ตอนที่ 179 คืนนี้ฉันจะนอนกับเธอ
จันวิภาหัวเราะแหะๆและไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
มันดึกมากแล้วจริงๆ หลังจากนราวิชญ์พูดประโยคนี้อีก ครั้งหนึ่งเขาก็จากไป
หลังจากนราวิชญ์ออกไปแล้วในวิภาจึงจะถอนหายใจออก มาอย่างหนักหน่วงเธอไม่รู้เลยจริงๆว่าควรจะทำอย่างไรดีต่อ หน้านราวิชญ์
ครุ่นคิดจนวิภาตัดสินใจแล้วว่าตอนที่เจอหน้ากันครั้งต่อ ไปจะต้องพูดเรื่องนี้ให้ชัดเจนระหว่างพวกเขาทั้งสองคนมันเป็น ไปได้และเขาก็จะได้ไม่ต้องพยายามอีก
พูดถึงทางด้านของสุมิตรหลังจากที่ทิ้งฉันวิภาลงรถไปตัว เขาเองก็ได้ขับรถจากไปจากนั้นจึงรู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้ง
ดังนั้นหลังจากนั้นไม่นานก็ได้กลับมาหาฉันวิภาอีกครั้งแต่ เมื่อกลับมาถึงที่แห่งนั้นแล้วกลับหาเธอไม่พบจึงเลี้ยวแถวๆนั้น ไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่พบจันวิลาจึงอดไม่ได้ที่จะกังวลอยู่เล็กน้อย
สุมิตรรับโทรศัพท์หาจนวิภาแต่กลับไม่มีสัญญาณตอบรับ
ใดๆ
ทำอะไรไม่ถูกสุมิตรจึงทำได้เพียงแค่โทรหาแผนก ทรัพยากรบุคคลเพื่อต้องการที่อยู่ของจันวิภา
ผู้จัดการของแผนกทรัพยากรบุคคลรับโทรศัพท์ของสุมิตร หลังจากตื่นตระหนกอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดก็ได้ข้อมูลของฉันวิภา มา
สุมิตรถือที่อยู่บ้านจันวิภาขับรถไปยังคอนโดเพื่อหาเธอ หลังจากที่จอดรถแล้วสุมิตรก็ได้เดินขึ้นลิฟท์ไปต่อมาจึงกดเลข ชั้นที่จันวิภาอยู่
สุมิตรรออยู่ไม่นานเท่าไหร่ลิฟท์ก็ขึ้นมาจนถึงเขาขึ้นไปชั้น บนเพราะค่อนข้างเป็นห่วงจันวิภาสุมิตรจึงไม่ได้มองเขาที่ลงชั้น ล่างมาคนที่อยู่ที่ชั้นนั้นกำลังจากจากไป
คนทั้งสองผ่านกันไปไม่มีใครเห็นหน้ากันสุมิตรรู้สึกแต่ เพียงว่าร่างกายของชายคนนั้นคุ้นเคยอยู่นิดหน่อยตอนที่คิดจะ หันกลับไปมองประตูลิฟท์ก็ปิดเสียแล้ว
หันศีรษะกลับมาด้วยความไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อยสุมิตร กลับเห็นในวิภายืนอยู่ที่หน้าประตูคอนโดของเธอแล้วมองมา
ทางเขา
สุมิตรรับรู้ได้ด้วยตนเองรู้ว่าฉันวิภาคงไม่ได้มีลางสังหรณ์ ที่แม่นยำขนาดนั้นที่จะรู้ล่วงหน้าว่าเขาจะมาในขณะนั้นมีบาง อย่างเกิดขึ้นในใจเขา…….. ที่แท้นวิภาที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู เพื่อที่จะมองตามผู้ชายคนนั้นที่เดินจากไป
ที่แท้ผู้ชายคนนั้นเมื่อครู่นี้ก็อยู่ที่บ้านของฉันวิภาเช่นนั้นหรือ? ผู้ชายคนเดียว? ชายกับหญิงอยู่กันตามลำพังนานขนาด ไหนกัน? แล้วทําอะไรกัน?
