ตอนที่ 65 ช่วยด้วย นราวิชญ์มาแล้ว
เถ้าแก่เนี้ยยิ้มขึ้นมาทันที วางมือบนไหล่ของจันวิภา แล้ว พูดจาออกมาอย่างแปลกประหลาด “โอ้โห ฉันว่าคุณจันวิภา คุณนี่มาถูกทางแล้วจริงๆ คิดออกได้เร็วดีจริงๆ งั้นก็ดีเลย รีบ ไปล้างหน้าแต่งตัวสักหน่อยเถอะ! ”
จันวิภาตกตะลึง งุนงง อ้าปากพูดถาม “อาบน้ำแต่งตัว? เธอหมายความว่า คืนนี้ต้องเริ่มแล้วหรอ?”
“ผู้หญิงที่สวยอย่างคุณจันวิภาเนี่ย แค่แต่งเนื้อแต่งตัวมัน ก็มากพอที่จะทำให้ผู้ชายหลงหัวปักหัวป่าแล้ว” เถ้าแก่เนี้ยพูด แล้วลากจันวิภาเดินออกไป
หลังจากพาจันวิภามาถึงห้องแต่งตัว นางก็ได้เปิดประตู ออกอย่างหยาบคาย ชี้นิ้วไปที่นางระบำที่กำลังแต่งตัวอยู่ทาง ด้านใน “ไปๆๆ พวกแกออกไปให้หมด คุณจันวิภาจะแต่งตัวที่ นี่”
เหล่านางระบำพวกนั้นคุ้นเคยดีกับความได้ใหม่ลืมเก่า ของเถ้าแก่เนี้ย จึงไม่ได้สนใจ บิดก้นแล้วลุกเดินออกไปทีละ คนๆ
“วันนี้ ฉันจะแต่งตัวให้คุณเอง ผู้หญิงทุกคนที่มาที่นี่ใหม่ๆ ฉันจัดการให้เองทั้งนั้นแหละ รับรองเลยว่าพอคุณออกไปข้าง นอกนะ พวกผู้ชายจะต้องหลงคุณหัวปักหัวป่าแน่นอน” ใบหน้า ของเถ้าแก่เนี้ยแฝงไว้ด้วยความตื่นเต้น
จันวิภาพยักหน้าเล็กน้อย ตอนที่ 65 ช่วยด้วย นราวิชญ์มาแล้ว
เถ้าแก่เนี้ยยิ้มขึ้นมาทันที วางมือบนไหล่ของจันวิภา แล้ว พูดจาออกมาอย่างแปลกประหลาด “โอ้โห ฉันว่าคุณจันวิภา คุณนี่มาถูกทางแล้วจริงๆ คิดออกได้เร็วดีจริงๆ งั้นก็ดีเลย รีบ ไปล้างหน้าแต่งตัวสักหน่อยเถอะ! ”
จันวิภาตกตะลึง งุนงง อ้าปากพูดถาม “อาบน้ำแต่งตัว? เธอหมายความว่า คืนนี้ต้องเริ่มแล้วหรอ?”
