีชีวิตอยู่ก็ไม่สู้ตายแน่ ๆ คุณอย่าคิดว่าหนีออกไปจากระยะการควบคุมของรีโมทของพวกเราแล้วก็จะสามารถหนีการควบคุมของหนอนพิษตัวนั้นได้นะ”
“ผมสามารถบอกคุณอย่างมีความรับผิดชอบได้ว่า ขอเพียงพวกคุณหนีพวกเราไปไกลกว่าสิบกิโลเมตร เจ้าตัวน่ารักตัวน้อย ๆ ที่อยู่ในร่างกายของพวกคุณจะต้องแทะพวกคุณจะเละแน่ พอถึงตอนนั้นก็ไม่เหลือแม้แต่กระดูก”
องค์ชายทั้งสองมองกันแวบหนึ่ง จากนั้นก็ผุดรอยยิ้มเสแสร้งออกมา
“นายท่านโจว คุณพูดอะไรออกมาน่ะ? พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว แน่นอนว่าพวกเราจะต้องหวังว่าจะสามารถฆ่าถังเฉาให้ตายได้ สิ ไม่ใช่ว่าเป็นกำลังหลักหรอกหรือ? คุณวางใจเถอะ พอถึงตอนนั้นผมจะต้องเป็นที่หนึ่ง หิ้วหัวของถังเฉามาอยู่ตรงหน้าคุณให้ได้”
ต่อให้แขนของมูโตะจะถูกทำลายไปแล้ว แต่เขาก็รู้ดีว่าถ้าหากตอนนี้ไม่เอาอกเอาใจนายท่านโจวละก็ อาจจะถูกโจวฉังเต๋อทรมานจนตายไปก่อนที่จะได้เจอกับถังเฉาอีก ทำได้เพียงพูดประโยคประจบสอพลอพวกนี้มาเอาใจนายท่านโจว
“องค์ชายมูโตะ คุณที่รู้ความจริง ๆ คุณก็รู้ว่า ถ้าหากว่าคุณไม่รู้จักเชื่อฟัง ผมจะต้องฆ่าคุณแน่ ๆ ใช่ไหมล่ะ”
หลังจากที่องค์ชายรองได้ฟังคำพูดของนายท่านโจวแล้ว ก็รีบพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ในความเป็นจริง ในใจของเขาอยากจะหั่นศพนายท่านโจวเป็นหมื่น ๆ ชิ้น แต่สถานการณ์ที่ขวางอยู่ตรงหน้าก็ทำได้เพียงล้มเลิกมันไว้เท่านั้น
“นายท่านโจว ท่านวางใจเถอะ ในเมื่อพวกเราสองคนเริ่มร่วมมือแล้ว ผมจะต้องทำให้คุณพอใจแน่ ถึงอย่างไรตอนนี้ผมก็ไม่รีบ รอจนผมฆ่าเจ้าถังเฉาได้แล้วผมค่อยกลับญี่ปุ่นก็ไม่สาย คุณว่าจริงไหมล่ะ?”
เห็นได้ชัดว่าคำพูดประโยคนี้เป็นการซักถามนายท่านโจว และโจวฉังเต๋อก็เข้าใจความหมายขององค์ชายรองเป็นอย่างมาก เพียงแค่ยิ้มเย็นชา ไม่ได้พูดอะไร
รอจนหลังจากที่โจวฉังเต๋อจากไปแล้ว มิยาโมโตะก็เริ่มปรึกษา
“ไอ้แก่นั่นตกลงเป็นยังไงกันแน่ ตกลงแล้วมันจะปล่อยพวกเราไปไหม ถ้าหากพอถึงตอนนั้นแล้วพวกมันเปลี่ยนใจ ให้พวกเราอยู่ที่นี่ ให้พวกเราเป็นคนเบ๊จะทำอย่างไร?”
มิยาโมโตะเดาออกตั้งนานแล้วว่าโจวฉังเต๋อคิดจะทำอะไร
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของมูโตะแล้ว ก็เพียงแค่ถอนหายใจ จากนั้นก็ส่ายศีรษะ
“ไม่มีทาง? เขาไม่มีทางปล่อยพวกเรากลับไปแน่ เป้าหมายของเขาในครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงให้พวกเราช่วยต่อต้านถังเฉาด้วยกัน เขาคิดจะกำจัดพวกเราสองคนด้วยเหมือนกัน”
หลังจากที่มูโตะได้ฟังคำพูดของมิยาโมโตะแล้ว ก็มีสีหน้าหวาดหวั่น
“เพราะอะไร? ฆ่าพวกเราไปแล้ว เขาจะได้ประโยชน์อะไรกันแน่ ต่อให้เขาเอาหัวของพวกเราไป เขาเองก็จะได้ชื่อว่าเป็นนักโทษคนหนึ่งของราชวงศ์ต้าเซี่ย พอถึงตอนนั้นก็ไม่ดีกับเขานะ”
มิยาโมโตะยิ้มอย่างเย็นชา มองน้องชายรองของตนเอง
“มูโตะเอ๋ย… มูโตะ… ทำไมนายถึงได้เลอะเลือนอย่างนี้นะ จนถึงตอนนี้นายยังไม่เข้าใจความหมายของเขาอีกเหรอ? เขาไม่เพียงแต่อยากจะให้พวกเราช่วยเขากำจัดถังเฉา พวกเขายังอยากจะเอาแย่งอำนาจในญี่ปุ่นของพวกเราไปด้วย”
โจวฉังเต๋อคิดอย่างนี้ในใจจริง ๆ
รอจนหลังจากที่องค์ชายทั้งสองช่วยตนเองกำจัดถังเฉาได้แล้ว เขาก็จะโยนความผิดทั้งหมดให้กับองค์ชายทั้งสอง
ในตอนนี้เอง ในมือของโจวฉังเต๋อมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่อยู่ ยิ่งรวมไปถึงการที่ชีวิตขององค์ชายทั้งสองอยู่ในกำมือของตัวเอง ขอเพียงตนกดปุ่มกดก็จะสามารถเอาชีวิตของพวกเขาทั้งสองคนมาได้ แล้วจะเอาตำแหน่งจักรพรรดิมอบให้กับองค์ชายทั้งสองพระองค์ได้อย่างไร?
รอจนหลังจากที่มิยาโมโตะอธิบายให้กับมูโตะฟังแล้ว มูโตะถึงได้เข้าใจถึงเจตนาของนายท่านโจว จากนั้นก็มีท่าทางหมดเรี่ยวหมดแรง ล้มลงไปอยู่บนโซฟา