ตอนที่ 12 ถูกไล่ออกจากบ้าน ไม่มีบ้านให้กลับ
ขณะจันวิภากำลังติดอยู่ ข้างหลังก็มีเสียงประตูเหล็กบ้าน
ใหญ่ดัง”ก๊กก๊ก” เธอจึงรีบหันกลับไปดู มะลิวัลย์กำลังชี้สั่งให้ คนใช้ปิดประตูเหล็กบานใหญ่ของคฤหาสน์ และจะใส่กลอน ไปด้วย
จันวิภาตกใจจึงรีบตะโกนออกไป”มะลิวัลย์เธอทำอะไร?”
มะลิวัลย์หัวเราะอย่างเย็นชา สะบัดชุดเดรสแสนสวยของ เธอและพูดอย่างเสียดสี”จันวิภาแต่งงานใหม่แค่วันแรกก็ถูก สามีทิ้งซะแล้ว รีบหนีกลับมาบ้าน เธออยากให้พ่อของเธอโกรธ จนตายหรือไงฮะ ฉันจะบอกเธอนะ ต่อให้เธอจะคุกเข่าหรือจะ คลาน ก็ต้องคลานกลับไปบ้านตระกูลวิบูลย์ธนภัณฑ์!”
พูดจบ มะลิวัลย์หันตัวกลับไป พาคนใช้เข้าไปใน
คฤหาสน์ ไม่สนใจจันวิภาอีกต่อไป! ที เธอก็เซ็นสัญญากับ
บ้านตระกูลวิบูลย์ธนภัณฑ์แล้ว นี้แค่วันแรก จันวิภาก็ถูกไล่
กลับมา ใครจะรับผิดชอบสิ่งที่เธอสูญเสียไปล่ะ !
“แก ——จันวิภาโมโหมาก โกรธจนถึงขีดสุด นัยน์ตา
เบิกกว้างจ้องมองอย่างเคียดแค้นไปยังแผ่นหลังของมะลิวัลย์ที่ ลับหายไป
ตอนนี้เธอจะทำยังไงต่อไป?!
เธอไม่มีบ้านให้กลับไปอีกแล้ว..
บ้านตัวเองก็กลับไม่ได้ เธอก็ไม่อยากกลับด้วย ใหม่…มีสุมิตรอยู่ เธอก็ไม่อยากกลับไป..
บ้าน
พ่อก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน และก็ไม่รู้ตอนนี้จะเป็นอย่างไร
บ้าง….จันวิภาในหัวเต็มไปด้วยความคิด แล้วขาก็ย่างก้าว ออกไปบนถนนอย่างไร้จุดหมาย
ไม่รู้ว่าเดินออกมานานแค่ไหนแล้ว บางที่อาจเพราะคิดถึง จนแทบจะบ้า จันวิภาเงยหน้า ก็เห็นร่างที่คล้ายๆพ่อของเธอ เธอตกใจทันที ยังไม่ทันได้ทำอะไร เงารางๆที่มองเห็นร่าง นั้นได้เข้าไปในกลุ่มผู้คนแล้ว
“พ่อ…พ่อ” จันวิภารีบตามไป อยากจะตามคนคนนั้นให้ไว ที่สุด แต่คนเยอะเกินไปทำให้เธอตามไม่ทัน
ถอนหายไปออกมาหนึ่งเฮือกใหญ่ ตอนกำลังสิ้นหวังอยู่ เงาร่างนั้นกลับโผล่ออกมาอีก จันวิภาบังเอิญเห็นเขาเดินเข้าไป ที่บาร์ด้านข้าง
จันวิภาไม่เคยเข้าบาร์มาก่อน แต่เธอก็รู้ว่าข้างในไม่ค่อย จะสะอาดเท่าไหร่ หลังจากลังเลเดินอยู่หน้าประตูไปพักใหญ่ พอคิดถึงคนข้างในนี้อาจจะเป็นพ่อตัวเองจริงๆ เธอก็กัดฟันเดิน เข้าไปทันทีอย่างไม่รอช้า
ขณะที่เข้าไปในบาร์ ข้างหูก็ได้ยินเสียงดังของเครื่อง ดนตรีทองเหลือง ลานเต้นอัดแน่นไปด้วยชายหญิงที่สวมเสื้อผ้า แฟชั่นทันสมัย โบกสะบัดขยับร่างกายของตัวเองอยู่ ไม่มีคน ไหนไม่ปดปล่อยความบ้าคลั่งของตัวเองออกมา
จันวิภาไม่สนเรื่องเหล่านี้ เธอมองออกไปรอบๆ พยายาม มองหาเงาของพ่อตัวเอง แต่ทว่าไม่ทันรู้ตัวก็ชนเขากับคนคนหนึ่ง
กลิ่นบุหรี่รุนแรงที่มเข้าจมูก จันวิภาออกมาสองสามที แล้วเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าวและพูดขึ้น”แค่ก แค่ก ขอโทษฉัน..”