ชั่วครู่หนึ่งภายในหัวของสุมิตรเต็มเปี่ยมไปด้วยความ สงสัยแม้จะมีความอิจฉาอยู่เล็กน้อยแต่ภายในใจกลับไม่
สบายใจและไม่มีความสุขเป็นอย่างมาก
เมื่อวันวิภาเห็นสุมิตรที่อยู่หน้าลิฟท์เธอขมวดคิ้วอยู่เล็ก น้อยแล้วอยากที่จะปิดประตูห้องทันที
เจ้าสารเลวคนนี้! ไม่ใช่ว่าทิ้งเธอไว้ข้างถนนอย่างไม่ แยแสหรือตอนนี้มาทำไมกัน
อย่างไรก็ตามสุมิตรนั้นรวดเร็วยิ่งกว่าเธอเมื่อเห็นเธอ ต้องการจะปิดประตูจึงรีบก้าวเท้ายาวมาขวางประตูไว้ก่อนที่ เธอจะปิดประตูเขาพุ่งตัวเข้ามาแล้วปิดประตูได้อย่างรวบรื่น
“นาย! “จันวิภาจ้องมองการกระทำที่รวดเร็วของสุมิตร ถลึงตามองเขาด้วยความโมโหแล้วพูดออกมาอย่างโกรธ แค้น”นายมาที่นี่ทำไม? ! ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!
ทำไมฉันถึงมาที่นี่ไม่ได้?คนอื่นมาได้ทำไมฉันจะมาไม่ ใต้?”น้ำเสียงของสุมิตรไม่พอใจเขายังคงคิดถึงชายคนเมื่อครู่ นี้อยู่
จันวิภาพูดอย่างไม่ไว้หน้า”ใช่คนอื่นมาได้ แต่นายไม่ได้ นายออกไปซะไม่งั้นฉันจะแจ้งว่านายบุกรุกบ้านฉัน
“ฉันไม่ออก! เมื่อได้ยินคำพูดของฉันวิภาความโกรธของสุมิตรก็พุ่งขึ้นมาตอนนี้เขาดื้อรั้นกับฉันวิภาเขาคิดถึงชายคน ที่ออกไปเมื่อครู่นี้แล้วพูดอย่างเยาะเย้ย “คนที่ออกไปเมื่อกี้นี้
เป็นแฟนเธอหรอ?”
แฟนแฟนบ้านแกสิ!
จนวิภามองคนพาลคนนี้อย่างแค้นเคืองแล้วพูดด้วย อารมณ์ที่ไม่ค่อยดี เขาเป็นเพื่อนฉัน
“เพื่อน?”สุมิตรไม่พอใจคำพูดที่พูดออกมามันเจ็บปวดอยู่ เล็กน้อย ดึกดื่นขนาดนั้นยังจะมีเพื่อนมาชายหญิงอยู่กันตาม ล่าพัง……ป้าบๆราคาไม่เลวเลย
สารเลว!
“นายคิดว่าฉันเหมือนกับนายหรอ?”จันวิภาโกรธเธอ เบือนหน้าไม่อยากหันมามองสุมิตรอีกเท้าข้างหนึ่งอยู่บนพื้นอีก ข้างหนึ่งยกขึ้นกระโดดขึ้นไปบนโซฟาแล้วนั่งลง
เธอไม่มีพลังพอที่จะยืนอยู่กับไอ้สารเลวคนนี้
สุมิตรเห็นว่าท่าทางการเดินของจันวิภาดูแปลกประหลาด ไปเมื่อเห็นเท้าเธอที่ได้รับบาดเจ็บก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออก มาแล้วเอ่ยปากถาม เท้าเธอเป็นอะไร?”
จันวิภาโกรธ โกรธเสียจนลมหายใจแห่งความโกรธพ่น ออกมาจากรูจมูกเธอรีบพูดเย้ยหยันขึ้นมาทันที ถ้าไม่ใช่เพราะ นายทิ้งฉันเอาไว้ก็คงจะไม่เห็นสะดุดแล้วเคล็ดหรอก”
เมื่อได้ยินดังนั้นสุมิตรถึงวางเห็นที่อยู่ในใจลงที่แท้ขาเธอบาดเจ็บทำไมผู้ชายคนนั้นจึงมานี่ที่ก็มีคำอธิบายแล้ว
แปดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นอาการบาดเจ็บที่เท้าของวันวิภา จากนั้นเธอก็เรียกเพื่อนให้มาส่งที่บ้านเธอเมื่อคิดถึงตรงนี้สุ มิตรก็ไม่มีความสุขอีกครั้งทำไมเธอถึงยอมโทรหาเพื่อนแต่ไม่ เอ่ยปากให้กลับขับกลับมารับเธอ
ที่แท้ในใจของเธอตนเองเทียบไม่ได้กับผู้ชายคนนั้นหรือ?