“ผู้หญิงที่สวยอย่างคุณจันวิภาเนี่ย แค่แต่งเนื้อแต่งตัวมัน ก็มากพอที่จะทำให้ผู้ชายหลงหัวปักหัวป่าแล้ว” เถ้าแก่เนี้ยพูด แล้วลากจันวิภาเดินออกไป
หลังจากพาจันวิภามาถึงห้องแต่งตัว นางก็ได้เปิดประตู ออกอย่างหยาบคาย ชี้นิ้วไปที่นางระบำที่กำลังแต่งตัวอยู่ทาง ด้านใน “ไปๆๆ พวกแกออกไปให้หมด คุณจันวิภาจะแต่งตัวที่ นี่”
เหล่านางระบำพวกนั้นคุ้นเคยดีกับความได้ใหม่ลืมเก่า ของเถ้าแก่เนี้ย จึงไม่ได้สนใจ บิดก้นแล้วลุกเดินออกไปทีละ คนๆ
“วันนี้ ฉันจะแต่งตัวให้คุณเอง ผู้หญิงทุกคนที่มาที่นี่ใหม่ๆ ฉันจัดการให้เองทั้งนั้นแหละ รับรองเลยว่าพอคุณออกไปข้าง นอกนะ พวกผู้ชายจะต้องหลงคุณหัวปักหัวป่าแน่นอน” ใบหน้า ของเถ้าแก่เนี้ยแฝงไว้ด้วยความตื่นเต้น
จันวิภาพยักหน้าเล็กน้อย เมื่อเถ้าแก่เนี้ยเห็นจันวิภาพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ก็ เบาใจลงไม่น้อย ผลักเธอเข้าไปในห้องอาบน้ำ แล้วตนเองคอย กันอยู่ด้านนอก
หลังจากที่จันวิภาเข้าไป ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจาก ล้างตัวให้สะอาดหมดจด จากนั้นจึงถูกบังคับให้ใส่ชุดเจ้าหญิง ของไนท์คลับ
กระโปรงสั้นสีดำ ชุดสีขาวที่เผยสะดือออกมาให้เห็น รองเท้าส้นถูกที่ถูกเหยียบเอาไว้ เล็บที่ถูกเถ้าแก่เนี้ยทาด้วย น้ำยาทาเล็บสีแดงสด น่องขาที่เยียดตรงและข่าวผ่อง ภายใต้ สิ่งที่ทำให้สง่างามขึ้นเช่นนี้ จะยิ่งทำให้ดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้นไป
อีก
เถ้าแก่เนี้ยดูผลงานของตนเองด้วยความพึงพอใจ ภายใน ปากพูดเยินยอออกมาไม่หยุดหย่อน “แต่งหน้าให้คุณหน่อย รับรองได้เลยว่าคืนนี้คุณจะเด่นที่สุดในงาน”
จันวิภาไม่กล้าที่จะมีท่าทีที่ไม่พอใจอะไร เพราะเกรงว่าจะ ถูกจับได้ จึงทำได้เพียงแค่ฝืนยิ้มออกมาอยู่ตลอด
ในที่สุด ก็แต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว!
จันวิภามองดูตนเองในกระจกเงา สาวสวยที่เซ็กซี่และร้อน แรงปรากฏตัวขึ้นมาในกระจก เธอต้องยอมรับจริงๆว่าเทคนิค การแต่งหน้าของเถ้าแก่เนี้ยนั้นเลิศเลอเพอร์เฟคจริงๆ แต่ทว่า ภายในใจของเธอตอนนี้เป็นตั้งม้านับพันที่วิ่งทะยาน ใฉนเลย จะมีเวลาว่างมาชื่นชมความงดงามของใบหน้าตนเอง เมื่อเถ้าแก่เนี้ยเห็นจันวิภาพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ก็ เบาใจลงไม่น้อย ผลักเธอเข้าไปในห้องอาบน้ำ แล้วตนเองคอย กันอยู่ด้านนอก
หลังจากที่จันวิภาเข้าไป ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจาก ล้างตัวให้สะอาดหมดจด จากนั้นจึงถูกบังคับให้ใส่ชุดเจ้าหญิง ของไนท์คลับ
กระโปรงสั้นสีดำ ชุดสีขาวที่เผยสะดือออกมาให้เห็น รองเท้าส้นถูกที่ถูกเหยียบเอาไว้ เล็บที่ถูกเถ้าแก่เนี้ยทาด้วย น้ำยาทาเล็บสีแดงสด น่องขาที่เยียดตรงและข่าวผ่อง ภายใต้ สิ่งที่ทำให้สง่างามขึ้นเช่นนี้ จะยิ่งทำให้ดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้นไป
อีก
เถ้าแก่เนี้ยดูผลงานของตนเองด้วยความพึงพอใจ ภายใน ปากพูดเยินยอออกมาไม่หยุดหย่อน “แต่งหน้าให้คุณหน่อย รับรองได้เลยว่าคืนนี้คุณจะเด่นที่สุดในงาน”
จันวิภาไม่กล้าที่จะมีท่าทีที่ไม่พอใจอะไร เพราะเกรงว่าจะ ถูกจับได้ จึงทำได้เพียงแค่ฝืนยิ้มออกมาอยู่ตลอด
ในที่สุด ก็แต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว!
