เฟิงเฉินพูดไม่ผิด
ถ้าหากไม่ใช่ด้วยเหตุผลนี้ ลั่วมั่นไม่มีทางรับปากซือโม่ว่าจะมางานเลี้ยง
แต่เล่อสวี้กับกวนเส้าหยู้ดันตรวจสอบเจอบางอย่าง บอกว่าไม่นานมานี้ กู้หมิ่นคนรับใช้ที่เป็นกะเทยคนนั้นมีเงินกว่าสองแสนหยวนเข้าบัญชีโดยไม่มีที่ไปที่มา
เพราะฉะนั้นพวกเขามีเหตุผลเพียงพอที่จะสงสัยว่าคนที่ชื่อกู้หมิ่นคนนี้ คือคนเดียวกันกับสาวใช้คนนั้นที่ลั่วมั่นเจอในสวนดอกไม้วันนั้น อีกทั้งเขายังถูกคนยุยงให้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมในครั้งนี้
สามารถนำเงินสองแสนหยวนออกมาได้อย่างง่ายๆ อีกทั้งแม้แต่กวนเส้าหยู้ยังไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ที่โอนเงิน แสดงว่าจะต้องมีตำแหน่งที่ไม่ธรรมดาในเมืองเจียง และคนคนนี้บางทีอาจจะอยู่ในงานเลี้ยงนี้คืนนี้ด้วย
“ประธานเฟิง นี่คือรายงานของไตรมาสนี้”
ในห้องสำนักงาน เสียงที่ชัดเจนของส้งชิงหรู ดึงความคิดของเฟิงเฉินกลับคืนมา
สามวันผ่านไปหลังจากงานเลี้ยงของMXในคืนนั้น หลังจากที่แยกย้ายกับลั่วมั่นในวันนั้น เขาก็ได้ทำตามที่เธอพูด ปล่อยให้เล่อสวี้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการติดตามโครงการความร่วมมือกับรัฐบาล ส่วนแผนกฝ่ายขายให้ส้งชิงหรูรับช่วงดูแลชั่วคราว
“วางไว้เถอะ” เฟิงเฉินพยักหน้า ใบหน้าเรียบเฉย
“ค่ะ” ส้งชิงหรูวางเอกสารลงบนโต๊ะทำงานแล้ว แต่ก็ไม่ได้เร่งรีบจะออกไป
“ยังมีธุระเหรอ” เฟิงเฉินถาม
ส้งชิงหรูมีความลังเล
“โครงการที่ประธานเล่อร่วมมือกับรัฐบาลมาสองสามวันนี้ ดิฉันมีบางอย่างที่ไม่ทราบว่าควรจะบอกกับท่านดีหรือไม่”
น้ำเสียงที่ฟังดูแล้วเหมือนจะกังวลเล็กน้อย แต่เฟิงเฉินมองดูแล้ว เป็นความกังวลที่เสแสร้ง ความดีใจต่างหากที่เป็นของจริง
“ว่ามา”
เขานั้นรู้สึกแปลกใจ ส้งชิงหรูจับจุดอ่อนอะไรของเล่อสวี้ได้ ถึงได้กล้าวิ่งมาฟ้องเขาถึงที่นี่
“คือการจัดซื้อวัสดุในครั้งนี้ค่ะ ประธานเล่อใช้วัสดุที่มีคุณภาพต่ำ”
ส้งชิงหรูราวกับเล่นมายากล พลางพูดพลางหยิบถุงพลาสติกออกมาจากด้านหลัง ในนั้นบรรจุชิ้นส่วนตัวอย่างของวัสดุ ยื่นให้เฟิงเฉินอย่างนอบน้อม
เฟิงเฉินเพียงเหลือบตามองแวบหนึ่งเท่านั้น “เหรอ คุณรู้ได้อย่างไร”
“ฉัน…..” ส้งชิงหรูเหมือนจะเดาออกตั้งแต่แรกว่าเฟิงเฉินจะถามคำถามนี้ จึงตอบกลับอย่างใจเย็น “ทีมที่รับผิดชอบโครงการนี้มีเด็กฝึกงานที่ดิฉันเคยดูแล เขาทนดูไม่ได้ที่ประธานเล่อคิดตื้นๆแล้วทำเรื่องแบบนี้ ดังนั้นจึงได้แอบมาบอกกับดิฉัน หวังให้ดิฉันมาเตือนท่าน เพื่อเหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาในวันข้างหน้า ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัท”
“อย่างนั้นผมก็ต้องขอบคุณคุณนะสิ”
น้ำเสียงเฟิงเฉินเรียบนิ่ง แบบที่เป็นปกติของเขา เพียงแต่ครั้งนี้แฝงด้วยความเย็นเยือกที่อธิบายไม่ถูก ทำให้ส้งชิงหรูถึงกับตัวสั่น จนเกิดความกังวลขึ้น
การตอบสนองเช่นนี้ อยู่เหนือความคาดหมายของเธอ
ตามหลักแล้วหากเฟิงเฉินรู้ว่ามีใครบางคนในบริษัทกล้าลดคุณภาพวัสดุในการก่อสร้างของโครงการ ต่อให้จะไม่ระเบิดความโมโหออกมา แต่ก็น่าจะรีบทำอะไรสักอย่างเพื่อเรียกคนที่รับผิดชอบโครงการนั้นกลับมา
“ประธานเฟิง…..ท่านไม่โกรธเหรอคะ”
“เจอเรื่องแบบนี้แน่นอนว่าสมควรโกรธ” ใบหน้าของเฟิงเฉินยังคงปกติ “คุณมาเตือนผมได้ทันท่วงทีเช่นนี้ คงต้องมีรางวัลตอบแทนสักหน่อย ไหน คุณลองบอกว่าสิว่าคุณอยากได้อะไร”
ส้งชิงหรูรีบส่ายหน้า “ไม่ต้องค่ะ ดิฉันไม่ได้อยากได้อะไร ดิฉันแค่ทำเพื่อบริษัทเท่านั้น”
“หลี่สู้” เฟิงเฉินได้เรียกหลี่สู้เข้ามา “นำรถบีเอ็มดับเบิลยูที่อยู่ในโรงรถ ไปมอบให้กับรองประธานส้ง”
หลี่สู้เหลือบมองส้งชิงหรูแวบหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะสงสัยแต่ก็ไม่กล้าถาม เพียงแต่พยักหน้ารับ “ ครับ กระผมจะไปเอากุญแจแล้วนำไปมอบให้ที่ห้องสำนักงานของรองประธานส้งเดี๋ยวนี้”
ส้งชิงหรูดีอกดีใจ เดิมทีเธอคิดไว้แล้ว มีเล่อสวี้กดทับอยู่บันหัว ในสองปีนี้เธอย่อมไม่มีโอกาสที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง ดังนั้นจึงวางแผนที่จะลาออกไว้แล้ว ครั้งนี้เป็นความบังเอิญที่จับพิรุธงานก่อสร้างของเล่อสวี้ได้ จึงคว้าโอกาสสุดท้ายนี้ไว้เพื่อลองอีกสักตั้ง ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมากมาย เพราะเนื่องด้วยเล่อสวี้เป็นคนของลั่วมั่น และลั่วมั่นก็เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเฟิงเฉิน
เห็นทีแล้ว ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาคู่นี้คงจะเหมือนกับข่าวที่คนภายนอกลือกันให้แซดจริงๆ ว่าทั้งคู่นั้นหย่ากันตั้งนานแล้ว