แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่140 ความลึกลับของความตกใจ
คุณจันวิภาตามคุณสุพจน์กลับถึงคฤหาสน์ พอถึง คฤหาสน์ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ตั้งแต่อยู่บนรถรู้สึกกระวนกระวาย ไม่ สบายใจ เหมือนจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
เขามีลางสังหรณ์แบบนี้ตลอดทาง หลังจากลงรถเห็น ใบหน้าของคุณจันวิภาไม่ค่อยดีนัก เลยถามอย่างรวดเร็ว คุณ จนวิภา สีหน้าเธอไม่ค่อยดีเลย เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?
ไม่เป็นไร คุณจันวิภาเก็บอาการที่หายใจไม่สะดวกไว้ แล้ว ยิ้มแห้งๆ ให้กับคุณสุพจน์
ยังจะบอกว่าไม่เป็นอะไร คุณสุพจน์ยังไม่ทันพูดจบ คุณสุ พจน์ก็เห็นตาของคุณในวิภาปิดลง และร่างกายของคุณจนวิภา ก็ร่วงลงพื้นอย่างช้าๆ คุณจันวิภา”
ตอนที่คุณจนวิภาตื่นขึ้นมา พระอาทิตย์ที่ใกล้จะตกดินได้ ส่องแสงเข้ามาในห้องของเธอ เขาเหม่อมองเพดาน นึกถึงเรื่อง ราวก่อนที่เธอจะเป็นลม ไม่เข้าใจตัวเองทำไมอยู่ๆถึงมีความ รู้สึกหายใจไม่ออก มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
สูญลมหายใจเข้าลึกๆพบว่าหายใจคล่องขึ้น ความรู้สึก หายใจลำบากได้ซาลอลง
แต่ก็คิดว่าเราคิดไปเองหรือป่าว คงจะเป็นเพราะว่าออก
จากตรงคุณสุมิตรแน่ๆเลย
ทำให้เราดีใจจนเกินเหตุ ก็เลยคิดไปเอง
ตื่นแล้วเหรอ คุณสุพจน์เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับข้าวต้ม มองคุณจนวิภา ด้วยความเป็นห่วง แล้วพูดว่าเมื่อกี้เธอเป็นลม ฉันตกใจแทบแย่
คุณจันวิภามองคุณสุพจน์ พยักหน้าอย่างรู้สึกขอบคุณ ยิ้ม แล้วพูดว่า วันนี้ขอบคุณคุณมากนะ
ไม่ต้องขอบคุณคุณสุพจน์ยื่นข้าวโจ๊กให้กับคุณจนวิภา ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตู คุณสุพจน์ค่อนข้าง ประหลาดใจหลังจากนั้นเขาก็ได้ขอโทษคุณจันวิภา ว่า คุณกิน โจ๊กให้เสร็จก่อน หลังจากนั้นก็พักผ่อนซะ ฉันมีธุระด่วน ต้อง ขอตัวก่อนนะ
ไม่เป็นไร คุณไปเถอะ คุณจันวิภาหยิบโจ๊กขึ้นมา ทำความ เข้าใจแล้วบอกลา
คุณสุพจน์พยักหน้า หันหลังแล้วรีบเดินออกไป
หลังจากที่คุณสุพจน์ออกไป คุณจันวิภารู้สึกว่าอยู่ในห้อง คนเดียวมันไม่มีความหมายอะไรเลยนึกถึงตอนที่มาที่นี่ครั้ง แรกเขายังไม่เคยเดินดูรอบๆๆบ้านเลยถ้างั้นวันนี้ก็ลองเดินดู ดีๆสักหนึ่งรอบ
เพราะเครื่องประดับและสไตล์การตกแต่งที่นี่ของคุณสุพจน์ มันสอดคล้องกับรสนิยมของเขามาก
