ตอน 223 ลองอีกครั้งกับสุมิตร
“โอเค โอเค ประธานสุมิตร ฉันผิดไปแล้ว
ขอให้คุณอย่าสร้างความวุ่นวายอีก
เรากลับกันเถอะ” จันทร์วิภาจำใจให้สุมิตรจูงมือเธอโยกไ ปโยกมา น้ำเสียงอ่อนลง:
“จะว่าไปแล้ว พวกเราอยู่ในเมือง B ตั้งหลายวันแล้ว ควรที่จะกลับได้แล้ว พรุ่งนี้ผมจะจองตั๋วกลับเมือง A หลังจากนั้นพวกเราก็กลับไปทำงานกัน ดีไหม”
“รีบไปไหน “
สุมิตรหันหลังกลับไปหาเธอแล้วหัวเรา ะ “ไม่ง่ายเลยที่จะออกมาแต่ละรอบ งั้นอยู่ที่นี่อีกสองแล้วค่อยกลับก็ได้ ”
“ประธาน
เป็นเรื่องที่ดีจริงๆหรอที่จะสูยเสียของชิ้ นนี้ไป”
จันทร์วิภาอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย
“มีความเกี่ยวข้องอะไรกัน” สุมิตรหยุดเดิน
เขาก้มหน้าลงมองไปที่จันทร์วิภา
ในแสงในดวงตาของเขา
จัทร์วิภาเงยหน้าขึ้นมาดวงตาของเขา ราวกับเห็นดวงดาว
คำพูดของสุมิตรดูเหมือนกับยังไมม่ชัดเ จน: “มีคุณอยู่ข้างกายแล้ว แค่สนใจสิ่งที่ไร้สาระอีกรอบเป็นไง” จันทร์วิภาได้แต่มองดูสุมิตรเงียบๆ
ชั่วครู่หนึ่งเธอก็คาดไม่ถึงกับคําพูดของ สุมตรเมื่อสักครู่นี้ ทำให้ ใจเต้นรัวๆเล็กน้อย ภายใต้แสงไฟส่องไปที่เขา ใบหน้าครึ่งหน้าอยู่ในเงา แบบนี้เขาดูหล่อเหลาทำให้จันทร์วิภาต
กหลุมแล้ว
ไม่ ไม่ได้
สุมิตรแค่เพียงหยอกเย้าเธอด้วยความส นุกเท่านั้นเอง พวกเขาแค่มีโอกาสเลยเล่นสนุกชั่วครา
ว….ไม่
พวกเขาไม่นับว่าเป็นการเล่นสนุกชั่วคร
าว
จันทร์วิภาไม่เคยคิดถึงเขาในความสัมพั นธ์แบบนั้นแล้วการพูดเล่นสนุกอีก ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดที่ปราถนาข องสุมิตร
จันทร์วิภาเสมองไปทางอื่นไม่ได้มองสุ มิตร พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย “ประธานได้โปรดอย่าล้อเล่นเลย ฉันเป็นเพียงแค่เลขาของคุณ พูดแบบนี้อีกเจริญศรีต้องรู้สักวันแล้วเอ ามีดมาผ่าฉันแน่เลย”
“อืม”
สุมิตรเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและถอน
หายใจ
จากนั้นเขาก็มองจันทร์วิภาอีกครั้งแล้ว พูดด้วยน้าเสียงเบาๆ
“ในคืนที่หายากเช่นนี้ อย่าพูดในสิ่งที่ทําให้รบกวนจิตใจเลย
ไปเถอะ