จันวิภามองดูตนเองในกระจกเงา สาวสวยที่เซ็กซี่และร้อน แรงปรากฏตัวขึ้นมาในกระจก เธอต้องยอมรับจริงๆว่าเทคนิค การแต่งหน้าของเถ้าแก่เนี้ยนั้นเลิศเลอเพอร์เฟคจริงๆ แต่ทว่า ภายในใจของเธอตอนนี้เป็นตั้งม้านับพันที่วิ่งทะยาน ใฉนเลย จะมีเวลาว่างมาชื่นชมความงดงามของใบหน้าตนเอง เมื่อคิดว่าถ้าออกไปข้างนอกจะต้องกลายเป็นเจ้าหญิง จัน วิภาก็เครียดเสียจนร่างกายสั่นเทาอยู่เล็กน้อย
เถ้าแก่เนี้ยเห็นได้อย่างชัดเจน นางก้มหน้าลงไปแล้วพูดว่า “เป็นอะไรไป คุณจันวิภา? ไม่พอใจงั้นหรอ?”
จันวิภาฝืนยิ้มออกมา “ต้องมายืนอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย
ก็เลยตื่นเต้นนิดหน่อย….” พูดถึงตรงนี้ ตอนที่เธอหันสายตา
กลับมา ทันใดนั้นก็ได้เหลือบไปเห็น โทรศัพท์ของเถ้าแก่เนี้ย กำลังวางเอาไว้อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง
ดังนั้น ไม่รอนางพูด จันวิภาจึงรีบพูดขึ้นมาทันที “ฉันตื่น เต้นนิดหน่อย เธอเอาไวน์แดงมาให้ฉันจีบหน่อยได้ไหม ฉัน อยากที่จะระงับความตื่นเต้นเอาไว้ ไม่งั้น ถ้าทำออกมาไม่ดีล่ะ ก็..”
เถ้าแก่เนี้ยลังเลอยู่เล็กน้อย แล้วพูดขึ้น “คุณรอสักเตี๋ยว” ต่อมา เถ้าแก่เนี้ยหยิบกุญแจแล้วเดินออกไป ก่อนที่จะเดิน
ออกไปจึงหันมาล็อคประตูอย่างไม่คาดคิด
จันวิภาถึงกับพูดไม่ออก หยิบโทรศัพท์ของเถ้าแก่เนี้ยขึ้น มาแล้วมองไปที่ประตู แม้ว่าประตูจะถูกล็อคอยู่ แต่ทว่าประตู บานนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากกระจกที่พิมพ์ลาย
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จันวิภาจึงรีบยกเก้าอี้ขึ้นมาแล้ทุบออกไป อย่างรุนแรง ประตูกระจกพิมพ์ลายแตกออก จันวิภาจึงรีบมุด เข้าไปข้างในทันที
เถ้าแก่เนี้ยใต้ยินเสียงเข้า จึงหันหน้ากลับมา เมื่อคิดว่าถ้าออกไปข้างนอกจะต้องกลายเป็นเจ้าหญิง จัน วิภาก็เครียดเสียจนร่างกายสั่นเทาอยู่เล็กน้อย
เถ้าแก่เนี้ยเห็นได้อย่างชัดเจน นางก้มหน้าลงไปแล้วพูดว่า “เป็นอะไรไป คุณจันวิภา? ไม่พอใจงั้นหรอ?”
จันวิภาฝืนยิ้มออกมา “ต้องมายืนอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย
ก็เลยตื่นเต้นนิดหน่อย….” พูดถึงตรงนี้ ตอนที่เธอหันสายตา
กลับมา ทันใดนั้นก็ได้เหลือบไปเห็น โทรศัพท์ของเถ้าแก่เนี้ย กำลังวางเอาไว้อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง
ดังนั้น ไม่รอนางพูด จันวิภาจึงรีบพูดขึ้นมาทันที “ฉันตื่น เต้นนิดหน่อย เธอเอาไวน์แดงมาให้ฉันจีบหน่อยได้ไหม ฉัน อยากที่จะระงับความตื่นเต้นเอาไว้ ไม่งั้น ถ้าทำออกมาไม่ดีล่ะ ก็..”
