ตอนที่ 1 ไปแลกกับชีวิตที่อิสระ
ทิศตะวันออกของเมืองขึ้น ณ โรงเตี๊ยมที่ขึ้น ชื่อที่สุดมีบ่ออาบน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ความยาว และความกว้างเกือบ สามลี้ หมอกสีขาวที่ลอยสูงขึ้น ไปมาจากสระน้ำ ทางหน้าประตูปรากฏแผ่นหลังราง ๆ ของบุรุษที่หันหลังพิงขอบบ่ออาบน้ำ
หลินซีนเยียนสะบัดกระโปรงขึ้นและค่อย ๆ นั่ง ลงที่ด้านหลังของเขา สองมือนุ่มนวลราวเนื้อหยก ค่อยเชยชมอยู่บนหลังของเขา
ยังไม่ทันเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า ก็พลันได้ยินเสียง ฉีกเบาจากที่ไหล่ มือใหญ่อันทรงพลังข้างหนึ่งจับข้อ มือของนางและกดนางลงในบ่ออาบน้ำอย่างเลือด เย็น
” ท่านอ๋อง ท่านช่างรีบร้อนจริง” นางพูดอย่าง ราบเรียบและไม่โกรธเคือง เหมือนกำลังเล่าเรื่องที่ ไม่เกี่ยวกับนาง
องครักษ์บอกว่าเจ้าคลั่งไคล้ในตัวข้า ” โม่ จื่อฟงเอามือข้างหนึ่งกดไหล่ที่เนียนนุ่มของหลินซีน เยียน อีกมือหนึ่งก็เชยคางของนางขึ้น
หลินซีนเยียนเงยหน้าขึ้นตามแรงนิ้วมือของเขา พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม
หาไม่เพคะ เรื่องจริงคือข้าอยากจะหลับนอน กับท่าน”
ความชื้นชอบและการหลับนอน สำหรับหลินซีน เยียนแล้วเป็นเรื่องที่แตกต่างกันอย่างมาก
เพียงแต่ อ่องอู่เสวียนโม่จื่อฟง ผู้ที่มีรูปร่าง หน้าตาหล่อเหลาเหมือนที่คนอื่นพูดกันมาจริงๆ
ใต้คิ้วดำคล้ายกับกระบี่ มีดวงตาที่ซ่อนไปด้วย ปริศนาทำให้คนยากที่จะหยั่งถึง ริมฝีปากที่ว่าจะ หนาก็ไม่ใช่ว่าจะบางก็ไม่เชิง ดูอ่อนนุ่มและน่าลิ้ม ลอง
“หลับนอนกับข้ารี วิธีพูดเช่นนี้ช่างแปลกใหม่ยิ่ง นัก “น้ำเสียงที่น่าดึงดูดฟังนั้น ไม่แสดงอาการโกรธ เคืองหรือยินดีชมชอบเลยสักนิด
เรื่องแปลกใหม่ยังมีอีกเยอะนะเพคะ ท่านอ๋อง อย่าเพิ่งรีบร้อน ข้าจะค่อย ๆ ทำให้ท่านได้ชมเป็น ขวัญตาเอง”
หลินซีนเยียนยังคงยิ้ม ซึ่งรอยยิ้มนั้นทรงเสน่ห์ มากกว่าตอนแรกหลานส่วน ภายในใจคิดถึงการ
เคลื่อนไหวและการแสดงออกทางสีหน้าของนางเอก หนัง AV ของญี่ปุ่น
โดยเอาแก้มไปแนบบนฝ่ามือของเขาและใช้ผิว เนียนนุ่มของนางไปลูบไล้มือใหญ่หยาบกร้านของ เขาจากนั้นนิ้วของเขาก็ถูกอม เข้าไปในปากอย่าง พอดิบพอดี
นิ้วมือร้อนรุ่มไปด้วยการหล่อหลอมของลิ้นที่ อ่อนนุ่ม สายตาของชายหนุ่มที่ซ่อนไปด้วยปริศนา มี ประกายมากขึ้น
ไอหมอกตลบอบอวล สองคนที่เปียกโชกไปทั้ง ตัว ในช่วงวินาทีที่ผิวกายได้เสียดสีกันก็เกิดเป็น ประกายไฟที่ลุกโชนไปด้วยแรงปรารถนา
ทั้งหมดนี้เกิดจากความสอดคล้องที่เกิดขึ้นอย่าง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ตอนที่รู้สึกว่าร่างกายเจ็บปวดราวกับโดนฉีก ขาด ภายในใจของหลินซีนเยียนตะโกนว่า ” ของดีๆ ล้วนถูกผู้ร้ายเอาไป! ”
ยามเที่ยงคืน หลังลมพายุคลื่นกระหน่ำได้ผ่าน
พันไป โคมไฟของบันไดไม้แข็งได้ถูกเป่าจนดับไป องครักษ์คนหนึ่งนำหินไฟมาพร้อมวางเก้าอี้ลง
เตรียมจุดโคมไฟขึ้นใหม่อีกครั้ง ได้ยินเสียงเบาๆ ที่มาจากชั้นสอง ประตูห้องถูกเปิดออก หญิงสาวงาม สะคราญนางหนึ่งก็เดินออกมาจากห้อง
เห็นเพียงหญิงสาวที่สวมใส่เสื้อผ้าที่รุ่มร่ามของ บุรุษ เสื้อนอกคลุมด้วยเสื้อคลุมขนสัตว์ เสื้อขนสัตว์ นั้นองครักษ์เห็นแล้วรู้สึกคุ้นตาอย่างยิ่ง เมื่อมอง อย่างละเอียดอีกทีพลันตกใจจนทำหินไฟที่อยู่ใน มือตกลงพื้น
เสื้อคลุมขนสัตว์นั้นเป็นของเสื้อตัวที่โปรดปราน ที่สุดของท่านอ๋อง!
