ตอนที่ 109 คุณผู้ชาย โปรดสงวนตัวด้วย
สุพจน์อุ้มจันวิภาอย่างอ่อนโยน ยกริมฝีปากขึ้นมา แล้ว พูดอย่างอบอุ่น “ที่รัก ในที่สุดพวกเราก็ได้พบกัน แต่คุณคงไม่รู้ ว่าผมคิดถึงคุณมากขนาดไหน!
แต่เมื่อสุพจน์เห็นร่างกายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยบาดแผลของ จันวิภา แก้มที่ถูกตบบวมเป่งจนเลือดแทบจะไหลออกมา สายตาของเขาก็เยือกเย็นเสียจนคิดว่าตกลงมาจากน้ำแข็ง
นวาระยังคงอยู่ตรงนั้นและกรีดร้องออกมาอย่างไม่ได้ตั่ง ใจ “สุพจน์! นายทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะ! ถึงจะเลวอย่างไง ฉันก็ช่วยนายไว้ไม่น้อยเลยนะอย่าฆ่าฉัน….”
สุพจน์ โกรธ เพียงแค่โกรธเท่านั้น เขาอุ้มจันวิภาขึ้นมา แล้วเดินไปทางประตู สีหน้าดูเยือกเย็นและกระหายเลือด พูด กับลูกน้องที่อยู่ข้างๆว่า “ฉันจะให้พวกนายจัดการ ไม่จำเป็น ต้องให้มีชีวิตอยู่ต่อ”
“อย่านะ..สุพจน์! ถ้านายกล้าฆ่าฉัน! นายจะต้องได้ รับผลกรรมแน่! นายจะต้องเสียใจภายหลังแน่! นายจะโดน สวรรค์ลงทัณฑ์ ไม่ตายดี..อ๊ากก! !
เสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาตามมาติดๆ ว่างที่ทรุดโทรม และว่างเปล่าทั้งหลังเงียบสงบลง และไม่ได้ยินเสียงกรีตร้องที่แหลมแสบหูของนวาระอีก
บริเวณโดยรอบมันเงียบไปหมด..
เช้าวันต่อมา ตอนที่จันวิภาฟื้นตื่นขึ้นมา จึงได้พบว่าตนเอง อยู่ในห้องที่แปลกตาห้องหนึ่ง
ปฏิกิริยาแรกของจันวิภาคือการลูบคลำท้องอย่างรวดเร็ว เมื่อรู้สึกว่าเด็กที่อยู่ในท้องยังคงอยู่ดี เธอจึงถอนหายใจออก มาด้วยความโล่งอก และเบาใจลง
จากนั้น จันวิภาก็เริ่มมองสภาพแวดล้อมโดยรอบ ในขณะ เดียวกันก็หวนนึกขึ้นมาว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่จะสลบลงไป นวาระที่จิตใจเลวทรามอำมหิตต้องการที่จะฆ่าเธอ และยังซ้อม เธออีก แต่ทว่าตอนนี้เธอกลับได้มานอนอยู่ที่นี่อย่างปลอดภัย มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่นะ? !
เป็นใครกันที่ช่วยเธอเอาไว้? !
สุมิตรงั้นหรือ? !
อย่างไรก็ตาม ห้องที่แปลกตาห้องนี้ เธอไม่เคยมาเลย!
มองไปรอบๆ จันวิภาจึงได้พบว่าห้องนี้ช่างสวยเป็นพิเศษ ราวกับสวนเรือนกระจก รอบข้างรายล้อมไปด้วยที่ แปลกตาและมีคุณค่า เตียงนอนถูกวางไว้อยู่ตรงกลางของห้อง รอบใช้กำแพงสีขาวโอบล้อมเอาไว้ แต่สิ่งที่ทำให้จันวิภา ประหลาดใจที่สุด ก็คือเพดานเป็นกระจกใส !
ตอนที่นอนหลับในยามราตรี มันจะต้องมองเห็นดวงดาวอันแพรวพราวอยู่เต็มท้องฟ้าแน่นอน ฉากแบบนั้น ถ้าคิดๆดู แล้วมันคงจะสวยงามจนน่าเหลือเชื่อเลย
“สวยมั้ย?” ทันใดนั้นเองเสียงที่ทุ้มต่ำและเย้ายวนก็ได้ดัง
ขึ้นมา
จันวิภาตกใจ หันหน้ากลับไป จึงเห็นผู้ชายที่ดูเป็นผู้ใหญ่ รูปร่างหน้าตาหล่อเหลายืนอยู่ตรงประตู ยิ้มแล้วมองมาที่เธอ
ผู้ชายที่หล่อเหลาคนนี้ เป็นครั้งที่จันวิภาเคยเห็น แต่จิตใจ เธอไม่ได้ถูกความงดงามดึงดูดไป แต่กลับถามคำถามที่เป็นจุด สำคัญขึ้นมาแทน “คุณเป็นใคร ทำไมฉันถึงได้มาอยู่ที่นี่คะ?”
