ตอนที่175ฉันยังมองเธอไม่ออก
จนวิภาลุกขึ้นมาด้วยความโมโหเธอผลักร่างกายของสุ มิตรออกไปอย่างรุนแรง
สุมิตรคว้าแว่นตามาได้และก็ไม่ได้กดเธอลงไปอีก ให้เธอ ผลักตนเองออกไปตามอำเภอใจ
“สุมิตรนายนี่มันสารเลวจริงๆ! “จันวิภาโกรธเสียจน อยากจะสะบัดมือออกไปตบหน้าสุมิตรแต่ทว่ามือพึ่งจะมาได้แค่ กลางทางก็ถูกสุมิตรขัดขวางเอาไว้
สุมิตรจับมือของเธอเอาไว้จ้องมองใบหน้าของจันวิภา อย่างถี่ถ้วน
หลังจากที่ถอดแว่นตาออกแล้วจึงมองเห็นใบหน้าได้อย่าง ชัดเจนแต่มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันใบหน้าของเลขาคนนี้ มันแก่เกินไปหน่อยเธอมีร่องรอยของการขมวดคิ้วและร่องรอย อายุอยู่
สุมิตรส่งแว่นตาคืนให้กับจันวิภาอย่างไม่ค่อยสนใจเท่า สีหน้าที่สูญเสียยังคงอยู่บนใบหน้าพูดออกมาเบาๆ ” โกรธ ไหร่ อะไรขนาดนั้นฉันคืนแว่นตาให้
แน่นอนว่าสุมิตรไม่อาจมองเห็นใบหน้าจริงๆ ของจันวิภา เพราะหลังจากเกิดเรื่องเมื่อวานขึ้นจนวิภาก็ได้ทิ้งเจตนาอันแรง กล้าเอาไว้เมื่อกลับถึงบ้านจึงได้เอาเนื้อกาววางลงไปบน ใบหน้าของตนเองก็นับได้ว่าเธอได้ทำการปรับปรุงโฉมหน้า ของตนเองอย่างถึงที่สุดแล้ว
ดังนั้นสุมิตร ในวันนี้จึงมองไม่เห็นอะไรเลยจากบนใบหน้า
ของเธอ
แต่สิ่งสำคัญตอนนี้ไม่ใช่ว่าเธอสวยเหมือนกับผู้หญิงคน เมื่อคืนที่สำคัญคือสุมิตรกล้าที่จะหยอกเธอเล่นอย่างนี้
จันวิภาคจึงตามองแว่นตาที่อยู่ในมือของสุมิตรด้วย อารมณ์ที่เดือดปุดๆดวงตาของเธอแดงขึ้นมาเล็กน้อยแล้วพูด ด้วยความโมโห แค่เพื่อถอดแว่นตาถึงกับต้องหยอกฉันขนาด นั้นเลยหรอ? ! นายนี่มันสารเลวจริงๆ! นายเห็นฉันเป็นอะไร กัน? ! ”
เห็นเบ้าตาของฉันวิภาแดงเข้าเสียแล้วสุมิตรตกตะลึงอยู่ ครู่หนึ่งแม้แต่จะพูดก็พูดไม่ออกฉัน……
จันวิภาโกรธเสียจนตบแว่นตาที่อยู่ในมือของสุมิตร กระเด็นพูดออกมาอย่างโมโห”นายเอาแว่นตาไปเลย! ฉันไม่ เอาแล้ว! ฮ่าๆๆ………แค่คิดไม่ถึงเลยว่าท่านประธานจะ ลวนลามได้แม้กระทั่งเลขาที่มีลูกแล้วหุ่นกระหายจนไม่เลือก เลยจริงๆ! ”
ค่าดูถูกของฉันวิภายิ่งพูดก็ยิ่งสุดเหวี่ยงสุมิตรรู้ดีว่าเขาทำผิดก่อนหน้านี้แต่เมื่อถูกจันวิภาพูดเช่นนี้ก็ยังคงอารมณ์เสีย มากเขา ในตอนนี้พูดด้วยสีหน้านิ่งเงียบ ก็แค่จูบจริงจังขนาด นั้นเลยหรอ? ฉันยังไม่ได้ทำอะไรกับเธอจริงๆเลยนอกจากนี้ฉัน มองเธอไม่ออกจริงๆ
“……”นวิภาหัวเราะเยาะออกมาแล้วพูดเยาะเย้ยออก ไป ก็แค่จูบมองฉันไม่ออกก็ดีแล้ว! ฉันยังคิดว่าท่านประธาน หุ่นกระหายเสียจนไม่เลือกวิธีการเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าชีวิต ส่วนตัวของคุณจะลามกอนาจารขนาดนี้!
