บทที่ 215 หนึ่งพันดอลล่าต่อหนึ่งอึก
“แม่บ้านหลีไม่อยู่ แล้วไส้เกี้ยวกับแป้งเกี้ยวจะทำยังไงล่ะ?”
พอกลับถึงบ้าน ลั่วมั่นก็พบว่าแม่บ้านหลีไม่อยู่
ในเวลานี้เธอถึงได้คิดขึ้นได้ว่า เนื่องจากสองวันมานี้เกิดสถานการณ์วุ่นวายที่คฤหาสน์เฟิง เมื่อเช้าก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะออกจากบ้านแม่บ้านหลีได้บอกไว้ว่าจะขอกลับไปอยู่คฤหาสน์เฟิงสักระยะ
“ก็ทำเอง” เฟิงเฉินพูดขึ้นสามพยางค์อย่างราบเรียบ จากนั้นก็เปิดตู้เย็น
“คุณรู้เหรอว่าทำยังไง?”ลั่วมั่นสงสัย
เฟิงเฉินพยักหน้า อย่างมั่นใจ
“อืม”
หลังจากกลับบ้าน ลั่วมั่นย้ายเก้าอี้มาที่หน้าตู้เย็นเพื่อรอดูเรื่องสนุกๆ ความหมายของการทำไส้เกี้ยวเป็นก็คือเปิดไป่ตู้ในโทรศัพท์มือถือจากนั้นก็ทำตาม
“หยิบเหล้ามาให้ผมหน่อย”
“อยู่ในตู้เย็น?” ลั่วมั่นเปิดประตูตู้เย็นอย่างสงสัย มองหาสิ่งที่เหมือนขวดเหล้าโดยรอบ
“ตรงนี้ไม่มี”
ทั้งสองคนมองหาขวดเหล้าที่กองอยู่ทั่วทั้งเคาน์เตอร์
ลั่วมั่นถามขึ้นว่า
“ถ้าไม่มีเหล้าก็จะทำไม่ได้ใช่ไหม?”
“น่าจะได้นะ แต่รสสัมผัสอาจจะไม่ดี”
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆเฟิงเฉินก็เงยหน้ามองที่เธอ “มั่นมั่นไปเอาไวน์แดงที่ห้องเก็บไวน์ให้ผมหน่อยครับ”
“ทำไมล่ะ?แค่ห่อเกี้ยวไม่สำเร็จ คุณก็จะต้องดื่มไวน์แก้เครียดแล้วเหรอ?”
ลั่วมั่นไม่เข้าใจจึงถามขึ้น
“คุณไปหยิบมาเถอะ”
เฟิงเฉินเร่งให้เธอไปเอาไวน์ที่ห้องเก็บไวน์ แต่ไม่ได้บอกว่าเอามาทำไม ลั่วมั่นจึงทำได้เพียงทำตามเท่านั้น
จากลิฟต์ห้องโถงก็สามารถเข้าห้องเก็บไวน์ในวิลล่าจิ่นซิ่วได้ เฟิงเฉินเป็นนักสะสมเหล้าตัวยง แค่วิลล่าจิ่นซิ่วตึกเดียวก็มีห้องเก็บเหล้าถึงสองห้อง ห้องหนึ่งใช้ในการเก็บเบียร์ ส่วนอีกห้องหนึ่งใช้ในการเก็บไวน์ ล้วนเป็นไวน์ดี ๆทั้งนั้น
“หงเย็นเกอ” ลั่วมั่นหยิบไวน์ขึ้นมาขวดหนึ่ง ดูอยู่นานจึงจะอ่านตัวอักษรที่อยู่บนขวดออก พลางงอนิ้วเคาะที่ขวด “ของคุณเหรอ”
ขณะที่กลับไปยื่นขวดเหล้าให้กับเฟิงเฉิน ก็เห็นได้ชัดว่าหางตาของเฟิงเฉินไม่ค่อยเป็นปกติสักเท่าไหร่
“เป็นอะไรเหรอ?” เธอถาม
“เธอสายตากว้างไกลมากเลย เหล้าตั้งมากมาย เธอดันหยิบเหล้าขวดนี้มา”
“แพงมากเลยเหรอ?”
“หาได้ยากมากต่างหาก” เฟิงเฉินจนปัญญา “น่าจะประมาณหนึ่งพันดอลล่า”
“ก็ไม่แพงมากนะ ฉันเลี้ยงคุณเอง ลองเปิดมาชิมเถอะ ฉันอยากดื่มอยู่พอดีเลย”
สายตาของเฟิงเฉินซับซ้อนพูดขึ้นสองคำว่า
“อึกหนึ่ง”
ลั่วมั่นยังไม่ได้สติกลับมา “จะขี้งกไปทำไม ให้ดื่มแค่อึกเดียวเองเหรอ?”
เฟิงเฉินจนปัญญา พยายามอธิบายอย่างอดทนว่า
“ผมหมายความว่า เหล้าขวดนี้หนึ่งอึกหนึ่งพันดอลล่า”
ลั่วมั่นเบิกตากว้างและฟังเฟิงเฉินอธิบายว่า “ผมก็แค่ต้องการใช้ไวน์ใส่ลงไปในไส้แทนเหล้า คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเอาไวน์ราคาแพงขนาดนี้มา สายตาของคุณเฉียบแหลมจริงๆ”
ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไรออกมา
ขณะที่พูด เฟิงเฉินได้หยิบที่เปิดขวดมาเปิดขวดไวน์เรียบร้อยแล้ว ใช้เครื่องอุ่นไวน์อุ่นไวน์ จากนั้นเทลงไปเพียงครึ่งเดียว ท่าทางเสียดายไม่น้อย
แน่นอนว่าเฟิงเฉินไม่ได้เสียดายเงิน ลั่วมั่นคิดว่าที่เขาเสียดายน่าจะเป็นเพราะเหล้าชนิดนี้หายากต่างหาก
“เฮ้อ ถ้างั้นอย่าเปิดเลย รีบปิดไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะเอาไปเก็บให้ แล้วเอาขวดอื่นมาแทน เฮ้อ ”
“ไม่ต้องหรอก”เฟิงเฉินค่อยๆรินไวน์ออกจากเครื่องอุ่นไวน์จากนั้นเทลงไปในแก้วไวน์ นิ้วมือเรียวยาวของเขาถือแก้วไวน์ยื่นให้กับลั่วมั่นของเหลวสีแดงในแก้วไวน์แกว่งไปมาเล็กน้อย ช่างเป็นสีที่เซ็กซี่เหลือเกิน
“ลองชิมดูสิ”
“ทำไมเหรอ คุณไม่เสียดายแล้วเหรอ” ลั่วมั่นพูดแหย่
เฟิงเฉินเลิกคิ้วขึ้น เผยแววตารักและเอ็นดูออกมา
“ของที่มอบให้กับคุณล้วนเป็นของที่มีคุณค่าทั้งนั้น”
ลั่วมั่นนั่งดื่มไวน์อยู่ข้างๆ เธอไม่เชี่ยวชาญในเรื่องไวน์ และดื่มเหล้าไม่ได้มาก ดังนั้นจึงไม่กล้าดื่มมากจนเกินไป ดื่มไปแค่หนึ่งแก้วก็วางลงแล้วมองไปที่เฟิงเฉินกับเกี้ยว
ขณะที่เฟิงเฉินเทเหล้าใส่หม้อ เธอมองดูยังรู้สึกว่าเขากลัวเนื้อจะเจ็บ
ช่างเป็นการทำลายสิ่งของให้เสียหายตามอำเภอใจจริงๆ