ตอนที่ 93 การดูถูกของเขา และ การปกป้องของเขา
จันวิภาปล่อยให้ตัวเองผ่อนคลายลง แล้วหวนนึกถึงความ อบอุ่นนั้น
แต่ในตอนนี้นี้ ตรงทางเดินมีเสียงเดินหนักแน่นดังลอยมา
จันวิภาคุ้นเคยกับจังหวะและเสียงนั้นเป็นอย่างดี นั่นคือ เสียงฝีเท้าของสุมิตร
จันวิภากลัวสุดขีด สักพักรีบผลักนราวิชญ์ออก จัดการผม ที่ยุ่งของเธอสักเล็กน้อย จึงเห็นสุมิตรเดินอย่างช้าๆเข้ามา พร้อมกับมือที่ไขว่หลังเอาไว้อยู่
นัยน์ตาของเขาราวกับใบมีด เดินอย่างเชื่องช้าสุดๆ แต่ ทุกย่างก้าว ราวกับใบมีดที่ทิ่มแทงเข้ามาในใจของจันวิภา
สุมิตรยื่นมือที่ไขว่หลังไว้ออกมา เดินไปพร้อมพร้อมกับ ตบมือ จากนั้นจึงแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยันอย่างถึงที่สุด แล้วจึง จะพูดขึ้น: จัก มันน่าชาบซึ้งจริงๆ ไม่รู้ว่านี้เป็นความรักอันลึก ซึ่งของพี่น้องหรืออย่างอื่นกันนะ?”
จันวิภารู้ว่าสุมิตรเข้าใจผิดเข้าอีกแล้ว แต่ทว่าครั้งนี้เธอไม่ อยากจะอธิบายจริงๆ เลยปิดปากไม่พูดอะไร
นราวิชญ์จัดเสื้อของตัวเอง หน้าตูไม่รู้ร้อนรู้หนาว ความ สัมพันธ์ระหว่างเขาและจันวิภาทุกคนต่างก็รู้กันดีอยู่แล้ว ไม่ จำเป็นที่จะต้องหลบสายตาแม้แต่นิดเดียว แต่เพื่อจันวิภาแล้ว เข้ากลับพูดตอบกลับสุมิตรไปว่า: “อะไร? แค่กอดนิดหน่อยถึง กับทำให้นายน้อยสุมิตรคิดมากหรือไงกัน? ความคิดของนาย น้อยสุมิตรนี้สกปรกไปถึงระดับไหนกันแล้วเนี่ยว?
รัศมีของนราวิชญ์ไม่แพ้สุมิตรเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อเทียบ กับสุมิตรแล้วเขาสุขุมกว่า
สุมิตรไม่มองนราวิชญ์แต่กลับมองจันวิภา: “นี้ลูกของนรา วิชญ์ใช่ไหม? ดูเหมือนเขาดีใจมากเลยนะ ไม่กี่วันมานี้ดูแลจะ วิ่งวุ่นไปมาที่โรงพยาบาลน่าดู”
จันวิภาเงยหน้าขึ้น มองสุมิตรอย่างเฉยเมยแล้วเอ่ยปาก พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา: “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่นราวิชญ์ นายอย่า พูดมั่วไปหน่อยเลย”
สุมิตรยังคงพูดต่อไป: 4″น่าขำ เชื้อของชายชู้ที่ไม่มีใคร ต้องการ?” พูดจบจึงได้มองไปยังนราวิชญ์อย่างที่มแทง
นราวิชญ์เดินเข้ามาหนึ่งก้าว พูดอย่างเรียบๆ: “นายน้อยสุ มิตรก็ถือว่าเป็นคนที่ผ่านโลกมีประสบการณ์มาแล้ว ทำไมช่าง เหมือนเด็กน้อยที่โง่เง่า? ฉันนราวิชญ์คนนี้ตามจีบจันวิภาอย่าง ชื่อสัตย์และบริสุทธิ์ใจ ไม่สนคำพูดใส่ร้ายของพวกนายหรอก แต่ฉันไม่เคยทำเรื่องที่ไม่สมควรกับจันวิภา แล้วมันจะเป็นลูก ของฉันไปได้ยังไง”
