จะเห็นได้ว่า ตาเฒ่าน้อยนี้กลัวผู้ที่ถูกเรียกว่าผู้นำราชวงศ์เป็นเอามาก
นายพลเฉินเห็นตาเฒ่าน้อยกลัวถึงขนาดนี้ หัวเราะขึ้นมาลั่น
“คุณไม่ต้องกลัวถึงขนาดนี้ ผมก็ยังไม่ได้ว่าจะรายงานไปเบื้องบน ผมเพียงเตือนใจคุณไว้เคุณั้นเอง”
“แต่ก็นั่นแหละที่คุณต้องระวัง คำพูดของคนระดับคุณนี่มักทำให้คนฟังเผมใจผิดได้ ถึงเวลานั้น ผมก็คงไม่มีปัญญาปกป้องคุณได้นะ”
นายพลเฉินดูเหมือนพลิกเกมกลับมาได้ช่วงหนึ่ง แค่เพียงพูดไม่กี่คำก็เล่นเอาตาเฒ่าน้อยผวาตกใจไปแทบตาย
ตาเฒ่าน้อยเพียงหัวเราะเขิน ๆ ผงกหัวรับ หน้าแดงแผ่กระจายค่อย ๆ ไล่ลงไปถึงคอ
นายพลเฉินก็ไม่ไปใส่ใจกับตาเฒ่าน้อยต่อ แต่กลับหันมองใส่ใจไปที่คนไม่มีชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์เดินเผมมาในทันใดนั้น
กรรมการผู้ตัดสินประกาศต่อผู้ชมในงานว่า
“คุณผู้นี้ ก็คือจูกัวชิงหลงจากตระกูลจูกัว ทุกคนที่อยู่นี้น่าจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย แต่เขาเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งในอันดับหนึ่งเชียวแหละ!”
“เพียงว่าเป็นคนค่อนผมงสมถะเรียบง่าย บัดนี้ตระกูลจูกัวได้ออกมาแข่งขัน คงจะต้องทำให้พวกเราเหล่าผู้ชมในงานนี้ได้ตื่นตากันอย่างแน่นอน”
ผู้คนทั้งหมดมองไปที่จูกัวชิงหลง ให้รู้ไว้ก่อนว่าตระกูลจูกัวแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยสนใจที่จะเผมร่วมการแข่งขัน แต่พลังแท้จริงที่เก็บซ่อนอยู่ โดยแท้จริงไม่มีใครกล้าจัดให้ตระกูลจูกัวนี้ลงไปอยู่อันดับท้าย
“มันอะไรกันนี่ ตระกูลจูกัวถึงกับมีส่งคนมาลงแข่งขันในวันนี้ด้วย?”
“ผมก็ไม่รู้นะ แต่ได้ยินมาว่าคนตระกูลจูกัวนี่เก่งกาจมาก ถ้าเกิดว่าผู้ชนะเลิศในครั้งนี้ตกไปที่พวกเขา นั่นไม่ทำให้ตระกูลจูกัวขึ้นมาเป็นผู้กุมอำนาจดูแลแปดตระกูลไปเลยหรือ?”
