ตอนที่ 95 เป็นแค่คนรักเท่านั้น
นางเข้าประชิดตัวเขาทำให้ดวงตาของโม่จื่อเฟิงแคบลง เล็กน้อย หลังจากนั้นก็ชอนตัวอุ้มหลินซินเยียนเข้ามาใน อ้อมแขน เงาแสงเทียนของตัวพวกเขาค่อยๆยืดไปไกลขึ้น เรื่อยๆ เงาที่ทอดออกมาบนพื้นทำให้เห็นร่องรอยของความ ลุ่มหลง
อี้เซิงกับสาวใช้เห็นหลินซินเยียนถูกโม่จื่อเฟิงอุ้มเข้าห้อง ไป สองคนนั้นก็ก้มหน้าแบบเป็นที่รู้กันแค่สองคน ไม่มีความ เห็นใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะพูดอะไรก็ไม่เหมาะ สม
กลางคืนนั้นช่างยาวนาน เมื่อเวลาเที่ยงคืนฝนก็ตกลงมา
หลินซินเยียนได้ยินเสียงจี๊ดๆดังมาจากหน้าต่าง นางก็ เอาเสื้อผ้ามาห่อร่างตัวเองไว้แล้วลุกขึ้นไปปิดหน้าต่าง เมื่อ หันหน้ากลับมาก็พบว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงลืมตาขึ้นมา
“ท่านอ๋อง” หลินซินเยียนเดินไปที่ข้างเตียง แล้วล้มตัว นอนบนเตียงอีกครั้ง
โม่จื่อเฟิงดึงนางเข้าไปในอ้อมอกอีกครั้ง “ทำไมลุกแล้ว ละ”
“หน้าต่างปิดไม่สนิทนะ ข้าเลยลุกไปปิด” หลินซินเยียน ซบบ่าของโม่จื่อเฟิง ถ้าพูดอย่างจริงใจเลย ถ้าหากว่าไม่ ใส่ใจที่โม่จื่อเฟิงรู้อุบายของนางทำให้นางรับมือไม่ได้ ถ้า หากไม่นำชื่อของเขามาเป็นสามีที่ถูกต้องของนาง แต่ถ้าเป็นแค่คนที่ใช้ชีวิตร่วมกัน กันบาว เขา เมเตเบนคนทเลว ร้ายอะไร
เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมาย แล้วก็แยกจากกัน ทั้งสองคนมี ความรู้สึกรักใคร่หลงเหลืออยู่เล็กน้อย หลินซินเยียนค่อยๆ คิดอย่างละเอียด ถ้าหากว่านางไม่ได้มีสิ่งที่เขาต้องการ นั่น ก็หมดหวังแล้ว ไม่มีหวังก็คือไม่มีหวัง
ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียง ฟังเสียงฝนตกที่ดังมาจาก นอกหน้าต่าง ไม่มีใครพูดนานสองนาน จนกระทั่งหลินซินเยียนคิดว่าโม่จื่อเฟิงหลับไปแล้ว แต่
กลับได้ยินเสียงของเขาดังขึ้น “หลายวันมานี้มีผู้มีอิทธิพล
มาหาเจ้า เจ้าคิดจะเข้าร่วมกับใคร”
เดิมหลินซินเยียนก็ไม่ได้คิดจะนอนหลับ ค่อยๆถูกต้นคอ เขา “ท่านอ๋องไม่ได้หมายจะชักชวนข้าหรอกรี”
นี่ไม่ใช่ท่าทางของโม่จื่อเฟิงที่จะแสดงออกมาบ่อยๆ ถึง แม้ว่านางจะไม่เข้าใจสถานการณ์ของบ้านเมือง แต่รู้ว่าใน มีอของอ่องอู่เสวียนมีกองกำลังทหารในมือ เล่ากันว่าเป็น ทหารที่ยอดเยี่ยม แต่เขาก็แน่ใจว่านางเลือกเกาะต้นไม้ แต่ ก็ยังปล่อยให้นางทำอะไรได้ตามใจ นี่ก็ยังทำให้นางรู้สึกว่า เป็นที่ที่ไม่ปลอดภัยอยู่ตลอด
