ตอนที่ 152 อย่าดีใจไปหน่อยเลย
ก็เช่นนี้เป็นเพราะเจริญศรีผลักดันเธอ เป็นเลขาก็ท่านประธานเลย
จันวิภา เลขใต้
พอพูดเรื่องการทํางานร่วมกันเสร็จ เจริญศรี สบายใจ
ขึ้นและเธอก็พูดกับจันวิภาว่า “ถ้าเป็นแบบนี้ เธอก็เริ่มงานวัน
นี้เลยแล้วกัน”
“ได้ค่ะ”ปัญหาในใจก็แก้ไขได้แล้ว จนวิภาก็ดีใจมาก
แต่พอเธอพูดจบ เธอก็นึกได้เรื่องนึงว่า
ถ้าวันนี้เริ่มทำงานเลยวันนี้ก็ต้องเจอกับสุมิตรน่ะ…..พอ
คิดว่าจะได้เจอสุมิตร จันวิภาก็ตื่นเต้นและมีความกลัวในใจ
ขึ้นมา
เธอยังไม่พร้อมเจอเขาจริงๆอาจจะกลัวว่าถ้าเจอเขาแล้ว
เธอจะออกจากเขาไม่ได้อีก
จันวิภาคิดตอนนั้นเขาออกจากสุมิตร เขาโกรธมากเธอ
ไม่อยากคิดภาพนั้นเลย
สุมิตรโกรธจนจะฆ่าคนได้เลย!
พอคิดตอนที่สุมิตรโกรธ จันวิภาก็รู้สึกกลัวๆ
นาทีต่อมา เธอก็คิดถึงลูกของตัวเอง…..ความลำบากใจ นี้ จนวิภาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเธอจะแย่งลูกชายคืนมาให้
ได้!
ช่างเถอะ…….มาล!สุมิตร!นายจะมาฉันก็ไม่กลัวนายฉัน ไม่ใช่จันวิภาคนเดิมเมื่อหกปีก่อนแล้ว
จากนั้น ตอนที่ฉันวิภาโดนพาตัวไปหาท่านประธานที่ห้อง เธอไม่เห็นสุมิตรออกมาเลยจากนั้นก็มีผู้หญิงเดินออกมาจาก
โกรธๆ
ผู้หญิงคนนี้คือเลขาคนก่อนของสุมิตร พอเลขาคนนั้น เห็นจันวิภาและพูดอย่างเยาะเย้ยเธอจากนั้นก็เหมือนคิดอะไร
ได้ก็เกิดเศร้าใจขึ้นมา
เธอก็พาจนวิภาเดินชมที่ต่างๆ ในบริษัทจากนั้นก็พาเธอ กลับมาที่โต๊ะเลขาและพูดเรื่องเกี่ยวกับงานของเลขา
จันวิภาตั้งใจฟังเธอพูด เลขาคนนี้เห็นเธอตั้งใจมากจาก
นั้นก็ถอนหายใจและพูดว่า “เธอตั้งใจจังเลยนะ น่าเสียดาย ผู้หญิงที่ชื่อเจริญศรีคนนั้น ก่อนฉันไปทำไมไม่พูดความจริง เรื่องเธอไปนะ”
ถึงแม้ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแต่ในวิภาก็ยิ้มตอบเธอ อย่างมีมารยาทและไม่ออกความเห็นอะไร
พอเห็นนวิภาแบบนี้เลขาก็ถอนหายใจ เธอเอาสมุด
บันทึกส่งให้ในวิภาและพูดว่า “ ที่ฉันจะพูดก็พูดไปหมดแล้ว ต่อมาจะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับเธอแล้วล่ะ
จนวิภารับสมุดมาและเปิดดูอย่างสงสัย
ตอนที่จันวิภาเปิดดูเลขาก็พูดเตือนว่า “ประธานชอบดื่ม กาแฟไม่เต็มน้ำตาล ทางที่ดีคือต้องขมแต่ว่าก็ขมมากไม่ได้
“ตอนเขายุ่งเขาจะชอบกินข้าวที่ห้องทำงานเลย เธอรับ ผิดชอบเรื่องอาหารการกินของเขา เรื่องการติดต่อฉันเขียนลง ไปแล้วล่ะ”
เธอก็พูดต่อว่า “อีกอย่าง ถ้าเจริญศรีให้เธอเรียกเธอว่า
ภรรยาท่านประธาน เธอไม่ต้องเรียกนะ!”
ข้างหน้าสองอันนวิภาจำได้แล้วแต่ข้างหลังนี้เธอไม่ เข้าใจ: “ทําไมล่ะ?
“เพราะว่า … เลขามองซ้ายขวา และเข้าไปพูดข้างๆกัน วิภาว่า “เพราะว่าเธอไม่ใช่ภรรยาท่านประธาน เธอเป็นว่าที่ ภรรยาเอง!”