สุมิตรเดินขึ้นมาหนึ่งก้าวทั้งสองจ้องกันและกัน ไม่ยอม ถอยให้กันสักก้าว
“หรือแท้จริงแล้วคุณนราวิชญ์ไม่ใช่พวกกล้าทำกล้ารับ ขี้ ขลาด? เสพสุขกับนางสารเลวนี้ ทำไมไม่ระวังหน่อย ตอนนี้เกิด ท้องขึ้นมาแล้วทำไมไม่ยอมรับ? ปากพูดว่าตัวเองนั้นชื่อสัตย์ บริสุทธิ์ มันน่าผิดหวังจริงๆ ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า? นั้นลูกของ แกเลยนะ!” สุมิตรพูด แล้วชี้ไปที่ท้องของจันวิภา
“ฉันจะไม่พูดกับนายแล้ว!” นราวิชญ์หมดคำพูด สุมิตร สงสัยจนเหมือนหลุดออกไปอีกโลกแล้ว คงไร้หนทางที่จะคุย อย่างปกติแล้ว
สุมิตรก็โกรธเช่นกัน แต่ยังไม่ยอมหยุดแล้วพูดกับจันวิภา ต่อ: “ฉันไม่น่าใจอ่อน น่าจะเอาไอ้เดรัจฉานนั้นออกตั้งนาน แล้ว”
นราวิชญ์ยิ้มแห้ง: “นายน้อยสุมิตร เรื่องนี้ได้มีคนคิดที่จะ ทำแทนนายแล้ว แต่นางบ้านั้นตอนนี้สภาพน่าจะไม่ค่อยดีนะ”
สุมิตรลังเลเล็กน้อย รู้เลยว่าที่นราวิชญ์พูดคือนวาระ เขา เลยพูดเสียงดังขึ้น: “แกทำอะไรเธอ?”
นราวิชญ์จู่โจมกลับพูด: “นายควรถามว่าเธอทำอะไรจัน วิภามากกว่านะ จันวิภาเป็นภรรยาของคุณนะไอ้ชาติชั่ว”
สุมิตรพาลโกรธนราวิชญ์ แล้วพูดอย่างไม่สนใจใยดีขึ้น “อะไร? ตอนนี้รู้แล้วเหรอว่าจันวิภาคือเมียของฉัน? วันวันแก เอาแต่อยู่กับภรรยาของฉัน มีเจตนาจะทำอะไรงั้นเหรอ?”
นราวิชญ์ถอดหายใจ: “คุณสุมิตรครับ ผมว่าคุณควรไปดู ชู้รักของคุณน่าจะดีกว่านะ”
สุมิตรหันมองที่ปากทางลงบันไดขมวดคิ้วพูด: “พวกแก ภาวนาให้นวาระไม่เป็นอะไรจะดีกว่า ไม่งั้นล่ะก็ เจอดีทั้งคู่แน่”
สุมิตรจ้องไปที่ทั้งคู่หนึ่งที แล้วเดินจากไป
หลังจากสุมิตรจากไปแล้ว นราวิชญ์จึงได้จับมือจันวิภาเอา ไว้ จากนั้นจึงพาเธอเดินออกไปโดยที่ไม่พูดอะไร คิดแต่จะพา เธอออกจากสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมือนมนุษย์นี้
“จันวิภา ฉันไม่ให้เธออยู่อย่างงี้ต่อไปแล้ว สุมิตรกับ นวาระเป็นไอ้ชาติชั่วทั้งคู่ อย่าแกล้งโง่อีกเลย ไปกับฉันเถอะ!”
“พี่นราวิชญ์ปล่อยฉัน…
จันวิภาสะบัดมือของนราวิชญ์ทิ้ง แล้วก็หันกายเข้าห้องพัก ไป: “พี่นราวิชญ์ไปไปเถอะ ไม่ต้องสนฉัน ให้ฉันรับผิดชอบเองก็ โอเคแล้ว ขอร้องเถอะ พวกคุณอย่าบังคับฉันอีกเลย!” จันวิภา พูดทั้งน้ำตา
เธอก็อยากจะไป แต่พ่อของเธอล่ะจะทำยังไง….เธอไปไม่ ได้ มันไปไม่ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว….