เถ้าแก่เนี้ยลังเลอยู่เล็กน้อย แล้วพูดขึ้น “คุณรอสักเตี๋ยว” ต่อมา เถ้าแก่เนี้ยหยิบกุญแจแล้วเดินออกไป ก่อนที่จะเดิน
ออกไปจึงหันมาล็อคประตูอย่างไม่คาดคิด
จันวิภาถึงกับพูดไม่ออก หยิบโทรศัพท์ของเถ้าแก่เนี้ยขึ้น มาแล้วมองไปที่ประตู แม้ว่าประตูจะถูกล็อคอยู่ แต่ทว่าประตู บานนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากกระจกที่พิมพ์ลาย
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จันวิภาจึงรีบยกเก้าอี้ขึ้นมาแล้ทุบออกไป อย่างรุนแรง ประตูกระจกพิมพ์ลายแตกออก จันวิภาจึงรีบมุด เข้าไปข้างในทันที
เถ้าแก่เนี้ยใต้ยินเสียงเข้า จึงหันหน้ากลับมา จันวิภาตกใจอยู่เล็กน้อย ไม่มีทางเลือกจึงต้องหันหลัง
กลับแล้ววิ่งไปอีกด้านหนึ่ง ปลายทางนั้นเป็นห้องน้ำสาธารณะ แห่งหนึ่ง
จันวิภารีบวิ่งเข้าไปในนั้นทันที ล็อคประตู เธอหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมา อยากจะโทรศัพท์ แต่กลับที่ออยู่พักหนึ่ง เพราะ ไม่รู้ว่าจะโทรหาใครดี
ท้ายที่สุด หลังจากที่ครุ่นคิดออกมา จันวิภาคิตว่า บางที อาจจะมีแค่นราวิชญ์เท่านั้นที่ช่วยเธอได้
ทางด้านนอกมีเสียงฝีเท้าและเสียงด่าทอของเถ้าแก่เนี้ย ดังขึ้นมา ภายใต้ความรู้สึกที่กดดันและกระวนกระวายใจ จัน
วิภาเลยโทรออกไปเสียหลายครั้ง
“ฮัลโหล สวัสดีครับ”
เมื่อเธอใกล้ที่จะหมดหวัง ในที่สุดเสียงของนราวิชญ์ที่เต็ม
ไปด้วยความดึงดูดก็ได้ดังขึ้นมา
“พี่นราวิชญ์ ฉันอยู่ที่…”
ปั้ง!
จันวิภายังไม่ทันที่จะได้พูดจบ ประตูห้องน้ำก็ถูกคนถีบจน เปิดออก มือที่แข็งแรงคู่หนึ่งยื่นเข้ามา แย่งโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ
จันวิภาออกไป
จันวิภาพิงกำแพงด้วยความสิ้นหวัง จันวิภาตกใจอยู่เล็กน้อย ไม่มีทางเลือกจึงต้องหันหลัง
กลับแล้ววิ่งไปอีกด้านหนึ่ง ปลายทางนั้นเป็นห้องน้ำสาธารณะ แห่งหนึ่ง
จันวิภารีบวิ่งเข้าไปในนั้นทันที ล็อคประตู เธอหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมา อยากจะโทรศัพท์ แต่กลับที่ออยู่พักหนึ่ง เพราะ ไม่รู้ว่าจะโทรหาใครดี
ท้ายที่สุด หลังจากที่ครุ่นคิดออกมา จันวิภาคิตว่า บางที อาจจะมีแค่นราวิชญ์เท่านั้นที่ช่วยเธอได้
ทางด้านนอกมีเสียงฝีเท้าและเสียงด่าทอของเถ้าแก่เนี้ย ดังขึ้นมา ภายใต้ความรู้สึกที่กดดันและกระวนกระวายใจ จัน
วิภาเลยโทรออกไปเสียหลายครั้ง
“ฮัลโหล สวัสดีครับ”
เมื่อเธอใกล้ที่จะหมดหวัง ในที่สุดเสียงของนราวิชญ์ที่เต็ม
ไปด้วยความดึงดูดก็ได้ดังขึ้นมา
“พี่นราวิชญ์ ฉันอยู่ที่…”
ปั้ง!