เราไปล่องเรือกลับโรงแรมกัน” พูดอยู่เขาก็จูงมือของจันทร์วิภาพร้อมกั บประสานนิ้วทั้งสิบนิ้วเข้าด้วยกัน การจับมือแบบนี้รู้สึกน่าอายเกินไป
จันทร์วิภาอยากจะสะบัดมือทิ้งแต่สะบัด
ไม่ออก เอาอีกแล้ว สุมิตรชายระยำผู้เผ็ดจการคนนี้พาลไม่
ยอมฟังเหตุผล ไม่นึกเลยว่าจะพูดแบบนั้นออกมา ที่บ้านของเขามีคู่หมั้นรอเขากลับไปแต่ เขากลับอยู่ข้างนอกกับผู้หญิงสง่างาม
อีกคน
ถ้าหากเธอคือเจริญศรีคงทิ้งผู้ชายแบบ
นี้ไปนานแล้ว
เมื่อรู้จุดด้อยของสุมิตรแล้ว
จันทร์วิภาคงไม่แสดงพฤติกรรมสนิทส
นมกับเขาไปมากกว่านี้ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร
จันทร์วิภาต้องควบคุมตัวเองอยู่เสมอ เขาแค่เล่นๆกับเธอเอง อย่าคิดจริง อย่าคิดจริง
ในเวลาเดียวกันจันทร์วิภาก็มีความสุขอ ยู่ในใจ
ทำไมเมื่อก่อนเธอไม่เรียนเทควันโดนะ ไม่งั้นคงต่อกรกับสุมิตรได้บ้าง มิฉะนั้นคงไม่เป็นอยู่เฉยๆอย่างในตอน นี้หรอก
น่าเกลียดชัง
ยังคงต้องอดทนกับการเล่นสนุกๆชั่วคร
าวของเขา
จันทร์วิภารู้สึกไม่พอใจอยู่ในใจ
รอเขาหาลูกชายของเขาเจอก่อนเธอจะ
รีบออกจากชีวิตของสุมิตรแน่นอน
เมื่อมองดูสภาพอากาศวันนี้ก็ยังโอเค จันทร์วิภานั่งอยู่บนเรือแล้วมองไปที่ใบ หน้าด้านข้างของสุมิตร อดไม่ได้ที่จะกระซิบถาม: “ประธาน คุณจำไม่ได้จริงๆหรอเมื่อไม่นานมานี้มีเ ด็กหนุ่มคนหนึ่งมาตามหาคนที่บริษัทแ ล้วเด็กคนนั้นได้พูดอะไรแปลกๆไหม”
เดิมทีจันทร์วิภาอยากจะพูดว่า
เด็กหนุ่มคนนั้นได้พูดว่ารู้จักคนหลอกล วงแบบคุณไหม
แต่กลัวว่าสุมิตรจะสงสัย เธอเปลี่ยนเป็นพูดอ้อมๆแทน
“เด็กผู้ชาย?”
สุมิตรมองที่จันทร์วิภาอย่างสงสัยข้องใ
จ
เรื่องต่างๆของจันทร์วิภาเขาลืมไปนาน
แล้ว
ถ้าหากวันนี้เธอไม่พูดออกมาเขาคงลืม จนหมดสิ้น
สุมิตรคิดแล้วคิดอีกแล้วพูดโดยไม่ใส่ใ
จเท่าไหร่:
“ดูเหมือนว่าจะมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนะ เกิดอะไรขึ้น”
ในที่สุดสุมิตรก็ยอมตอบคำถามก่อนหน้
าของเธอ
จันทร์วิภารู้สึกตื่นเต้นในใจ มือที่สุมิตรจับไว้รู้สึกเหงื่อจะออกแล้ว เธอถามเขาอย่างจริงจัง :
“งั้นคุณรู้หรือไม่เขาไปไหน”
“คุณถามไปทำไม
สุมิตรมองไปที่จันทร์วิภา ดูเหมือนจะมีบางอย่างในใจ สุมิตรถามอย่างใจเย็น “คุณรู้จักเขา?”
