ตอนที่ 101 พบความผิดปกติของเธอ
เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าของธนภาคจึงอึ้งตะลึงไปชั่วขณะ เขาจ้องมองสุมิตรอย่างโมโห ถีบตัวพุ่งทะยานขึ้นมา แล้วเอ่ย ถาม “มันเกิดอะไรขึ้น?”
ทางด้านของจันวิภาเองก็นั่งอยู่ไม่สุข ร่างกายของเธอแม้ จะยังคงอ่อนแอเป็นอย่างมาก คำพูดที่พูดออกมาก็จะอ่อนไว้ เรี่ยวแรง แต่เธอก็ยังจ้องมองสุมิตรด้วยความโมโห แล้วพูด ตะคอกออกไป “สุมิตร นายหมายความว่าไง ทางที่ดีนายรีบ อธิบายออกมาให้ชัดเจนดีกว่า! ”
“อธิบาย ยังจะมีอะไรให้ต้องอธิบายอีก! บาดแผลบน ร่างกายฉันก็คือหลักฐานชั้นดีแล้วนี่ไง! ”
สุมิตรยกมือซ้ายขึ้นมา เดินไปทางด้านหน้าของจันวิภา บังคับให้เธอมองมันให้ชัดเจน “เธอดูซะ นี่เป็นสิ่งที่ชู้ของเธอมี ส่วนเกี่ยวข้อง เป็นหลักฐานการฆ่าสามีเธอไงล่ะ! เธอมันนาง แพศยา แต่งงานเข้ามานานแค่ไหนแล้วยังกระเสือกกระสน อยากอยู่ด้วยกันกับชู้รักของเธออีก สงสัยฉันจะไปขัดหูขัดตา เข้า จึงแทบรอไม่ไหวที่จะสุมหัวกับชู้เธอเพื่อฆ่าฉันปิดปาก?”
“จันวิภา ทำไมฉันถึงไม่คิดมาก่อนเลยนะว่าเธอจะจิตใจ โหดเหี้ยมได้เช่นนี้! แม้แต่สามีตัวเองก็ยังกล้าลงมือ! ”
เลือดที่อยู่บนมือข้างซ้ายของสุมิตรแข็งตัวแล้ว แต่สีสัน ของรอยเลือดและบาดแผลยังคงทำให้ตกตะลึงอยู่ จันวิภาผลัก มือของเขาออกไป แล้วตะโกนพูดออกมาอย่างโมโห “ฉันไม่รู้ ว่านายพูดเรื่องอะไร! อะไรคือสุมหัวกันกับชู้! อะไรคือฆ่าสามี ตัวเอง! สุมิตรสมองนายไม่ได้ป่วยใช่มั้ย”
ปากก็พูดออกไปอย่างนี้ แต่ขมับของจันวิภาก็เต้นอยู่ไม่ หยุด ลางสังหรณ์ได้บอกกับเธอว่านี่มันจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้น แน่
แต่ทว่าสิ่งที่สุมิตรพูดออกมานั้น เธอไม่เคยทำมันเลย!
“ว่ะฮ่าๆๆ..”
เมื่อได้ยินดังนั้น สุมิตรจึงหัวเราะออกมาดังๆ เขาหัวเราะ อย่างบ้าคลั่ง หัวเราะอย่างน่าหวดหลัว หัวเราะเสียจนทำให้ ผู้คนสั่นเทา เขาใช้มือซ้ายที่เปื้อนเลือดสะบัดไปที่จันวิภาอย่าง แรงหนึ่งที่ หัวเราะเยาะออกมาแล้วพูดขึ้น “จันวิภา มาจนถึงขั้น นี้แล้ว ยังไม่เลิกเสแสร้งอีกหรอ ทุกครั้งที่ฉันเห็นเธอทำท่าทีเส แสร้งออกมา ฉันแทบอยากจะอ้วก! ”
พูดจบ ไม่แม้แต่จะให้โอกาสจันวิภาได้อธิบาย แล้วพูดกับ ธนภาคที่ยืนอยู่หน้าประตู “ไป ไปขุดหาไอ้ซุ้นราวิชญ์ออกมาให้ ฉัน! คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าหาคนมาฆ่าฉัน! วันนี้ฉันจะให้มันรู้ ว่าพ่อคนนี้ไม่ใช่คนที่จะตอแยได้! ”
เมื่อได้ฟังเช่นนี้ ธนภาคจึงตระหนักได้ทันที ที่แท้เมื่อคืนคน ที่ส่งมือสังหารมาก็คือนราวิชญ์? ไม่เพียงแค่นั้น วันนี้เขายังจะส่งมือสังหารไปสร้างความวุ่นวายให้สุมิตรอีก?