จันวิภายังไม่ทันที่จะได้พูดจบ ประตูห้องน้ำก็ถูกคนถีบจน เปิดออก มือที่แข็งแรงคู่หนึ่งยื่นเข้ามา แย่งโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ
จันวิภาออกไป
จันวิภาพิงกำแพงด้วยความสิ้นหวัง เถ้าแก่เนี้ยหยิบโทรศัพท์มือถือ สายตาเย็นเฉียบที่ราวกับ
น้ำแข็งคู่นั้นกำลังจ้องมองจันวิภาอยู่ “ยายแก่นี่ฉันไปรังแกเธอ หรือไง? คุณจันวิภา ครั้งนี้เป็นแกเองนะที่รนหาที่ตาย”
พูดจบ จึงได้ตบหน้าไปครั้งหนึ่ง
เสียงตบดังสนั่นฟังชัดแจ๋ว บนใบหน้าของจันวิภาถูก ประจบไว้ด้วยนิ้วทั้งห้า เจ็บปวดแสบๆร้อนๆ ยังไม่พอ เถ้าแก่เนี้ยยังใช้ให้คนไปปิดปากของจันวิภา
แล้วมัดเธอเอาไว้ จากนั้นจึงเริ่มที่จะกระฉากผมของเธอ เตะไป
ที่ท้องน้อยและน่องขาของเธอ
ดวงตาของจันวิภาถูกน้ำตาปกคลุมอยู่ เจ็บปวดเสียจน
หน้ามืดตาลาย
“ที่นี่ ไม่มีใครมีคุณสมบัติที่จะพูดหยอกล้อกับฉัน แกมันก็ เป็นแค่สิ่งเล็กๆ ที่ไม่รู้ฟ้าสูงดินต่ำ! ” เถ้าแก่เนี้ยส่งเสียงด่า อย่างไม่พอใจ พร้อมกับใช้ขาเตะเธอไปด้วย
จันวิภาเจ็บปวดเสียจนไม่มีแรงที่จะดิ้นรน
“นางเด็กเหลือขอนี่ แกเป็นคนของเจ้านายสุมิตร แกรู้มั้ย ว่าถ้าแกหนีออกไป ฉันก็จะตายแน่ๆเลย”
ภายในสมองของจันวิภาได้ปรากฏภาพรอยยิ้มอันแสนจะ เยือกเย็นและโหดร้ายของสุมิตรขึ้นมาทันที เธอในตอนนี้ อยากที่จะสับเขาออกเป็นพันๆชิ้น
ความเกลียดชังได้เอ่อล้นขึ้นมาแล้ว ในใจของจันวิภานั้น เถ้าแก่เนี้ยหยิบโทรศัพท์มือถือ สายตาเย็นเฉียบที่ราวกับ
น้ำแข็งคู่นั้นกำลังจ้องมองจันวิภาอยู่ “ยายแก่นี่ฉันไปรังแกเธอ หรือไง? คุณจันวิภา ครั้งนี้เป็นแกเองนะที่รนหาที่ตาย”
พูดจบ จึงได้ตบหน้าไปครั้งหนึ่ง
เสียงตบดังสนั่นฟังชัดแจ๋ว บนใบหน้าของจันวิภาถูก ประจบไว้ด้วยนิ้วทั้งห้า เจ็บปวดแสบๆร้อนๆ ยังไม่พอ เถ้าแก่เนี้ยยังใช้ให้คนไปปิดปากของจันวิภา
แล้วมัดเธอเอาไว้ จากนั้นจึงเริ่มที่จะกระฉากผมของเธอ เตะไป
ที่ท้องน้อยและน่องขาของเธอ
ดวงตาของจันวิภาถูกน้ำตาปกคลุมอยู่ เจ็บปวดเสียจน
หน้ามืดตาลาย