“ไม่รู้จัก” จันทร์วิภาก็เกือบจะแสดงพิรุธออกมา เมื่อเธอพูดจบเธอถึงรู้ว่าจิตใต้สำนึกแส ดงพฤติกรรมรุนแรงของตัวเอง เธอพูดเบาๆเพื่อปกปิดความจริงของเธ อและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง: “ฉันไม่รู้จักเขา
แต่ฉันรู้ว่าเขาเป็นลูกของเพื่อนฉัน หลายวันนี้บอกฉันว่ามีปัญหากับการตา มหาพ่อแล้วออกจากบ้าน ฉันฟังเพื่อนของฉันบอกว่าเขามาที่บริษั ทของคุณและรู้ว่าฉันทำงานที่บริษัทนี้เ ลยไหว้วานให้ฉันมาถามคุณหน่อย”
คำอธิบายของจันทร์วิภามีต้นชนปลาย การแสดงออกก็ดูจริงใจดี สุมิตรเลยต้องเชื่อคำพูดของเธอ
เขาคิดกับตัวเองสักพักแล้วพยักหน้า “ฟังคุณพูดแล้ว มีเด็กหนุ่มแปลกๆคนหนึ่งมาหาผมที่บริ ษัท คิดแล้วก็รู้สึกคุ้นๆ แล้วเพื่อนของคุณเป็นใคร ผมรู้จักเธอมั้ย”
สุมิตรพูดความจริง
แต่ในใจของจันทร์วิภาเชื่อมานานแล้วว่ าเขาได้ลักพาตัวลูกชายของตัวเอง ดังนั้นคำพูดของสุมิตรไม่ได้ทำจันทร์ทิ
ราเชื่อ
หลังจากจันทร์ทิราได้ยินแล้วก็รู้สึกใจห
าย
สุมิตรโกหกเธอแน่นอน
นิเวศน์รู้จักบริษัทของเขาแล้วไปหาเขา ที่บริษัทจริงๆหลังจากนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไ งต่อไปดี
ในกรณีนี้จันทร์วิภาได้ตรวจสอบกล้องว รจรทางเข้าประตูของบริษัทอย่างรอบค อบแล้วเธอก็เห็นว่าเด็กหนุ่มเข้าไปแล้ว ไม่ได้ออกมาอีกเลย
เธอไม่ได้ชำนาญทางด้านคอมพิวเตอร์ แต่ลูกชายของเธอได้สอนเล็กๆน้อยๆใ ห้กับเธอ เธอได้เข้าสู่ระบบของบริษัท เธอยังเรียนรู้ได้ไม่เต็มที่เธอจึงไม่สามา รถตรวจสอบว่านิเวศน์เข้าบริษัทแล้วไป ไหน
แต่จันทร์วิภาสามารถมั่นใจได้ว่านิเวศน์ ต้องอยู่ข้างในบริษัทแล้วถูกคนลักพาตั วไป พาขึ้นรถ
หลังจากนั้นก็ออกจากบริษัทตะวันกรุ๊ป จำกัด
นิเวศน์จะโดนโจรจริงๆจับไปหรือเปล่า จุดนี้สามารถปฏิเสธได้โดยจันทร์วิภา เนื่องจากนิเวศน์จะให้เฉพาะคนที่รู้จักห รือคนที่เชื่อถือได้เท่านั้นเข้าใกล้ตัว คนอื่นๆไม่สามารถใกล้ชิดเขาได้ ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ไปเรียนการป้องกันตัวม าจากไหน
ดูแล้วเหมือนโคนันที่ซื้อนาฬิกาแล้วมีเ ข็มพิษซ่อนอยู่ข้างใน
มีครั้งหนึ่งที่นิเวศน์ไปเล่นข้างนอกถูกจั นทร์วิภาจับได้แล้วอยากจะชกเขาทันที
นิเวศน์แอบออกมาคนเดียวเองเพราะอ ยากให้จันทร์วิภาสบายใจ นอกจากนี้เขายังตั้งใจสาธิตแอปเปิ้ลส อดเข็มนาฬิกาโผล่ขึ้นมาและกดตรงกล างไม่ถึงนาทีแอปเปิ้ลก็เปลี่ยนเป็นสีดำ ต่อจากนั้นจันทร์วิภาก็กังวลใจน้อยลง านิเวศน์จะโดนคนร้ายจับไปไหม ด้วยจุดนี้เองที่จันทร์วิภาเชื่อว่าสิมิตรต้ องเป็นคนจับตัวนิเวศน์ไป แต่ตอนนี้ มิตรยังไม่ยอมรับ ที่จริงแล้วเขาต้องโกหกเธอแน่