เมื่อคิดเช่นนี้ ก็ดูเหมือนว่าจะมีความเป็นไปได้อยู่ เพื่อจัน วิภาแล้วนราวิชญ์จึงได้หยั่งเชิงกับสุมิตรไป ดังนั้นจึงเล่นใช้การ คุกคามเช่นนี้กับสุมิตรก็เป็นได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ธนภาคส่ายศีรษะ หวังว่าเรื่องจะไม่ได้ เป็นไปอย่างที่เขาคิด ถ้าความจริงเป็นอย่างนั้นล่ะก็ นราวิชญ์ก็ คงจะไปกระตุกหนวดของสุมิตรเข้าเสียแล้ว สุมิตรก็ไม่ใช่คนที่ จะโดนรังแกได้ง่ายดายขนาดนั้น
ธนภาคทำได้เพียงแค่ภาวนาให้นราวิชญ์อยู่ในใจเท่านั้น
สุมิตรที่มีฐานะเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกใต้ดิน คนที่อยู่ในโลก มีดทั้งหมดต่างก็เป็นหูเป็นตาและมีมนุษย์สัมพันธ์อันดีกับเขา เพียงไม่นานก็หานราวิชญ์จนเจอ ทั้งยังจับเขาเอาไว้อีก
ขณะเดียวกัน จันวิภาผู้ซึ่งยังไม่ถึงเวลาออกจากโรง พยาบาลก็ได้ถูกสุมิตรส่งคนมาจับพาตัวออกไป แล้วกักบริเวณ อยู่ในบ้าน เพราะเกรงว่าเธอจะฉวยโอกาสตอนที่สุมิตรไม่ทัน ระวังแอบย่องไปหานราวิชญ์อีก
“สุมิตร! นายบ้าไปแล้วหรอไง! ฉันเป็นคนนะ! ฉันเป็น ภรรยาของนาย! สุมิตรทำไมนายต้องขังฉันเอาไว้! ถูกขังอยู่ในห้องเก็บของ จันวิภาทุบประตูอย่างไม่หยุด
หย่อน แล้วตะคอกออกไปนอกประตู เสียงที่ตอบเธอ มีเพียงแค่เสียงหัวเราะเยาะของสุมิตร กับประโยคที่ไม่เข้ารูหู “ถ้าไม่ขังเธอเอาไว้ ฉันจะต้องรอให้นาง แพศยาอย่างเธอไปสุมหัวกับไอ้ชู้นั่นมาฆ่าฉันอีกครั้งงั้นหรอ ช่าๆ เธอรออยู่ที่นี่เถอะ ฉันจะไปลากศพของไอ้นราวิชญ์กลับมา ให้เธอดู! ”
ตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งอันน่าสะพรึงกลัวของสุมิตร ลึกๆแล้วเธอรู้ว่าเขาคือเจ้าพ่อแห่งโลกมืด จันวิภาทุบประตูไม่ หยุด แล้วตระโกนออกมาเสียงดัง “เรื่องพวกนั้นที่นายพูดมา ฉันไม่เคยทำมาก่อน! นราวิชญ์ไม่ใช่คนอย่างนั้น! เขาเป็นผู้ บริสุทธิ์! นายอย่าไปสร้างปัญหาให้เขาเลย! ”
“โฮ่ นี่พูดให้ชู้งั้นหรอ? ปวดใจงั้นหรอ?” เมื่อได้ยินเธอ เอ่ยปากพูดแก้ตัวให้นราวิชญ์ ความโกรธของสุมิตรก็เพิ่มขึ้น มาอีกขั้นหนึ่ง รู้สึกได้ถึงความโกรธที่แผดเผาอยู่ในปอด เขา ไม่รู้ว่าทำไมตนเองจึงได้โกรธขนาดนี้ ทุกครั้งที่จันวิภาเอ่ยปาก พูดถึงผู้ชายคนอื่น เขาก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นที่สุด
รู้ดีว่าตนเองอธิบายให้มากความไปก็ไร้ความหาย สุมิตร พูดถึงแต่นางแพศยา ไม่เคยเชื่อเธอเลย จันวิภาทำได้เพียงแค่ กัดฟันจนแน่น แล้วพูดออกมาอย่างยุติธรรม “ไม่ว่านายจะเชื่อ หรือไม่! แต่ฉันไม่ได้ร่วมมือกับนราวิชญ์เพื่อไปฆ่านายจริงๆ คืนนั้นตอนที่นักฆ่าเข้ามา มันก็คิดจะฆ่าฉันเหมือนกัน! หากฉัน ร่วมมือกับนราวิชญ์ตามที่นายว่าจริงๆ งั้นทำไมนักฆ่าคนนั้นถึง จะลงมือกับฉันล่ะ! ดังนั้นเรื่องนี้มันจะต้องมีคนที่ใส่ความฉัน กับนราวิชญ์แน่นอน! ไม่เชื่อนายก็ลองไปถามธนภา.”