นราวิชญ์ มองเงาของจันวิภาที่อ่อนแรงและอ้างว้าง ใจก็ เกิดเจ็บขึ้น เขาไม่เข้าใจทำไมเธอถึงไม่ยอมออกมาสักที
แต่เขาไม่ควรที่จะยอมแพ้แบบนี้แน่นอน
นวาระสลบไปที่ระหว่างบันได แล้วยังเจ็บหนักอีก สุมิตร อุ้มเธอขึ้นมาเธอถึงจะตื่นขึ้น
นวาระอยู่ในอ้อมอกของสุมิตรร้องไห้อยู่ เพราะว่าตื่นเต็ม ที่แล้วทำให้ความเจ็บที่โดนก่อนหน้ากลับขึ้นมา มือทั้งสองของ เธอกำเข้าที่ไหล่ของสุมิตร หัวอยู่ที่หน้าอกของสุมิตร น้ำตาไหล จนทำให้เสื้อของสุมิตรเปียกชุ่มไปหมด
“นี่มันครั้งที่สองแล้วนะ สุมิตรคุณยอมให้ฉันโดนตบได้เห รอ จันวิภานางเลวนั่นเป็นคนทำทั้งหมด! ฉันจะฆ่ามัน!”
นวาระกำลังพูด แล้วก็ผลักสุมิตรออกไป ไม่รู้ว่าเอาแรง จากไหน แล้วก็พุ่งไปทางห้องพักคนไข้
วิ่งไปถึงห้องพักของจันวิภา นวาระไม่รอให้จันวิภาเปิด ปาก ก็อยากจะตบจันวิภาสักฉาดหนึ่ง
จันวิภาตกใจมาก คิดว่าเธออยากจะทำร้ายลูกของตนเอง อีกแล้ว จังหวะนั้นจึงได้ผลักออกไป แล้วตะโกนพูดขึ้น: “เธอ อย่าเข้ามา!”
นวาระเจ็บตัวเยอะอยู่แล้ว แค่ผลักก็ทำให้เธอลงไปกับพื้น แล้ว ประจวบเหมาะกับจังหวะที่สุมิตรรีบเข้ามาเห็นเหตุการณ์ จันวิภาผลักนวาระล้มลงกับพื้นพอดี
“จันวิภา เธอทำอะไร?!” สุมิตรตะโกนออกมาด้วยความ
นวาระเห็นสุมิตรเข้ามา สักพักก็ร้องไห้ออกมา: “สุมิตร
โกรธคุณดู เธอทำฉันอีกแล้ว…”
หลังจากสุมิตรพยุงนวาระขึ้นมาปลอบแล้ว จึงยิ้มออกมา อย่างเย็นชาพร้อมพูดกับจันวิภา: “จันวิภา นางแพศยา ไม่รู้ว่า ตัวเองเป็นใครหรือไง?”
จันวิภาสั่นเทา เธอไม่รู้จะพูดยังไงต่อไป อีกทั้งสุมิตรก็เข้า ข้างนวาระอีก ไม่สนว่าเธอจะทำอะไร พูดไปก็ผิดไปหมด!
“เธอไม่อธิบายล่ะ ตอนนี้แค่จะหาเหตุผลมาอ้างก็ยังไม่มี แล้วเหรอ?” สุมิตรยิ้มอย่างอาฆาต พูดจบก็โทรศัพท์เรียกบอดี้ การ์ดขึ้นมา: “จันวิภาวันนี้ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่!”
จันวิภากุมท้องแล้วพูดอย่างหวาดกลัว: “สุมิตรคุณจะทำ
อะไร คุณ.
“ฉันจะทำอะไร? เกรงว่าเธอน่าจะรู้ดีกว่าฉันนะ ฮ่าๆ ฉันจะ
ให้เมียของฉันคลอดไอ้ลูกเตรัจฉานของนราวิชญ์ออกมาหรือ ไง?”