คุณจันวิภารู้สึกอิสระในการเดินดูคฤหาสน์ ทันใดนั้นก็ เดินไปถึงหน้าประตูที่มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ เขาได้ยินเสียง ของคุณสุพจน์ ที่จริงก็อยากจะเดินเข้าไป แต่เรื่องที่คนข้างใน คุยกันนั้นก็ดึงดูดเธอเอาไว้
คุณแน่ใจหรอว่าเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จริงๆ คุณ สุพจน์ถามด้วยน้ำเสียงที่ต่ำและดูเย็นชา
ใช่ ฉันยืนยันได้ ตอนนี้เขาอยู่โรงพยาบาลต้องได้รับการ ช่วยเหลือ ดูจากบาดแผลและอาการของเขาแบบนี้คงไม่น่า รอด
ใครที่จะไม่มีชีวิตรอด
คุณจันวิภาอยากรู้จึงได้ยิงไปที่ประตู ไม่ทันได้สังเกตดู พฤติกรรมของตัวเองไม่ทันระวังชนเข้ากับหนังประตู ได้ยิน เสียงที่ชนปังเล็กน้อย
ใครอยู่ที่นั่นคุณสุพจน์มองไปที่ประตูอย่างระวังลูกน้อง เห็นสถานการณ์นั้นก็เดินมายังประตู เปิดประตูออกอย่างช้าๆ ต่อมาทั้งสองคนก็พบว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือคุณจนวิภา
เขารู้แล้วว่าเราแอบฟัง คุณจนวิภามองเข้าไปเห็นคนสอง คนในบ้าน เขายิ้มแห้งๆๆ ฮาย สวัสดี
คนที่คุณสุพจน์เห็นคือเขา การแสดงออกบนใบหน้ายังไม่ ผ่อนคลาย เขาถูกถามขึ้นว่า เธอมาทำอะไรที่นี่ ฉันให้เธอนอนพักผ่อนอยู่ที่ห้องไม่ใช่หรอ
รู้สึกถึงในการศึกษาค่อนข้างสง่างาม นึกถึงคำพูดเมื่อกี้ที่ คุณสุพจน์พูดว่ามีธุระด่วน เข้าใจได้ทันทีว่านี่เป็นหายนะครั้ง ใหญ่ บางทีก็รู้สึกอายที่จะก้มหัวแล้วขอโทษ ขอโทษ ฉันไม่ได้ ตั้งใจจะแอบฟังเรื่องของพวกคุณฉันแค่รู้สึกว่าเก็บตัวอยู่แต่ใน ห้องมันช่างน่าเบื่อ ก็เลยออกมาเดินเล่น คิดไม่ถึงว่า…………. โทษจริงๆ
คุณจันวิภาพูดว่า ก็นึกถึงเรื่องเมื่อกี้ที่พวกเขาสองคนคุย กัน ทันใดนั้นแววตาที่สดใส ถามไปด้วยความอยากรู้ว่า เมื่อ พวกคุณกำลังพูดเรื่องอะไร ใครประสบอุบัติเหตุ
คุณสุพจน์ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ฉันนึกถึงเรื่องที่ตัว เองพูดออกไปเมื่อกี้ฉันได้กล่าวชื่อของคุณสุมิตรออกไปหรือไม่
ยืนยันว่าไม่ได้กล่าวถึง เขารู้สึกโล่งอก พูดออกไปอย่างไม่ สนใจ ไม่มีอะไร คือน้าชายของฉันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ สถานการณ์ดูเหมือนจะสาหัสมากตอนนี้กำลังได้รับความช่วย เหลือ
“ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง คุณจันวิภาพยักหน้า จากนั้นเธอคิดได้ ว่าเธอไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อไป ฉันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วรีบเดิน ออกมา ต้องขอโทษจริงๆ งั้นพวกคุณคุยกันต่อเถอะ ฉันจะออก ไปเดินเล่น
พูดไป หันหลังแล้วรีบเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน คุณสุพจน์บอกให้หยุด เธอไม่ต้องไปล้ว ฉันเคลียร์เรื่องทั้งหมดของฉันเรียบร้อยแล้ว ถ้างั้นเราไปหาอะไร