“หุบปาก! ” สุมิตรเตะประตูด้วยความโกรธอย่างรุนแรงประตูสั้นเสียจนจันวิภาที่อยู่ด้านในรู้สึกเจ็บปวด “ข้ายก็เธอกับ นราวิชญ์ ขวาก็เธอกับนราวิชญ์ ! จันวิภาเธอมันผู้หญิงโสมม ยังกล้าพูดอีกหรอว่าพวกเธอไม่ได้ไปตีท้ายครัวกัน? ยังกล้าพูด อีกหรอว่าเรื่องในครั้งนี้มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเธอต้องการ? จันวิภา เธอเห็นฉันเป็นคนโง่หรือไง?”
ไฟแห่งความโกรธเกรี้ยวของสุมิตรได้ลุกลามยิ่งขึ้นไปอีก เขาอดไม่ได้ที่จะเปิดประตูออกมาแล้วกำจัดเด็กที่อยู่ในท้อง ของจนวิภาทิ้งไปเสีย แต่เมื่อคิดถึงใบหน้าที่ขาวซีดของเธอ ก่อนที่จะออกมาจากโรงพยาบาลในวันนี้แล้ว เธอที่อ่อนแอเช่น นี้หากกำจัดทารกทิ้งไปล่ะก็ ชีวิตเธอก็คงจะสิ้นไปด้วยเป็น แน่แท้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สุมิตรจึงได้หงุดหงิดมากยิ่งขึ้นไปอีก นาง แพศยาจันวิภาจะไม่พูดถึงผู้ชายคนอื่นไม่ได้เลยหรือ! ไม่ อยากจะทำให้ตัวเองปลอดภัยขึ้นมาหน่อยหรือไง!
ความโกรธได้ครอบคลุมเหตุและผลของเขาจนสิ้น สุมิตร เปิดประตู ปิดปากของจันวิภาโดยที่ไม่แยแสการดิ้นรนต่อต้าน ของเธอ เธอจึงรู้สึกอับอายอีกครั้งในห้องเก็บของนี้
อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่นวาระรอมาอย่างยาวนานจึงอยาก ที่จะไปดูสถานการณ์ของสุมิตร ธนภาคขวางเธอเอาไว้ ไม่ให้ เธอเข้าไป
“ธนภาค นายจะไม่ให้ฉันเข้าไปดูหรอ สุมิตรไม่ตำหนิคุณ หรอกน่า ไม่เป็นไรหรอก” นวาระทำเป็นไม่มอง ราวกับงอนธนภาคอยู่
แต่ธนภาคไม่ได้งับเหยื่อเลย ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เขาเห็นถึง ความผิดปกติของนวาระ เขาก็ไม่ทำสีหน้าที่ดูดีให้นวาระมอง
อีก
นวาระพูดไปอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าธนภาคไม่ไหวติง จึง เดินออกไปอย่างเบื่อหน่าย
หลังจากที่นวาระออกไป ทันใดนั้นเองจู่ๆธนภาคก็คิดขึ้น มาได้เรื่องหนึ่ง จากชั้นสองมองลงไปทางนวาระกำลังเดินลงไป ที่ชั้นหนึ่ง เขาพบเรื่องที่น่าแปลกเป็นอย่างมากเรื่องหนึ่ง!
แผ่นหลังนี้….แผ่นหลังของนวาระ มันไม่เหมือนกับแผ่น หลังในรูปภาพที่ธนภาคส่งมันให้กับสุมิตร!
นวาระคนนี้ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
“นายมองอะไร?” ไม่รู้ว่าตอนไหน สุมิตรเดินออกมาอยู่ ข้างๆธนภาค พูดด้วยน้ำเสียงที่อีมครีม
ธนภาคมองไปทางสุมิตรที่กำลังมา ทิ้งความกังวลลง จาก นั้นธนภาคจึงบอกการค้นพบนี้ให้สุมิตรฟัง “สุมิตร นวาระมี
ปัญหานิดหน่อย!
ใครจะรู้ว่าหลังจากที่สุมิตรฟังแล้ว สีหน้ากลับเปี่ยมไป ด้วยความไม่พอใจแล้วเอ่ยปากพูดขึ้น “ไม่กี่วันมานี้นายคงพัก ผ่อนไม่พอ คิดมากไปแล้วมั้ง”
“มันเป็นเรื่องจริง ฉันมั่นใจในสายตาของตัวเอง ไม่มีทางมองผิดไปได้แน่! ” ธนภาคพูดอย่างสาบาน
จากนั้นสุมิตรจึงสะบัดมือ แล้วไม่พูดอะไรออกมาอีก