“เห้ย ไม่มีตาเหรอไง! “ไม่ทันรอให้จันวิภาพูดจบ ก็สัมผัส ได้ถึงมีคนบุ่มบ่ามจับข้อมือของเธอไว้และสบถออกมาอย่าง โมโห
ข้อมือของจันวิภาถูกจับแน่นจนเจ็บมาก
ไม่ตั้งใจ
เธอพูดขึ้น”ฉัน
เพราะกลิ่นเหล้าบุหรี่ที่เข้มข้น ทำให้ในตาของจันวิภามี ประกายของน้ำตา ประจวบกับความอ่อนโยนไร้เดียงสาของ เธอทำให้คนอื่นๆมองรู้สึกได้ถึงความน่าสงสาร
“จริงๆแล้วคนสวยนี้เอง ฮ่า ฮ่า ไม่เป็นไร เธอมาจูบพี่ทีนึง พี่จะคิดว่าเรื่องเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกัน!”
ชายข้างหน้านี้ชื่อเสือ คือนักเลงแถวๆนี้ พอเขามองเห็น
ใบหน้าของจันวิภา ตาก็เป็นประกายทันที และใช้สายอัน ที่นกามมองไปทั่วตัวของเธอ หลังจากมองเน้นไปยังจุดจุดนั้น แล้ว มือปลาหมึกที่จับจันวิภาอยู่ก็ค่อยๆเคลื่อนมาอยู่ที่ หน้าอกของเธอ
“คุณผู้ชาย โปรดทำตัวให้ดี”
จันวิภาเห็นมือของคนนั้นกำลังยื่นเข้ามา รีบปัดออกไป หลังไปหนึ่งก้าว มาอย่าง
“ชาช่า สาวน้อยคนนี้ดุจริงๆ !”เสือไม่เพียงแค่ไม่โกรธแต่ กลับยิ้มออกมาอย่างดีใจ
“น้องสาว มาคนเดียวเหรอ? อยากจะไปเที่ยวกับพวกพี่ๆ ใหมน้อง?”เสือพูดขึ้น พอมือกวักเรียก ก็มีกลุ่มผู้ชายที่ทั่วทั้งตัว เต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่และเหล้ารุนแรง ดูคล้ายๆนักเลง เดินมา จากสองฝั่งข้างๆ
“เสือ วันนี้ก็ไม่เลวเลยนะ สาวสวยคนนี้ใช้ได้อยู่ ยังไงดี ละ แบ่งให้พวกเราลองกับสักทีสองที่ไหม? “พอคนทั้งสองฝั่ง มองเห็นจันวิภา ก็มีคนยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา
จันวิภาเดินถอยหลังไม่หยุด มองนักเลงข้างหน้าที่ค่อยๆ เดินเข้ามาหาเธอ ในใจของเธอรู้สึกผิดที่ทำไมตัวเองถึงเข้ามา ในที่แบบนี้ และยังมาคนเดียวอีกด้วย
“น้องสาวเอ๋ย มาเล่นกับพี่สักหน่อยสิ”เสือพูดขึ้น ก็จับข้อ มือของจันวิภาอีกที ใช้แรงดึงเธอเพื่อให้เธอเข้าในอ้อมกอด ของตัวเอง
จันวิภาโซเซเกือบจะล้มลงไปแล้ว แต่การเดินของเธอยัง คงสมดุล เพียงแต่จันวิภาจะสลัดแขนยังไงก็สลัดไม่หลุดออก จากมือของผู้ชายคนนี้สักที “ปล่อย…ปล่อยฉัน..
“ปล่อย? วันนี้ตกมาอยู่ในมือของพวกพี่แล้ว ก็ไม่มีคำว่า ปล่อย เสือยิ้มอย่างชั่วร้าย
อีกด้านหนึ่งที่มุมของบาร์ สุมิตรจ้องอย่างเย็นชาไปยังที่ที่ จันวิภาอยู่ แววตาโหดเหี้ยมมาก