แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 10 ความอ่อนโยนของสุมิตร
“ทำรักษาความบริสุทธิ์จนตายเลยหรอ” สุมิตรงุนงง จาก นั้นจึงหัวเราะเยาะออกมา เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อที่จันวิภาจะทำเช่น นั้น จึงพูดอย่างเหยียดหยาม “เธอชนสิ ฉันอยากจะดูว่าเธอจะ เล่นต่อได้อีกนานแค่ไหน”
จันวิภากัดริมฝีปาก จ้องมองมายังสุมิตรอย่างเคียดแค้น จากนั้นหันตัวกลับไปทันที ตรงไปที่เสานั้นแล้วชนมันอย่าง
รุนแรง
“โป๊ก…” เสียงดังขึ้น สุมิตรมองดูจันวิภาที่อยู่ต่อหน้า กำลังล่มลงไปบนพื้นอย่างช้าๆ และที่อยู่บนเสาต้นนั้น
คือสีของเลือดที่กระจายอยู่
“โอ้ย”
“มีคนตายช่วยด้วย”
เหล่าบรรดาสาวใช้กรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ และ สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านข้างเสา โชคไม่ดีที่ถูกเลือดสาด จึงยิ่งทำให้ กรีดร้องจนแทบขาดใจ
“หุบปาก” สุมิตรตวาด ในดวงตาแฝงไว้ด้วยความโกรธ
ภายใต้คำสั่งของเขา สาวใช้ที่อยู่โดยรอบก็ได้ปิดปาด เงียบทันที ปิดปากของตนเองไว้แม้แต่ลมหายใจก็ไม่กล้าพ่น
ออกมา
มองดูผู้หญิงที่ล้มตัวอยู่บนพื้น สุมิตรจึงเริ่มรู้สึกร้อนใจผู้หญิงคนนี้เธอกล้าที่จะกระแทกเข้ากับเสาที่อยู่ด้านหน้าเขา หรือว่า เดิมที่เธอไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ประมาทเลินเล่อเช่นนั้น
แต่ทว่า เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใช่สาวพรหมจารี!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจของสุมิตรก็ยิ่งสับสนขึ้นไปอีก อารมณ์ทั้งหมดกำลังพรั่งพรูออกมา ทำให้เขาอารมณ์เสียขึ้น
มาทันที
“เรียกหมอมา ช่วยชีวิตผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ พวกเธอก็อย่า
คิดว่าจะมีชีวิตรอด” สุมิตรกัดฟันพูด
แล้วเดินไปอุ้มจันวิภาที่ล้มอยู่บนพื้น ขึ้นไปในห้อง
และไม่รู้ว่าสลบไปนานแค่ไหน จันวิภาจึงค่อยๆลืมตาของ ตนเองขึ้นมา ยังไม่ทันที่จะเห็นสถานการณ์ปัจจุบัน ก็รู้สึกถึง ความเจ็บปวดที่หน้าผากแผ่ซ่านไปจนทั่วศีรษะ เธอเจ็บปวดเสีย จนอ้าปากค้าง
“คุณผู้หญิง ท่านฟื้นแล้วหรอ”
จันวิภาใช้แขนสนับสนุนตัวลุกขึ้นอย่ายากลำบาก หันไป มองเห็นหญิงสาวที่สู่เสื้อคนรับใช้ และตอนนี้ เธอกำลัง อยู่ในห้องนอนของตนเอง
เธอ
สาวใช้เดินมา อยากที่จะช่วยจันวิภาเปลี่ยนชุด แต่จันวิภา กลับโบกมือแล้วเอ่ยถามไปว่า “เขาล่ะ
เขา
สาทให้มีน… จากนั้นจึงพูดไปว่า “ดณยู้หญิง บายน้อยอย่ที่ห้องรับแขก นี่เป็นคำสั่งของเขา หลังจากที่ท่านฟื้นขึ้นมา ให้ ติฉันช่วยท่านเปลี่ยนเสื้อผ้าจากนั้นก็ให้พาท่านลงไป”
อยากจะเห็นหน้าเธอจนอดใจไม่ไหวขนาดนี้ เพื่อให้เธอ ขายหน้างั้นหรอจันวิภาหัวเราะออกมาด้วยความเย้ยหยันเล็ก น้อย
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ก็ให้สาวใช้ช่วยประคองเอลง ไปชั้นล่าง เพียงพริบตาก็เห็นสุมิตรกำลังนั่งอยู่บนโซฟา เธอยัง ไม่ทันจะได้เตรียมป้องกัน ก็ได้ยินชายที่กำลังขมวดคิ้วอยู่ถาม ว่า “แผลไม่เป็นไรแล้วหรอ”
จันวิภาตกตะลึง นี่เขากำลัง ..ห่วงใยตนเองอยู่งั้นหรอ
“ทำไม ไม่อยากกลับบ้านหรอ” เมื่อมองเห็นสีหน้าที่ ท่าทางมีนงงของจันวิภา อารมณ์ที่อ่อนโยนของสุมิตรก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหนาวเย็น
“นาย..นายจะพาฉันกลับบ้านหรอ” จันวิภาประหลาดใจ ขึ้นมาทันที ในขณะเดียวกันก็เกิดความเดือนภัยมาด้วย สุ มิตรยังไม่อยากที่จะปล่อยเธอไป และยังต้องการที่จะให้เธอเอา อกเอาใจเขาอยู่
“ไปเถอะ”
ไม่ว่าจันวิภาจะคิดอย่างไร สุมิตรก็ยืนตรงขึ้นมา หันตัว แล้วเดินจากไป เป็นการกระทำที่ตรงไปตรงมา ไม่มีเลศนัย
แอบแฝง
จันวิภายืนอยู่กับที่อย่างตกตะลึง จนตอนนี้พึ่งจะตอบสนอง รีบปฏิเสธความช่วยเหลือของแม่บ้าน และไล่ตามไป อย่างรวดเร็ว
“รอฉันด้วย” จันวิภารีบตระโกนออกไป
หลังจากตามสุมิตรที่ออกจากประตูไป จันวิภาก็ได้เห็นรถ รอลส์รอยซ์ แฟนทอมจอดอยู่ในสนาม
มองดูเขากำลังขึ้นรถจากไป กลัวว่าสุมิตรจะทอดทิ้ง ตนเอง จันวิภาจึงวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว ผลที่ได้คือ ตื่นเต้นไป จนเกินขอบเขต เท้าพลิกจนล้มลงกับพื้น
“โอ๊ย..