คิดถึงตรงนี้สุมิตรก็อดไม่ได้ที่จะพูดคำพูดที่ไม่น่าฟังออก มาพูดด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ย เธอนี่โง่จริงๆ เดินอยู่ดีๆก็ขา เคล็ดจะไปโทษใครได้”
เห็นได้ชัดว่าเป็นความผิดของเขาและยังจะไปโทษคนอื่น
อีก!
เมื่อได้ยินดังนั้นในวิภาก็โกรธยิ่งขึ้นไปอีกเธอไปทาง ประตูแล้วพูดด้วยความโมโห “นายไสหัวออกไป! ฉันไม่อยาก
เห็นนาย! ”
ให้ตนเองออกไปอีกแล้ว
สุมิตรก็ไม่พอใจเช่นเดียวกันสรหน้าของเขาเยือกเย็นพูด ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดีนัก “ฉันเป็นเจ้านายเธอเธอใช้คำให้
ระวังหน่อยนะ! ”
หัวหน้าก็บ้วล่ะ!
จนวิภาคิดว่าเขากำลังพูดขั้วจึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ เย้ยหยัน “ท่านประธานผู้ยิ่งใหญ่ตอนนี้มันเวลาเลิกงานแล้วคุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน
แต่สิ่งที่จันวิภาคิดไม่ถึงเลยก็คือสุมิตรหัวเราะเยาะออกมา เขามองจันวิภาด้วยท่าทางที่ขี้เล่นแล้วเอ่ยถามอย่างจริงจัง ฉัน เคยพูดหรอว่าตอนนี้เลิกงานแล้ว?
ตอนนี้ห้าทุ่มแล้วพี่ชาย! ยังไม่เลิกงานอีกหรอ?ไร้ยาง
อายจริงๆ!
จันวิภามองเวลาอดไม่ได้ที่จะพูดตะคอกออกไป“นายไม่ ได้บอกไม่ใช่หรอว่าวันนี้ต้องทำงานนอกเวลาทำไมกดขี่ พนักงาน? ตอนนี้ฉันบาดเจ็บจากการทำงานนายจะไม่ให้ค่า ชดเชยก็ช่างแต่ยังไม่ให้ฉันเลิกงานอีก! นายมีความเป็น มนุษย์อยู่สักนิดหนึ่งหน่อยเถอะ!
“ฉันเป็นเจ้านายถ้าฉันให้เธอทำงานนอกเวลาก็ต้อง ทำงานนอกเวลา! “สุมิตรหยอกล้อไม่ฟังคำพูดของจันวิภาเลย
ทํางานนอกเวลา……
อีกนิดเดียวกันวิภาก็จะกระโดดขึ้นมาแล้วด่ากราดแล้วแต่ ขาของเธอบาดเจ็บจึงทำได้เพียงแค่พูดด่าสุมิตร”ฉันไม่สนถ้า นายอยากหักเงินเดือนก็หักไปฉันไม่สนฉันไม่ทำแล้ว
ในขณะที่พูดคุยกันวิภาไม่ได้สังเกตว่าคำพูดและการกระ ทำของพวกเขาทั้งสองคนช่างไร้เดียงสาเสียจริงราวกับเด็กสอง คนกำลังทะเลาะกัน
เมื่อได้ยินคำพูดของฉันวิภาสุมิตรก็หัวเราะออกมาเบาๆเขาเดินมาที่โซฟาแล้วเอนตัวลงข้างๆในวิภาแล้วพูดด้วย ใบหน้าที่ปลิ้นปล้อน แต่ฉันก็ไม่สนคืนนี้ฉันจะไม่ไปไหนฉันจะ นอนกับเธอที่นี่”
จันวิภายังไม่เชื่อคำพูดของเขาแล้วพูดเยาะเย้ยออกมา ทันที “ตามใจนายถ้านายอยากนอนก็นอนบนโซฟาไปที่นี่มี เตียงนอนแค่เตียงเดียวกันไม่ยกมันให้นายแน่
“ไม่เป็นไรโซฟานี้ก็ไม่เลวสุมิตรพูดด้วยใบหน้าที่ไม่ แยแสหลังจากพูดจบก็ยังปิดและราวกับกำลังเพลิดเพลิน