“ก็ไม่รู้นะ ได้เพียงแต่ฟังเขาเล่ามาว่าตระกูลจูกัวร้ายกาจมาก เท็จจริงเป็นอย่างไร พวกเราคงไม่มีใครรู้จริง”
แต่ท่านนายพลเฉินที่นั่งอยู่ผมงบนพอเห็นจูกัวชิงหลงเผม สีหน้าเปลี่ยนเคร่งขรึมลง
รู้ได้เลยว่าคนผู้นี้ไม่ใช่จูกัวชิงหลงอะไรนั่น และก็ไม่ใช่คนตระกูลจูกัวอะไรทั้งนั้น แต่เป็นนักฆ่าของจริงของแท้จากคลังเพชฌฆาต
“คุณนี่ช่างโหดเหี้ยมแท้ กับเด็กรุ่นหลังคนหนึ่ง คุณยังต้องใช้วิธีการถึงขนาดนี้”
ตาเฒ่าน้อยค้อมหัวให้เล็กน้อย
“ถ้าไม่ใช่เป็นภารกิจ มีหรือผมจะลงทุนทรัพย์สินก้อนใหญ่ขนาดรี้?ก็ไหน ๆ คุณเด็กน้อยคนนี้เป็นนักโทษในราชวงศ์ต้าเซี่ยของพวกเรานี่นะ คนอย่างนี้พวกเราจะเก็บไว้ไม่ได้”
นายพลเฉินรู้อยู่แก่ใจว่าไม่ได้มีคำสั่งให้ฆ่าถังเฉาเลย มีแต่ตาเฒ่าน้อยนี้ทำเป็นเรื่องเป็นราวผิดธรรมดา ชัดเจนว่าต้องมีเป้าหมายอะไรอยู่
“เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?ก็ได้แต่หวังว่าคุณไม่ได้อยู่เบื้องหลัง ทำเรื่องอะไรที่ผิด ๆ ก็จะดี ช่วงนี้ข่าวว่ากันว่ามีขบวนการจากต่างแดน ติดต่อใกล้ชิดกับคนวงในระดับสูงของราชวงศ์ ยังไม่รู้คน ๆ นั้นเป็นใครกัน?”
ตาเฒ่าน้อยไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ สีหน้าก็ไม่เห็นมีวิตก เสียงพูดราบเรียบ เหมือนไม่ได้รู้เห็นกับเรื่องนี้จริง ๆ
“ไอ้เรื่องนี้ผมก็ได้ยินมา แต่จะเป็นใครกันที่ไปเกี่ยวข้องด้วยกับขบวนการต่างแดนนี่ ผมก็ไม่รู้ละ คงต้องรู้ไว้นะว่าเรื่องประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราราชวงศ์ต้าเซี่ยเคยจะรู้สึกนิยมชมชอบด้วย”
นายพลเฉินหัวเราะเย้ยหยันอยู่ในใจ ไม่ได้คิดจะเชื่อเลย
ในระยะนี้เขาติดตามสืบเรื่องนี้มาตลอด แต่ยังไม่ได้มีอะไรคืบหน้า เรื่องราวทั้งหมดล้วนมีแนวโน้มไปที่ตาเฒ่าน้อย แต่ยังไม่พบมีหลักฐานใด ๆ
เห็นท่าทีทำเหมือนรู้ดีของนายพลเฉิน ตาเฒ่าน้อยทายอะไรออกมาได้ในหลายอย่าง
แต่เขาก็ไม่เห็นมีท่าทีตื่นตระหนกแม้แต่น้อย ไหน ๆ ตัวเองก็ได้วางงานนี้ไว้อย่างแนบเนียนที่สุดแล้ว จะให้มีพิรุธหลุดรั่วไม่ได้เด็ดขาด
“อย่าเพิ่งคุยเรื่องงานหลวงกันเลย วันนี้เรามาดูการแข่งขันกัน มาดูว่าฝีมือคุณจูกัวชิงหลงมันเป็นยังไงบ้างดีกว่า สู้อุตส่าห์ลงทุนเงินไปมากมายขนาดนั้นเพื่อไปเชิญมาเชียวนะ!”