เสียงกรีดร้องของจันวิภายังไม่ทันที่จะจบลง ก็รู้สึกว่า ตนเองนั้นกำลังตกลงสู่ในอ้อมกอดที่แข็งแรง ปลายจมูกได้ กลิ่นยาสูบจางๆจากตัวเขา นอกจากนี้ยังมีน้ำหอมจิวองชี่ของ ผู้ชายที่นำเข้าจากฝรั่งเศส
“เธอระวังหน่อยสิ” สุมิตรเอ่ยถาม แม้ว่าน้ำเสียงจะไม่อ่อน โยน แต่กลับไม่เย็นชาเหมือนก่อนหน้านี้
“ไม่ ไม่เป็นไร ฉันก็แค่…ปวดหัวนิดหน่อย..” จันวิภา ผลักสุมิตรออกไปทันที แล้วพูดไปหลังจากสบัดมือ
สุมิตรที่ถูกผลักออกมีสีหน้าอีมครีม เติมเขาอยากจะเอื้อม มือออกไปถึงผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา แต่พอคิดถึงบาตแผลของเธอ แล้ว จึงหยุดมือไว้เปิดประตูรถ พูดอย่างเย็นชา “เข้าไป”
ขึ้นไปบนรถแล้ว จันวิภากับสุมิตรนั่งด้วยกันอยู่ทางเบาะด้านหลัง คนขับรถขับอยู่ข้างหน้า เธอเป็นอายอยู่นิดหน่อยและ
ไม่สงบ
สุมิตรก็ไม่ได้พูดจากับเธอ บรรยากาศภายในรถนั้นเต็ม ไปด้วยความแปลกประหลาดและน่าอึดอัด
เมื่อคิดถึงเรื่องงที่เกิดขึ้น จันวิภาที่รู้สึกอึดอัดอยู่เล็กน้อย จึงอ้าปากพูดออกไปว่า “สุมิตร…เมื่อกี้นี้ นายช่วยฉันไว้ทำไมนี้ นายกำลัง…เป็นห่วงฉันหรอ”
เป็นห่วงน่าขัน
มองปราดไปที่จันวิภาอยู่แวบหนึ่ง สุมิตรจึงยิ้มขึ้นมาอย่าง
เหยียดหยาม
เขาช่วยเธอ แค่เพื่อที่จะทรมานเธอต่อ มันจะเป็นไปได้ อย่างไรที่จะ..เป็นห่วงเธอล่ะผู้หญิงคนนี้ มั่นใจในตัวเองมาก เกินไปเสียแล้ว!
“สุมิตร” จันวิภาเห็นว่าสุมิตรไม่ตอบอะไร จึงเรียกชื่อเขา อีกครั้งหนึ่ง
ริมฝีปากที่เบาบางได้พ่นคำออกมาสองคำ สุมิตรพูดว่า
“หุบปาก”
จันวิภาตกตะลึง ภายใต้พลังยับยั้งของเขา ทำได้แต่เพียง ปิดปากอย่างเชื่อฟัง และลองคิดถึงพฤติกรรมของเขาเมื่อสักครู่ นี้ กับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ทันใดนั้นความรู้สึกที่ดีๆต่อเขาก็ หายไปในทันที!
ชายที่ราวกับปีศาจคนนี้ ไม่แน่ว่าความอ่อนโยนที่ แสดงออกมาให้เห็นจะเป็นเพียงการทรมานเธอยิ่งขึ้นไปอีกล่ะ
ไม่ได้คิดมากมายนัก จันวิภาที่ไม่ได้นอนหลับอยากสนิท เมื่อคืน เวลานี้กำลังนั่งอยู่บนรถ รู้สึกแต่เพียงอาการวิงเวียน ศีรษะ ทำให้เธออยากที่จะนอนหลับเอาซะมากๆ
ตอนแรกยังเอนตัวพิงกับกระจกรถนอนหลับ เนื่องจาก ท่าทางที่ไม่ค่อยสบายนัก เธอเลบยเปลี่ยนท่านอน ก็ค่อยๆ เอนตัวลงทับไปบนขาของสุมิตร
จันวิภาคล้ายๆจะรู้สึกว่าหมอนที่อยู่บนหัวของเธอนั้น สบายเป็นอย่างยิ่ง และอดไม่ได้ที่จะถูกับขาของเขา
สุมิตรขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เมื่อมองไปที่ดวงตาของจันวิภา อุณหภูมิก็ค่อยๆร้อนขึ้นมา
ผู้หญิงคนนี้หลับจริงหรือว่าแกล้งหลับกันแน่ผลที่เธอนอน เช่นนี้ เธอจะรับรู้หรือไม่