กินกันดีกว่า
คุณจันวิภาหันมามองคุณสุพจน์ มองดูใบหน้าที่ไม่ตลก ของเขา รู้สึกโล่งอก ยิ้มแล้วตอบว่า งั้นก็ดีเลย ฉันกำลังหิวพอดี
คุณสุพจน์ยิ้มแล้วบอกให้ลูกน้องของเขาลงไปในครเพื่อ เตรียมอาหาร คุณจันวิภาไม่ได้สนใจอะไรเขาเดินไปข้างหน้า ของคุณสุพจน์ จะว่าไปแล้ว ฉันยังไม่รู้จักชื่อของคุณเลย คุณจะ ไม่ฉันจริงๆ ใช่ไหมว่าคุณชื่ออะไร
ได้ยิน คุณสุพจน์ค่อยๆยิ้ม หยักหน้าตอบว่า ไม่มช่แบบนั้น คุณตั้งใจฟังนะฉันจะพูดแค่รอบเดียว ฉันชื่อ สุพจน์
“คุณสุพจน์ คุณจันวิภาเอียงหัวเล็กน้อย หัวเราะแล้วตอบ
ว่า ชื่อนี้มันช่างน่าฟังเหลือเกิน
ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน
ทั้งสองคนก็หัวเราะ ก็คุยกันต่ออีกสักพัก ทันใดนั้นคุณจัน วิภานึกได้ว่ามีเรื่องสำคัญอยู่เรื่องนึง พูดกับคุณสุพจน์ว่า คุณสุ พจน์ แม้จะขอบคุณเรื่องที่นายช่วยฉัน แต่ฉันยังไปต่างประเทศ ฉันจะคลอดลูก อยู่ในประเทศฉันรู้สึกไม่ปลอดภัย
ความแข็งแรงของคุณสุมิตรทรงพลังมาก คุณจนวิภา เข้าใจว่าถ้าเขายังอยู่ในประเทศก็อาจจะถูกเขาจับได้
ได้ยิน คุณสุพจน์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขามองคุณจันวิภาอย่างน่าเหลือเชื่อคุณอยากคลอดลูกของคุณสุมิตร คุณ เกลียดเขาไม่ใช่หรอ
“ที่คุณพูดก็ไม่ผิด คุณจันวิภาพยักหน้าขานรับ แต่เมื่อเธอ เงยหน้าขึ้นมองคุณสุพจน์ ในแววตาเต็มไปด้วยความเต็มใจ เด็กนั้นไร้เดียงสา ฉันต้องการคลอดมันออกมา
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ คุณจันวิภาก็ยืนยันจะคลอดลูกของคุณสุ
มิตรออกมา
ขณะนั้น หัวใจของคุณสุพจน์ก็ต็มไปด้วยความอิจฉา ทั้งๆ คุณจันวิภาเกลียดคุณสุมิตร แต่ก็ยังจะคลอดลูกให้เขา และเขา ก็ยากที่จะนำคุณจันวิภาออกจากคุณสุมิตรหลังจากที่เขา ลำบากอยู่กับคุณในวิภา ก็ยังต้องดูแลลูกของคุณสุมิตรให้ เติบโตเป็นผู้ใหญ่
คุณสุพจน์ไม่ได้ตั้งใจจะหายไป เขาไตรครองเรื่องนี้มา นานมาก ในใจคิดว่าต้องการให้คุณจันวิภาอยู่ต่อ หรือว่าจะส่ง เขาไปต่างประเทศ
ไม่สามารถ อยู่ต่อในประเทศได้แล้วหรอ นั่งสมาธิ คุณสุ พจน์ก็จะคว้าโอกาสนี้ให้กับตัวเอง
ไม่ได้ คุณสุมิตรจะดิ้นรนเพื่อให้ได้ชัยชนะ ครอบครองและ แข็งแกร่ง ในอนาคตเขาจะพยายามเพื่อหาที่อยู่ของฉัน ฉันไม่ อยากให้เขาหาฉันเจอ ยิ่งไม่อยากให้เขารบกวน ดังนั้น ควรทำ ทุกอย่างให้ดีที่สุด ค่อยย้อนกลับมาช่วยฉัน คุณจันวิภาพูดจบ มองไปที่คุณสุพจน์อย่างน่าสงสาร ขอร้องให้เขาแสดงความเห็นใจ