จ้องมองไปยังจันวิภาที่แตกตื่นเหมือนกับลูกแมวน้อย อย่างไรอย่างนั้น สุพจน์จึงยิ้มอ่อนออกมาเบาๆ แล้วพูดเตือน สติ “ประมูล”
ประมูล? !
จันวิภาหวนนึกถึงเรื่องการประมูลในคืนนั้น มีเพียงสิ่ง เดียวที่ทำให้เธอคิดไม่ออกก็คือ คนที่สวมใส่หน้ากากเงินใน ค่ำคืนนั้น คนที่ทุ่มเงินซื้อเธอในราคาสามสิบล้านคือใครกันแน่
ตอนนี้หากเปรียบเทียบใบหน้าของชายในคืนนั้นกับชาย รูปหล่อที่อยู่ต่อหน้าคนนี้ มันคล้ายคลึงกันอยู่เล็กน้อย!
“คุณคือ?” จันวิภากล่าวอย่างไม่ค่อยมั่นใจ
“ใช่แล้ว ผมเอง” สุพจน์ยิ้มอย่างมั่นใจ พึงพอใจกับการ แสดงออกบนใบหน้าของจันวิภา นี่คือสิ่งที่น่ายินดีเป็นอย่างมากสำหรับเขา
ภายในเวลาอันสั้น จันวิภาได้รู้สึกถึงความซวยอยู่เล็ก น้อย ผู้ชายคนนี้ พากเธอมาที่นี่ทำไม? 1
“คือคุณที่ช่วยฉันเอาไว้? และยังพาฉันมาที่นี่อีกหรอคะ?” จันวิภาจ้องมองสุพจน์ ต้องการเห็นอะไรบางอย่างที่อยู่บนหน้า ของเขา
จันวิภานั่งลงอยู่บนเตียงครึ่งหนึ่ง แม้ว่าแก้มจะบวม มากกว่าครึ่ง ที่แก้มที่ปูดออกมาเล็กน้อยบนใบหน้ากลับทำให้ ดูดูน่ารักขึ้นเป็นพิเศษ และดวงตาเล็กๆที่พึ่งตื่นนอนของเธอก็ ยังลืมออกมาได้ไม่เต็มที่ ท่าทางที่ง่วงนอนมันช่างดูเย้ายวนจน อดไม่ได้
สุพจน์อดกลั้นความอยากที่จะพุ่งไปสัมผัสมัน พิงประตู ยิ้มแล้วมองมาที่เธอ พูดคำพูดที่เกือบจะทำให้จันวิภาอาเจียน ออกมาเป็นเลือด “เธอเดาดูสิ?”
“คุณพูดมาเถอะ! ” จันวิภาอดไม่ได้ที่จะกลอกตา ผู้ชาย คนนี้เปลือกนอกดูเหมือนกับผู้ใหญ่ที่เซ็กซี่ แต่คำพูดที่พูดออก มาทำไมมันถึงได้หน่อมแน้มขนาดนี้
สุพจน์หัวเราะและไม่พูดอะไร เขาเดินเข้าไปนั่งอยู่ข้าง เตียง จันวิภารีบขยับชิดติดหัวเตียงทันทีอย่างระแวง อย่างไร ก็ตามเธอลืมไปว่า อีกด้านหนึ่งของเตียงไม่ได้อยู่ติดกับผนัง เธอเคลื่อนไหวมากเกินไป จึงเกือบที่จะตกลงมาจากเตียง
“ระวัง! ” สุพจน์ดึงจันวิภาเอาไว้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากสถานการณ์เร่งด่วนและจับเอาไว้อย่างแรง จันวิภาจึงได้รับผลก ระทบจากแรงที่หนักหน่วงแล้วถลันตัวเข้าสู่อ้อมอกของสุพจน์
สุพจน์รู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมของคนที่อยู่ในอ้อมกอด และ ความอ่อนนุ่มของเรือนร่าง เขาใช้มือโอบกอดเอวของเธอโดย ไม่รู้ตัว ทำให้เธอเขยิบเข้าใกล้ตนเองมากขึ้นไปอีก
ท่าทางของคนทั้งสองนั้นช่างดูคลุมเครือเป็นอย่างยิ่ง หลัง จากที่จันวิภาได้สติกลับคืนมา จึงมีสีหน้าที่ไม่พอใจอยู่เล็กน้อย “รบกวนคุณสงวนตัวด้วยคะ”