ได้ยินว่าเคยมีสาวใช้คนหนึ่งทำน้ำหยดใส่เสื้อ ตัวนั้นแค่ไม่กี่หยด โดนตีจนขาทั้ง 2 ข้างหัก ทำให้ ข่าวลือที่ว่าเสื้อคลุมของท่านอ๋องนอกจากเขาแล้วก็ ไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนมาแตะต้องเด็ดขาด!
ตอนนี้ เสื้อคลุมตัวนั้นมันถูกสวมใส่อยู่บนตัวของ หญิงสาวคนนี้
หลินซีนเยียนปิดประตูอย่างเงียบเสียง และก้าว เดินลงบันไดอย่างช้า ๆ ด้วยสายตาตกตะลึงของ องครักษ์
นางทำท่าหาว ตอนก้าวเท้าเดินลงบันไดรู้สึกเพ
ลียนิดๆ ภาพตอนอยู่ที่บ่ออาบน้ำเรื่อยมาจนถึงบน เตียง แวบเข้ามาในหัวอย่างไม่รู้ตัว สีหน้านางเริ่ม แดงกำจนหัวใจเต้นแรงไม่หยุด
ตอนที่รบกันมาหลายยก กระดูกของนางเกือบ กระจุย กว่าชายคนนั้นจะหมดแรงจนนอนหลับไป นางถึงผละตัวออกจากร่างที่เหนื่อยล้านั้นมาได้
สาวใช้เสี่ยวอวี่ยืนรอรับตรงมุมหนึ่งของลาน บ้าน เมื่อเห็นนางออกมาแล้วก็รีบเดินเข้าไปหา เมื่อ เห็นว่านางสวมใส่เสื้อคลุมของชายหนุ่ม จมูกนางเริ่ม แดงและส่งเสียงร้องอย่างสะอึกสะอื้น
” ข้ายังไม่ร้องไห้ เหตุใดเจ้าถึงร้องไห้ ไปเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว กลับเรือนไปอาบน้ำ ”
หลินซีนเยียนส่ายหน้าและดึงมือของเสี่ยวอวี่ เดินออกจากลานบ้านไป
สาวใช้เสี่ยวอวี่ที่เดินอยู่ด้านหลังหลินซีนเยียน ทนไม่ไหวที่สายตาเป็นมันของเหล่าองครักษ์ที่จ้อง มา จึงส่งเสียงร้องสะอึกสะอื้น “คุณหนู ผ่านคืนนี้ไป ชีวิตของท่านก็ได้ถูกย่ำยีไปแล้ว ข้าคิดว่าในใจท่าน ต้องรู้สึกเสียใจอย่างมาก …. ”
“เสียใจ! เสียใจอะไร”หลินซีนเยียนส่งเสียง
อย่างเย็นชา “หากข้าไม่ไป ชีวิตของข้าก็ไม่ถูกย่ำยีรี ”
“คุณหนู…”เสี่ยวอวี่ส่งเสียงร้องสะอึกสะอื้นไม่หยุด
“ช่างเถอะ เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่สำคัญอีกต่อไป แล้ว เรื่องที่สำคัญคือข่าวลือที่เจ้าหามาหาได้น่าเชื่อ ถือไม่”
หลินซีนเยียนหันหน้าไป สายตาจับจ้องไปที่ หน้าต่างของชั้นสองที่อยู่ห่างออกไป หน้าต่างไม่ได้ ปิด แสงจากโคมไฟ สอง ดวงที่อยู่นอกหน้าต่าง สว่างไสวด้วยแสงสีเหลืองหม่น
เสี่ยวอวี่พยักหน้า “วางใจเถอะ ใครๆก็รู้ว่าอ่องอู่ เสวียนเป็นคนลามก ไม่เคยปฏิเสธผู้หญิงที่เข้ามาหา ลือกันว่าสตรีที่ปรนนิบัติกับเขาไม่ถึงพันก็แปดร้อย หลังทำจบก็ไม่ยอมรับอีกด้วย ฉะนั้นถึงตอนนี้ยัง ไม่มีสตรีคนไหนได้เข้าพักในตำหนักอู่เสวียน
“เช่นนั้นก็ดี “หลินซีนเยียนค่อย ๆ กำมือแน่น ” ข้าก็เกรงว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวาย หลังจบเรื่องก็ต่างคน ต่างอยู่ ไม่เกี่ยวไม่สนอีกต่อไป ช่างเป็นเรื่องที่น่า ยินดี”
เสี่ยวอวี่ไม่ได้พูดต่อ นางรู้ว่า ความคิดของคุณ หนูไม่ว่าจะอย่างไรนางก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
ที่จริง หากมีทางเลือกอื่น หลินซีนเยียนก็ไม่มี ทางเลือกวิธีอย่างนี้มาแก้ไขปัญหา
ไม่มีใครรู้ว่า ตอนที่นางได้ข้ามภพมาในยุคสมัย ที่แปลกประหลาด ช่างสะเทือนขวัญแค่ไหน!
เดิมนางเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการประดิษฐ์อาวุธ ในการแข่งขันประดิษฐ์อาวุธในแต่ละประเทศ นาง ได้รางวัลอย่างล้นหลาม ใครจะไปรู้ว่าตอนที่ทำการ ทดลองกลับระเบิดใส่ตนเองจนเสียชีวิต พอลืมตา ตื่นขึ้นมาก็พบว่าได้เดินทางข้ามภพมาอยู่ในร่างของ คุณหนูยุคโบราณที่มีชื่อแซ่เหมือนกัน
แต่น่าเสียดาย เพราะสังคมที่นี่บุรุษเป็นใหญ่ สตรีที่มีฐานะทางบ้านดีคือเครื่องมือที่บุรุษจะใช้ใน การสืบทอดชาติตระกูล ส่วนสตรีที่มีฐานะทางบ้าน ไม่ดีก็จะเห็นเป็นเพียงของเล่นที่อยู่ในกำมือของบุรุษ
ยังเหลืออีกไม่ถึง 3 งก็ต้องแต่งงานกับ ชายแก่ที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน หลินซีนเยียน เลยต้องใช้วิธีทุบหม้อข้าวจมเรือเพื่อมาทำลายความ คิดของคนเหล่านั้น
สตรีที่ไม่บริสุทธิ์แล้ว ไม่ได้รับการอนุญาตเข้า จวนแม่ทัพเด็ดขาด
นี่สิ ที่นางต้องการ!
เพียงเยื่อพรหมจารีเท่านั้น แลกกับความอิสระ ทั้งชีวิต คุ้ม
หลินซีนเยียนรู้สึกว่าคุ้มค่ายิ่งนัก
นางยืนอยู่ท่ามกลางหิมะตกด้วยแผ่นหลังที่ เหยียดตรง ชุดผ้าไหมที่อยู่บนหิมะได้โดนลากออก มาเป็นด้ายสีแดงที่งดงาม แต่นางยังคงจ้องมอง อย่างเยือกเย็นไปที่กองไฟที่ลุกโชติช่วง
ภายใต้สายตาของผู้คนที่สงสัยและเหยียด หยาม หลินซีนเยี่ยนก็ก้าวเดินออกไปอย่างไม่หวั่น เกรง
“ประเดี๋ยวก่อน”ทั้งสองคนเพิ่งไปถึงหน้าประตู ลานบ้าน หัวหน้าจินมู่ ผู้ทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันได้ใช้ มือขวางทางไปของทั้งสอง
เขาก็ได้เห็นเสื้อที่นางสวมใส่อยู่ แววตาที่ตื่น ตระหนกหลบซ่อนในใบหน้าที่ไม่มีอารมณ์แล้ว จึง พูดว่า “เสื้อบนตัวเจ้าเป็นของท่านอ๋อง”
เมื่อหลินซีนเยียนได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มทันที นาง เงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างยั่วยุ “แล้วยังไง ท่านอ่อง ของเจ้าฉีกเสื้อผ้าของข้าจนขาดไม่มีชิ้นดี ต้อง ชดใช้เสื้อคลุมตัวนี้ให้ข้าย่อมเป็นเรื่องที่สมควร หาก ที แม็ค เจ้าไม่เชื่อก็เข้าไปสำรวจดูได้”
ฉีกจนขาด…
จินมูได้ยินสตรีที่พูดเรื่องเช่นนี้ออกนอกหน้าเป็น ครั้งแรก ใบหน้าจึงแดง ก่ำ เขาตกตะลึงจนไม่รู้จะพูด อะไร
เขาจะกล้าเข้าไปสำรวจดูได้อย่างไร ฆ่าให้ตาย เขาก็ไม่กล้าก้าวเท้าเข้าไปในสมรภูมินั้นเด็ดขาด
หลินซีนเยียนดันมือที่ขวางของเขาออกไป แล้ว พาเสี่ยวอวี่เดินจากไป เสื้อคลุมขนสัตว์ที่นางสวมใส่ นั้นยาวจนลากพื้น ตอนที่นางเดินก็ปรากฏรอยจาง ๆ บนพื้นหิมะ