เมื่อหกปีที่แล้วเป็นอย่างไงหกปีหลังก็ยังเป็นอย่างนั้น
จันวิภาโกรธเข้าจริงๆเสียแล้วตอนนี้เธอราวกับถูกดึงกลับ ไปสู่สถานการณ์เมื่อหกปีก่อนที่ถูกเขาทำให้อับอายเธอโมโห ขึ้นมาทันทีโมโหเสียจนตัวสั่น
จันวิภาจ้างมืออดไม่ได้ที่จะตบหน้าสุมิตรแต่กลับถูกเขาจับ ข้อมือเอาไว้
สุมิตรจับมือของจันวิภาแล้วสะบัดออกไปอย่างรุนแรง สีหน้าเย็นยะเยือกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูจะไม่ค่อยพอใจ นัก”เธออย่ามองตัวเองมากเกินไปผู้หญิงอย่างเธอฉันกินไม่ลง
หรอก! “
“สารเลว! “
จนวิภาคลึงตามองสุมิตรอย่างดุเดือดกัดฟันแล้วเดินจาก
ไป
ตอนที่ออกไปก็ยังเหวี่ยงประตูปิดอย่างแรงคนทั้งสองแยก จากกันอย่างเลวร้ายอีกครั้ง
เดินเข้าไปในห้องน้ำชาแล้วเทกาแฟทิ้งทันใดนั้นเองฉัน วิภาก็คิดขึ้นมาได้ตนเองมักจะถูกสุมิตรทำให้อารมณ์เสียอยู่ บ่อยๆทะเลาะกันไม่มีสิ้นสุดเป็นอย่างนี้ต่อไปเธอคงจะถูกไล่ ออกแล้วก็จะไม่ได้รับข่าวสารจากนิเวศน์อีกเป็นแน่เวรจริงๆ!
จันวิภากลับมายังที่นั่งของตนเองอย่างโมโหและหงุดหงิด ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงคร้านที่จะสนใจเขาแล้วทำงานต่อไป
เป็นเช่นนี้จนวิภายุ่งวุ่นวายกับงานของตนเองตอนที่เกือบ จะได้เวลาเลิกงานทันใดนั้นเองจู่ๆ โทรศัพท์ภายในก็ดังขึ้นมา ทันทีเธอไม่อยากจะรับเลยแม้แต่น้อย
“ตอนเย็นมีงานเลี้ยงเธอไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ” เสียงทุ้ม ที่อยู่ปลายสายดังขึ้นมามันเป็นเสียงของสุมิตรนั่นเอง
จันวิภายังคงโกรธเขาอยู่รอจนเขาพูดจบไปนานแล้วจึงจะ พูดตอบ” โอเคฉันรู้แล้ว
พูดจบก็วางสายลงทันที
งานก็คืองานเรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัวต้องแยกแยะ
ตอนเลิกงานทั้งสองคนออกไปด้วยกัน
สถานที่นัดพบเป็นหนึ่งในโรงแรมที่แพงและทันสมัยที่สุด ในเมืองมีผักสีเขียวอยู่ด้านในพวกมันมีราคาหลายพันนี่มัน ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมสามารถกินได้
ตอนที่ไปภายในใจของฉันวิภาก็กำลังคิดอยู่ว่าสิ่งนี้มัน
ไม่ใช่ผักมันคือเงิน เหลือเฟือกันจริงๆ
ครั้งนี้บริษัทของสุมิตรมาหาซีอีโอของบริษัทที่มีชื่อเสียง แห่งหนึ่งเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสัญญาเป็นผู้รับเหมาหลักจนวิภา กับสุมิตรมากันเร็วมากซีอีโอคนนั้นมาสายไปสองสามนาทีแต่ เมื่อเห็นนวิภากลับไม่พอใจ
จนวิภาแสยะยิ้มแต่งตัวหน้าเกลียดขนาดนั้นฉันจะทำอะไร ได้อีกแต่สายตาของซีอีโอคนนี้ช่างน่ารังเกียจเสียจริง
ไม่รอให้จนวิภาได้กังวลเห็นได้ชัดว่าซีอีโอที่เมาเหล้าคน นั้นกวักมือมาทางเธอแล้วพูดด้วยความมึนเมา เธอ! มาหาฉัน
“ฉันวิภามองสุมิตรอย่างหาคำตอบไม่ได้ หลังจากได้รับ ความยินยอมจากเขาจึงจะเดินไปทางซีอีโอคนนั้น “สวัสดีค่ะมี ธุระอะไรงั้นหรอคะ?”