สุพจน์ที่ถูกปฏิเสธดูเหมือนกับว่าจะไม่ค่อยมีความสุข เขา มองจันวิภา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นอยู่เล็กน้อย “สงวน ตัว? เธอถูกผมซื้อมาสามสิบล้านนะ และยังหนีไปอีก..ผู้หญิง ที่สามารถหนีรอดออกไปจากมือของผมได้ มีแค่คุณเป็นคน แรก! ”
รับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของสุพจน์ จันวิภาตระหนักได้ ว่าการหลบหนีของเขาครั้งนั้นทำให้เขาต้องสูญเสียเงินไป จำนวนหนึ่ง ตอนนี้เธอประหม่าเกินกว่าจะพูดออกมาได้
ทำได้เพียงแค่แบะปาก แล้วแสร้งทำเป็นดูดอกไม้อย่างไม่ สนใจ
จันวิภาที่ขี้เล่นอย่างนี้ สุพจน์จึงสนใจเธอเป็นอย่างมาก เขาเอ่ยปากพูดออกมาทันที “จันวิภา ผมสนใจคุณจริงๆ ถ้าคุณ มาเป็นผู้หญิงของผมจะว่าไง?”
“แต่ฉันไม่ได้สนใจคุณ” จันวิภาไม่อยากจึงปฏิเสธออกไป
สุพจน์บีบคางของจันวิภา บังคับให้เธอมองมาทางตนเอง
“นายจะทำอะไร! ” จันวิภาเครียด และกลัวว่าชายแปลก หน้าคนนี้จะมีความคิดเช่นนั้นกับเธอ
สุพจน์มองดูท่าทีของจันวิภา เธอที่ความรู้สึกไวอย่างนี้ กลับยิ่งจะทำให้สุพจน์หัวเราะออกมา “เป็นแมวน้อยที่น่ารัก จริงๆ วางใจเถอะ ผมจะค่อยๆทำให้เธอซอบผม ไม่ ต้องเป็นรัก ผมสิ”
คนผู้นี้ป่วยมากจริงๆ
จันวิภาไร้ซึ่งคำพูดใดๆ คิดอยากจะออกไปจากที่นี่ “ฉัน อยากกลับไป นายปล่อยฉันออกไป”
เมื่อได้ยินดังนั้น รอยยิ้มของสุพจน์จึงผุดขึ้นมา พูดออกมา อย่างชอบธรรมและจริงจัง “เธอไปไม่ได้ เมื่อเข้ามาที่นี่แล้ว ผม ก็ไม่มีแผนที่จะปล่อยคุณไปอีกครั้ง”
“นี่นายจะขังฉันเอาไว้หรอ?” จันวิภาขนลุกซู่ คนผู้นี้ทำไม จึงเป็นโรคประสาทเหมือนกับสุมิตรเลย
จันวิภาสลัดมือของสุพจน์ออกไป แล้วพูดด้วยความโกรธ “ฉันกับนายไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน และฉันก็มีสิทธิมนุษย ชน นายไม่มีสิทธิ์ที่จะขังฉันและจำกัดอิสรภาพของฉัน”
“ไม่ๆ” สุพจน์กดจันวิภาที่ตื่นตระหนกลง แล้วพูดอธิบาย อย่างอดทน “ผมไม่ได้จะจำกัดอิสรภาพของคุณ แต่คุณไม่ สามารถหนีออกไปจากข้างกายผมได้ คุณสามารถอยู่แต่ในคฤหาสน์ของผมได้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้ไปที่อื่น”
นี่มันต่างอะไรกับการถูกขังกันล่ะ!
จันวิภาพูดในใจอย่างไม่พอใจ
อย่างไรก็ตามจันวิภาก็รู้ได้ว่าการทำสงครามน้ำลายมัน ไม่มีผลอะไร ดังนั้นเธอจึงไม่พูดออกไป แล้วเดินเตร็ดเตร่อยู่ใน คฤหาสน์ สำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ทางเข้ามีแค่ส่วนของประตูที่เข้ามา ประตูบ้านนั้นถูกล็อค แบบอิเล็กทรอนิกส์ และยังมียามคอยเฝ้าไว้อีก
อืม เรื่องนี้รีบร้อนไม่ได้ ทำได้เพียงแค่หาโอกาสแล้ว ค่อยๆหนีออกไปอีกครั้ง!