บทที่ 164 ผมก็แค่อยากให้คุณไปกับผม
“นั่นมันคืออะไร”
“นายหยุดถามได้แล้ว”
“โอเค โอเค” เฟิงเฉินย่นคิ้วแน่น ความโกรธมากมายในดวงตาของเขาไม่สามารถระงับได้อีกต่อไป “ฉันจะไม่ถามอีก แต่ถ้าฉันจะบอกกับเธอว่า ถ้าเธอไม่กลับไปกับผมตอนนี้ บริษัทH.Y.จะถอนทุนจากบริษัทลั่วซื่อทันที เธอยังจะเป็นแบบนี้อยู่อีกไหม”
ลั่วมั่นอึ้งไปชั่วขณะ เธอคิดไม่ถึงว่าทั้งสองคนที่พัฒนากันมาถึงทุกวันนี้ เขาจะยังเอาเรื่องนี้มาแบล็กเมล์เธออีก
เฟิงเฉินเสียใจทันทีที่พูดออกไปแบบนั้น
เขาเห็นความเศร้าและอ่อนแอในดวงตาของลั่วมั่นได้อย่างชัดเจน อีกทั้งท่าทีที่กำลังอดกลั้นมันเอาไว้
“มั่นมั่น ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” เขาว้าวุ่นและคิดอยากอธิบาย แต่กลับถูกเธอสบัดมือทิ้งอย่างไร้เยื่อใย
“ปล่อยฉัน เฟิงเฉิน ทั้งๆที่นายก็รู้ว่าบริษัทลั่วซื่อมีความหมายกับฉันมากแค่ไหน นายกลับเอาเรื่องนี้มาขู่ฉัน ต่อให้ฉันจะตายฉันก็จะทำ ได้ ไปสิ ฉันจะไปกับนาย ตราบใดที่นายจะไม่เสียใจในภายหลัง”
สีหน้าของลั่วมั่นช่างเย็นชา ราวกับถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง
เฟิงเฉินยังคงรู้สึกเสียใจ “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น มั่นมั่น ฉันก็แค่ไม่ชอบให้เธออยู่ที่นี่ ฉันไม่ชอบให้เธออยู่กับซือโม่ เธอต้องไปกับฉัน…”
“เรื่องที่นายไม่ชอบมีตั้งมากมาย แล้วสามปีที่ผ่านมา นายจะชอบฉันได้ยังไง!” ลั่วมั่นกำหมัดแน่นและกระหน่ำทุบไปที่แผงอกของเขา เธอพูดเสียงดัง เฟิงเฉินเองก็อดไม่ได้ที่จะตะคอกกลับและเซถอยหลังไปสองก้าว
เธอทุบเขาราวกับกำลังระบาย เขาเองก็ไม่ได้หลบและปล่อยให้เธอทึ้งเสื้อของเขาอยู่อย่างนั้น ที่เบ้าตาเต็มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น จนในที่สุดก็ไหลออกมา เขาไม่สามารถอดกลั้นมันได้อีกต่อไป
“มั่นมั่น พอซะที”
เขาคว้ามือของเธอและดึงเข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขน ไม่รอให้ลั่วมั่นได้ตอบกลับก็ประกบกับริมฝีปากของเธอเข้าอย่างจัง
นับตั้งแต่ที่รู้ความจริงจากปากของเฟิงเซิ่งเกี่ยวกับคืนนั้นเมื่อสามปีก่อน ตลอดสิบวันนี้มานี้ เขาไม่สามารถหลับลงได้ เมื่อนึกถึงเรื่องนั้นที่เขาเป็นคนกระทำด้วยตัวเอง จนทำให้ลั่วมั่นต้องทนทุกข์กับการถากถางของเขามาตลอดสามปี เขาก็ยิ่งร้อนรุ่มกลุ้มใจ
เขากลัว กลัวว่าเวลาสามปีนั้นจะนานเกินไปและไปบั่นทอนความอดทนของผู้หญิงที่มีต่อผู้ชายคนหนึ่ง
ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของซือโม่ เขาเชื่อว่าตัวเองยังมีเวลาอีกถมเถที่จะใช้ความรักทำร้ายเธอและปล่อยให้เธอฟื้นความรู้สึกที่กัดเซาะมานานหลายปี แต่ตอนนี้ซือโม่ปรากฏตัวแล้ว คนที่เกือบจะเป็นคู่รักของเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก คนที่ตรงกันข้ามกับเขา คนที่รักและทะนุถนอมเธอมาเนิ่นนาน
จะไม่ให้เขากระวนกระวายได้อย่างไร
“ไม่…”
อุณหภูมิในห้องนั่งเล่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ลั่วมั่นพยายามดื้นรนถึงสองครั้งแต่มันก็ไร้ประโยชน์ สุดท้ายเธอก็เคลิบเคลิ้มไปกับจูบที่ทั้งหยาบกร้านและป่าเถื่อน แต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยน เขาบดตัวเข้าหาเธอราวกับจะให้เธอเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างไรอย่างนั้น เขาจับข้อมือของเธอไว้แน่นและตอกเธอเข้ากับกำแพง เขาไล่ไปตามริมฝีปากของเธอ จูบที่ปั่นประสาทเธอไปทุกอณู
ไม่รู้ว่าจูบนี้กินเวลาไปเนิ่นนานเท่าไหร่ อ๊อกซิเจนค่อยๆลดน้อยลง ลั่วมั่นแทบจะหายใจไม่ออก ในที่สุดก็ใช้แรงเฮือกสุดท้ายผลักเขาออกไป เธอทรุดตัวลงกับพื้นพิงกำแพง พลางหอบหายใจเฮือกใหญ่
“ขอโทษ” หลังจากที่เฟิงเฉิงได้สติว่าตัวเองทำอะไรลงไป ในดวงตาของเขาก็เผยให้เห็นถึงความรู้สึกผิด เขาทิ้งตัวนั่งยองๆอยู่ตรงข้ามลั่วมั่น ขาเรียวยาวทั้วสอวข้าวไม่มีที่ให้พัก หัวเข่าของเขาชนกับน่องเย็นๆของลั่วมั่น
“มั่นมั่น ฉันขอโทษ ฉัน…ฉันก็แค่อยากให้เธอกลับไปกับฉัน”
เฟิงเฉินก้มหน้าต่ำ ความหยิ่งผยองเมื่อครู่นี้หายไป เหลือเพียงแต่ความสูญเสีย
ความไม่พอใจที่สะสมอยู่ในใจของลั่วมั่นถูกท่าทีที่ดูเศร้าใจของเขาลบล้างไปจนหมด ท่าทีอ่อนแอที่ดูไร้ซึ่งหนทาง ดวงตาแดงก่ำ พูดสะอึกสะอื้น
“นายต้องเชื่อฉัน และปล่อยให้ฉันอยู่ที่นี่สักพัก นายเชื่อฉันนะ ถ้าฉันกลับไปตอนนี้ มันไม่มีอะไรดีกับเราทั้งสองคนหรอก นายเองก็เคยพูดไม่ใช่เหรอ ว่าสิ่งที่ขาดไปของเราสองคนก็คือความไว้ใจ และตอนนี้ฉันต้องการความไว้ใจจากนาย”