นายพลเฉินไม่ตอบ ได้แต่มองไปยังคนที่ถูกเรียกว่าจูกัวชิงหลง ยังสงสัยว่าคุณคนนี้จะเก่งฉกาจขนาดไหน
……
บนเวทีประลอง
จูกัวชิงหลงมีใบหน้าตายด้านดูไม่เหมือนคนมีชีวิต สีหน้าซีดเป็นสีกระดาษเปล่า
ยืนตรงแข็งทื่ออยู่บนเวที ไม่ส่งเสียงพูดใด ๆ
คู่ต่อสู้ที่ยืนอยู่ผมงหน้าคือถังโจ่
ด้วยว่าผู้ที่สมัครลงแข่งขันของแต่ละตระกูลต่างก็มีกันอย่างน้อยสองคนขึ้นไป ตระกูลถังคงมีแต่ถังเฉาคนเดียว ทำให้จะเห็นถังเฉาดูโดดเดี่ยวเกินไป
เมื่อเป็นอย่างนี้ ถังโจ่จึงตัดใจลงเผมชื่อสมัคร
ถึงแม้จะรู้ตัวอยู่ว่าพลังฝีมือจริงของตัวเองยังห่างถังเฉาอยู่ไกล แต่ด้วยความที่เป็นคนในตระกูลเดียวกัน ถึงยังไงก็ต้องลงผสมโรงด้วยบ้าง แม้ว่าทั้งสองจะเคยมีเรื่องเผมใจผิดกันอยู่ก่อน
“คุณมีชื่อว่าอะไร?”
ถังโจ่เห็นจูกัวชิงหลงไม่พูดอะไร ตัวเองก็ไม่พูด ยืนเงียบเฉยประจันหน้าจูกัวชิงหลง
ร่างของ จูกัวชิงหลงกระจายเต็ด้วยกลิ่นอายการฆ่า อีกยังกระแสพลังครอบงำ อันทำให้ถังโจ่มีความรู้สึกกดดัน
“ถังโจ่ ตระกูลถัง และก็เป็นศิษย์ผู้พี่ของถังเฉา”
ชะงักหยุดลงครู่หนี่ง เขาพูดต่อ “ได้ยินว่าคุณเป็นคนตระกูลจูกัว แต่ตระกูลจูกัวไม่เคยเห็นลงสมัครแข่งในสนามการแข่งขันสมาคมบูโดเลย แต่มาปีนี้กลับได้สมัครมา ผมได้มาต่อสู้กับคู่ต่อสู้อย่างคุณนับว่าเป็นความโชคดีทีเดียว”
จูกัวชิงหลง หัวเราะเย้ย ๆ มองถังโจ่ที่ยืนอยู่ผมงหน้า
“ใช่หรือ?คุณคิดจริง ๆ หรือว่าเป็นคู่ต่อสู้ของผม?น่าจะว่าคุณเพียงแต่จะขึ้นมาส่งมอบหัวของคุณ?”
ถังโจ่ใช้วาจาพูดอย่างสุภาพ คิดไม่ถึงว่าจูกัวชิงหลงพูดกลับมาแบบนี้ได้ พลันไฟโทสะลุกโพลงขึ้น
แต่ทว่าเขารู้ดีว่าคนที่ยืนอยู่ต่อหน้านี้มีพลังฝีมือที่ไม่ธรรมดาแน่ ก็ยังไม่กล้าผลีผลาม
“ก็ไม่ทราบว่าทำไมคุณจึงใช้วาจาหยาบคายกับผมแบบนี้ ที่นี่เป็นสนามแข่งขันบูโดในราชวงศ์ต้าเชี่ย จึงขอคุณได้โปรดมีมารยาทด้วย”
จูกัวชิงหลงหัวเราะเย้ย ๆ ไม่ตอบโต้ใด ๆ เพียงพูดเหยียด ๆ ออกไป
“คุณปลวกเอ๋ย อย่ามัวเสียเวลาเลย รีบลงมือกันให้จบ ๆ!”
แต่ก่อนหน้านี้ ถังโจ่ไม่เคยเชื่อจริง ๆ ว่าพลังฝีมือตัวเองจะด้อยไปถึงไหน แต่หลังจากถังเฉาปรากฏตัวมา ยอดฝีมือในราชวงศ์ต้าเซี่ยทยอยกันออกมาไม่ขาดสาย ถังโจ่จึงได้รู้แท้ถึงพลังฝีมือตัวเอง มันยังห่างกับพวกเหล่านั้นอีกเกินไกล
เขาจ้องเขม็งตรึงสายตาอยู่ที่จูกัวชิงหลง ไม่ปริปากพูดอะไรอีก เพียงแต่เดินลมปราณปรับพลังภายในอย่างต่อเนื่อง