“ที่นี่ ไม่มีใครมีคุณสมบัติที่จะพูดหยอกล้อกับฉัน แกมันก็ เป็นแค่สิ่งเล็กๆ ที่ไม่รู้ฟ้าสูงดินต่ำ! ” เถ้าแก่เนี้ยส่งเสียงด่า อย่างไม่พอใจ พร้อมกับใช้ขาเตะเธอไปด้วย
จันวิภาเจ็บปวดเสียจนไม่มีแรงที่จะดิ้นรน
“นางเด็กเหลือขอนี่ แกเป็นคนของเจ้านายสุมิตร แกรู้มั้ย ว่าถ้าแกหนีออกไป ฉันก็จะตายแน่ๆเลย”
ภายในสมองของจันวิภาได้ปรากฏภาพรอยยิ้มอันแสนจะ เยือกเย็นและโหดร้ายของสุมิตรขึ้นมาทันที เธอในตอนนี้ อยากที่จะสับเขาออกเป็นพันๆชิ้น
ความเกลียดชังได้เอ่อล้นขึ้นมาแล้ว ในใจของจันวิภานั้น เศร้าโศก สุมิตร ฉันจะไม่ปล่อยนายไว้แน่ ไม่ปล่อยนายไว้เด็ด ขาด! ฉันจะต้องล้างแค้นแน่นอน! มันต้องมีสักวันหนึ่ง!
เถ้าแก่เนี้ยตบตีอยู่นาน เหมือนกับจะเหนื่อยแล้ว ในที่สุด ก็ได้หยุดลง นางมองรอยซ้ำสีเขียวกับม่วงนั่นของจันวิถา แม้แต่บางที่ของน่องก็ยังมีเลือดไหลออกมา
เถ้าแก่เนี้ยถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แล้วพูดเบาๆ “คุณจันวิภา ฉันก็ไม่อยากที่จะสร้างปัญหาให้ไม่พอใจขนาดนี้ คุณจะทำไงได้อีกล่ะ? เจ้านายสุมิตรส่งคุณมาที่นี่ คุณก็ยอมทำ ตามไปเถอะ! ”
จันวิภาพูดครวญครางออกมา “หัวใจแกมันตายด้านไป
แล้วสินะ! ”
เถ้าแก่เนี้ยพูดออกมาอยู่หลายค่า แต่จันวิภาก็พูดประโยค นี้ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตลอด นางจึงโกรธขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว และ อยากที่จะสั่งสอนบทเรียนให้อีกสักครั้ง
ณ ตอนนี้ ที่ประตูจู่ๆก็มีเสียงดังสนั่นลอยเข้ามา เถ้าแก่ เนี้ยยังไม่ทันที่จะมีท่าทีตอบสนอง ร่างกายที่มีแต่ไขมันอ้วนๆ ก็ได้บินออกไปเสียแล้ว
ผู้คนทั้งหมดต่างตกตะลึง แล้วจ้องมองไปทันที ที่เข้าประตู มาคือชายที่สวมใส่ชุดสูทและรองเท้าหนังสีดำ เป็นนราวิชญ์ นั่นเอง
“พี่นราวิชญ์..” เมื่อจันวิภาเห็นคนที่เดินเข้ามาเป็นนรา วิชญ์ จึงได้ผ่อนคลายลงทันที เศร้าโศก สุมิตร ฉันจะไม่ปล่อยนายไว้แน่ ไม่ปล่อยนายไว้เด็ด ขาด! ฉันจะต้องล้างแค้นแน่นอน! มันต้องมีสักวันหนึ่ง!