“เธอดื่มเหล้าแก้วนี้ให้ฉันหน่อย! “ซีอีโอไปยังแก้วที่ ตนเองดื่มไปแล้วในนั้นเต็มไปด้วยเหล้า……….วิภาจะต้องใช้ แก้วที่เขาเคยดื่มไปแล้วเช่นนั้นหรือ?
จนวิภามองไปทางสุมิตรก่อนแต่กลับเห็นสุมิตรยักไหล่ ทําท่าทางแสดงออกอย่างเฉยเมย
จันวิภากัดฟันที่เป็นจังหวะที่เธอจะต้องเข้าไปกระนั้นหรือ
คิดว่าสัญญานี้จะต้องมีหลายคนต่อสู้เพื่อแย่งมันมาเพื่อ สัญญาอันนี้แล้วมันต้องจ่ายด้วยความพยายามของพนักงาน จํานวนมากจริงๆ ถ้าเธอปฏิเสธและทำให้ซีอีโอคนนั้นไม่มีความ สุขสัญญานี้ก็คงจะสบสิ้นกันผลลัพธ์ดังกล่าวจนวิภาไม่อาจที่จะ รับผิดชอบได้
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเธอใช้แก้วที่เขาเคยดื่มไปแล้วไม่ได้ จริงๆ ดังนั้นจนวิภาจึงยิ้มแล้วนั่งลงอีกด้านหนึ่งของซีอีโอคนนั้น หยิบแก้วเหล้าใหม่ขึ้นมาอย่างใจกว้างแล้วเทให้ตนเองเรียนรู้ ท่าทางที่องอาจของพัชรีแล้วพูดด้วยเสียงที่สูงมาค่ะซีอีโอแก้ว นี้ฉันดื่มให้คุณ!
พูดจบเธอก็ดื่มมันจนหมดก่อนด้วยความเคารพ
ซีอีโอคนนั้นจ้องมองจันวิภาที่เงยหน้ากระดกเหล้าเหมาไถ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างปลื้มปีติดี! ดีจริงๆ! คิด ไม่ถึงเลยว่าประธานสุมิตรจะหาผู้หญิงที่องอาจอย่างนี้ได้นี่มัน เยี่ยมจริงๆ! มาพวกเรามาดื่มกันต่อ! ”
พูดไปพลางก็ได้ยินเหล้าให้ในวิภาอีกครั้งให้เธอดื่มต่อ
………วิกาหมดคำพูดไม่ใช่แล้วกระมัง?!
จันวิภาจ้องมองสุมิตรด้วยใบหน้าที่ย่ำแย่เขากำลังจ้อง มองเธออย่างเยือกเย็นเธอโกรธดังนั้นจึงดื่มอีกครั้งจนหมด ทันใดนั้นร่างกายก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีกระเพาะอาหารกำลังลุก เป็นไฟ
และเมื่อซีอีโอคนนั้นเห็นความแน่วแน่ของฉันวิภาก็หัวเราะชอบใจใหญ่เขาอดไม่ได้ที่จะลูบต้นขาของจันวิภายิ้มแล้วหล ตามองหน้าอกของจันวิภา
เห็นได้ชัดว่าดื่มไปมากแล้วจึงไม่รู้ความหนักเบาอะไรอีก
แล้ว!
สีหน้าของต้นวิภาเปลี่ยนไปในทันทีขนทั่วทั้งร่างกายลุก ขึ้นมาประหม่าเสียจนไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว
ไอ้บ้ากามคน………
จนวิภาแฉลบตัวออกต้องการที่จะออกไปแต่กลับถูกซีอีโอ คนนั้นจับเอาไว้ณตอนนี้สุมิตร ก็ได้กระโดดเข้ามาแล้วเตะซีอีโอ คนนั้นอย่างแรงเสียง “ปัง”ดังขึ้นเสียงของคนที่ล้มพร้อมกับ เก้าอี้ดังขึ้นมา