ได้ยินแล้ว จันวิภาก็โล่งอกมาก
เธอก็นึกได้ว่าทำไมตัวเองต้องโล่งอกด้วย เจริญศรีเป็น ภรรยาของสุมิตรเกี่ยวอะไรกับเธอทำไมตัวเองต้องไปแคร์ด้วย
จันวิภาไม่คิดเรื่องพวกนี้ เธอยิ้มและพูดกับเลขาคนนั้นไป
ว่า “ฉันรู้แล้วค่ะ ขอบคุณมากเลยนะค่ะ
ใครจะรู้ว่าพอเลขาได้ยินแบบนั้นแล้วสีหน้าก็เริ่มเศร้าขึ้น มา เธอปัดมือไปและพูดว่า “อืม เธอโตกว่าฉันมากนะพูดถึง เรื่องอายุเธอน่าจะแต่งงานแล้ว? แบบนี้เจริญศรีคงไม่กังวลเรื่อง เธอแล้วล่ะ เฮ้อ ผู้หญิงงูพิษคนนั้น ฉันอยากตบเธอจริงๆ
เลขาพูดแบบนี้จนวิภา
ก็ยิ้ม เธออดไม่ได้และยิ้มหัวเราะ
ไป
“เธอหัวเราะอะไร?”เลขามองเธออย่างไม่พอใจ และพูด ตักเตือนเหมือนคนที่เคยผ่านมาแล้วว่า “เธออย่าดีใจไป จาก นิสัยผู้หญิงคนนั้นเธอต้องเจอเรื่องอีกมากมาย เธอก็ระวังด้วย
ล่ะ!”
ต้องพูดเลยว่า เลขาคนนี้ตลกมาก ถึงแม้จะแต่งตัว เซ็กซี่เหมือนจะเป็นผู้หญิงที่สวยแต่ไม่มีสมองแต่จันวิภาก็ถูกใจ กับคําพูดเธอ
ท่าทางของเจริญศรีทำเอาคนเห็นแล้วก็เกลียด คนที่ให้ คนอื่นเรียกตัวเองว่าภรรยาท่านประธานก็เห็นได้ผู้หญิงคนนี้ ช่างคิดไปเองมาก ทำให้คนไม่ชอบเหมือนกัน
“ฉันรู้แล้วค่ะ”ฉันวิภายิ้มและพูดว่า “คุณพูดมานานขนาด นี้เดี๋ยวตอนเที่ยงกินข้าวด้วยกันไหมค่ะ?
“ไม่ต้องแล้ว อยู่ตรงนี้ฉันโมโหและวันนี้ประธานอาจจะ ยุ่งเธออยู่ตรงนี้เตรียมกับข้าวตอนเที่ยงให้เขาเถอะ” เลขาพูด เธอพูดเสร็จก็เก็บของและเตรียมตัวจะไปพอดี
พอได้ยินว่าจะต้องเตรียมข้าให้สมิตร จันวิภา ใจเต้นเร็วขึ้น ครึ่งวันนี้เธอไม่เห็นสุมิตรเลย เธออุตสาห์เตรียมตัวเจอ เขาแล้วไม่คิดว่าถึงตอนนี้แล้ว ทำเอาเธอรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
สูดหายใจเข้า
จนวิภาเตรียมตัวเตรียมใจก็คือเวลานี้
โทรศัพท์ของโต๊ะเลขาก็ดังขึ้น
พอได้ยินเสียงเลขาที่กำลังเตรียมตัวไปสีหน้าที่เปลี่ยนและ มองดูจันวิภาและพูดว่า “ตายแล้ว!เช้านี้ฉันมัวแต่พาเธอเดิน บริษัท ลืมเตรียมกาแฟให้ประธาน เขาโทรมาเรียกแล้วแน่ เลย ฉันไม่สนแล้ว ฉันไปก่อนนะ ขอให้เธอโชคดี!”
พูดจบ
” ”
จันวิภาก็เดินไปและยกโทรศัพท์ขึ้นมารับ: “สวัสดีค่ะ
ประธาน”
ทำไมถึงพึ่งรับโทรศัพท์…….สุมิตรพูดถึงครึ่งเขาก็ชะงัก
และถามไปอย่างสงสัยว่า : “เธอเป็นใคร?
ได้ยินเสียงจากโทรศัพท์ที่ไม่ได้ยินมานานแล้วไม่รู้ว่าตื่น เต้นหรือทำไม จันวิภา ใจเต้นเร็วและแรงขึ้นเธอจับโทรศัพท์ไว้ แน่นมือสั่นและพูดปลอบใจตัวเองนับไม่ถ้วน
เธอทําเสียงปกติ
ดิฉันเป็นเลขาที่มาใหม่
ทํางานวันแรกของดิฉันค่ะ
จนวิภาพูดไปว่า “สวัสดีค่ะประธาน
ดิฉันชื่อว่านาราค่ะ วันนี้เป็นการ
เธอก็ไปเลย