เถ้าแก่เนี้ยตบตีอยู่นาน เหมือนกับจะเหนื่อยแล้ว ในที่สุด ก็ได้หยุดลง นางมองรอยซ้ำสีเขียวกับม่วงนั่นของจันวิถา แม้แต่บางที่ของน่องก็ยังมีเลือดไหลออกมา
เถ้าแก่เนี้ยถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แล้วพูดเบาๆ “คุณจันวิภา ฉันก็ไม่อยากที่จะสร้างปัญหาให้ไม่พอใจขนาดนี้ คุณจะทำไงได้อีกล่ะ? เจ้านายสุมิตรส่งคุณมาที่นี่ คุณก็ยอมทำ ตามไปเถอะ! ”
จันวิภาพูดครวญครางออกมา “หัวใจแกมันตายด้านไป
แล้วสินะ! ”
เถ้าแก่เนี้ยพูดออกมาอยู่หลายค่า แต่จันวิภาก็พูดประโยค นี้ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตลอด นางจึงโกรธขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว และ อยากที่จะสั่งสอนบทเรียนให้อีกสักครั้ง
ณ ตอนนี้ ที่ประตูจู่ๆก็มีเสียงดังสนั่นลอยเข้ามา เถ้าแก่ เนี้ยยังไม่ทันที่จะมีท่าทีตอบสนอง ร่างกายที่มีแต่ไขมันอ้วนๆ ก็ได้บินออกไปเสียแล้ว
ผู้คนทั้งหมดต่างตกตะลึง แล้วจ้องมองไปทันที ที่เข้าประตู มาคือชายที่สวมใส่ชุดสูทและรองเท้าหนังสีดำ เป็นนราวิชญ์ นั่นเอง
“พี่นราวิชญ์..” เมื่อจันวิภาเห็นคนที่เดินเข้ามาเป็นนรา วิชญ์ จึงได้ผ่อนคลายลงทันที นราวิชญ์เดินมาข้างหน้า แก้มัดให้จันวิภา มองดูรอย ฟกช้ำของเธอด้วยใจที่เจ็บปวด กอดเธอเอาไว้จนแน่น แล้วพูด ขึ้นอย่างอบอุ่นว่า “ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วนะ ให้ผมจัดการที่นี่เอง เธอพักสักหน่อยเถอะ”
นราวิชญ์พูดจบ ก็ได้เคลื่อนที่ไปยังเถ้าแก่เนี้ยที่นอนร้อง อวตครวญอยู่บนพื้นอย่างช้าๆ เท้าเหยียบย่ำไปบนแขนที่เต็ม ไปด้วยไขมันของเธอ
“กล้าจริงๆ กล้าลงมือกับคนของผม! ” น้ำเสียงของนรา วิชญ์เปี่ยมไปด้วยความเหน็บหนาวจนเสียดแทงกระดูก
“ประธานนราวิชญ์ นี่…นี่มันไม่ใช่ความตั้งใจของฉัน นะ..” เถ้าแก่เนี้ยเจ็บปวดเสียจนใบหน้าเปลี่ยนสี “ทั้งหมด เป็น เป็นเจ้านายสุมิตรสั่งให้ฉันทำ….*
นราวิชญ์ได้ยินชื่อนั้น ก็ได้ตกตะลึงทันที หันหน้ากลับมา
มองจันวิภา นราวิชญ์เดินมาข้างหน้า แก้มัดให้จันวิภา มองดูรอย ฟกช้ำของเธอด้วยใจที่เจ็บปวด กอดเธอเอาไว้จนแน่น แล้วพูด ขึ้นอย่างอบอุ่นว่า “ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วนะ ให้ผมจัดการที่นี่เอง เธอพักสักหน่อยเถอะ”
นราวิชญ์พูดจบ ก็ได้เคลื่อนที่ไปยังเถ้าแก่เนี้ยที่นอนร้อง อวตครวญอยู่บนพื้นอย่างช้าๆ เท้าเหยียบย่ำไปบนแขนที่เต็ม ไปด้วยไขมันของเธอ
“กล้าจริงๆ กล้าลงมือกับคนของผม! ” น้ำเสียงของนรา วิชญ์เปี่ยมไปด้วยความเหน็บหนาวจนเสียดแทงกระดูก
“ประธานนราวิชญ์ นี่…นี่มันไม่ใช่ความตั้งใจของฉัน นะ..” เถ้าแก่เนี้ยเจ็บปวดเสียจนใบหน้าเปลี่ยนสี “ทั้งหมด เป็น เป็นเจ้านายสุมิตรสั่งให้ฉันทำ….*
นราวิชญ์ได้ยินชื่อนั้น ก็ได้ตกตะลึงทันที หันหน้ากลับมา
มองจันวิภา