โม่จื่อเฟิงถอนใจเบาๆ “คนของเจ้าเป็นของข้า ข้ายังจะ อยากดึงลูกค้าเจ้าอีกหรือ สำหรับเรื่องที่มีคนอยากได้เจ้า สำหรับข้าแล้วมีผลกระทบอะไร เจ้าได้กลยุทธ์ของเขา ข้า จะไม่สามารถเอาไปจากมือเจ้าได้จริงหรือ จริงๆข้าไม่ได้มี ความสูญเสียอะไร แล้วทำไมจะต้องขัดขวาง
นี่เป็นเหตุผลที่แท้จริงหรือ ไม่รู้เลยหรอว่าวธีการทีเขา พูดนี้ทำให้นางไม่เชื่อ แต่ว่านางรู้ว่าคำตอบที่เข้าให้นางมา นั่นคือเขาไม่สามารถให้ข้อมูลอื่นๆที่มีประโยชน์ได้
หลินซินเยียนไม่ถามอีก คิดแล้วค่อยถามอีกประโยค “เมื่อผ่านไปอีกหนึ่งเดือนก็จะถึงงานแต่งของท่านอ๋องแล้ว จะต้องเป็นเจ้าบ่าวแล้ว ตื่นเต้นหรือไม่”
โม่จื่อเฟิงมองมาที่ตาของนางอย่างลึกซึ้ง มือใหญ่ของ เขาลูบตัวของนาง “ทำไมหรือ เจ้าไม่พอใจที่ข้าจะแต่งงาน กับหญิงอื่นใช่หรอไม่” เขาไม่รอนางตอบเขาก็พูดต่อว่า “ไม่ใช่ว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น จวนอู่เซวียนอ่องก็มีนาง สนม ต่อให้ไม่ใช่เซียวฉางเยว่ก็ยังมีคนอื่นได้”
ใช่ ยังมีคนอื่นอีก ในที่สุดผู้หญิงแบบที่มีตำแหน่งฐานะ อย่างไรถึงจะยืนอยู่ข้างกายเขาได้ อย่างไรก็ไม่มีทางเป็น นาง
บางครั้ง หลินซินเยียนไม่เข้าใจเลย สุดท้ายแล้วนี่มันคือ หลักการอะไร เขายังสามารถพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้านาง อย่างสบายใจ ดูเขาแล้ว นางไม่ได้มีคุณสมบัติอะไรที่จะ เป็นนางสนมเลยเรื่องแบบนี้ไม่เห็นต้องอธิบาย อีกอย่าง เรื่องที่มีเหตุผลมากๆจิตใจของเขาคงไม่รู้สึกว่ามีปัญหา อะไร
ดังนั้นหลินซินเยียนก็คิดอีก เขากับนาง อย่างไรก็เป็นคน รักกัน
หลินซินเยียนยิ้มกระด้าง “ถ้าเช่นนั้นข้าคงทำได้แค่ อวยพรให้ท่านมีความสุขกับการแต่งงาน หลังจากงานแต่งของท่าน ท่านจะมาที่นี่ได้หรือไม่ ให้เซียวฉางเยว่ดูแลผู้ชายของนาง ถ้าทาโด ยกอยากจ
“อาจจะมาได้ไม่บ่อย”
ถ้าอย่างนั้นก็ดีมากเลย หลินซินเยียนยังคงยิ้มอยู่ “ถ้า เช่นนั้นข้าคงเสียใจ แต่ว่าข้าก็เข้าใจ ท่านอ่องปกป้องข้า ถ้าหากนางสนมพบข้า ไม่รู้ว่าจะทารุณข้าอย่างไร”
มารดามันสิ เป็นมือที่สามที่ให้คนอื่นพบเจอไม่ได้ นาง ทำได้แค่เพียงแสดงว่าเบิกบานใจนั้น ในสังคมที่มีหลักการ ผู้ชายเป็นใหญ่นี้มันทำให้นางหมดอาลัยตายอยากเหลือ เกิน
โม่จื่อเฟิงหัวเราะเยาะ โอบนางไว้ไม่พูดอะไรทำเพียงแค่ ฟังเสียงฝนตกต่อไป
เช้าวันที่สองเมื่อฟ้าแจ้งแล้ว เมื่อหลินซินเยียนตื่นขึ้นมาก็
พบว่าโม่จื่อเฟิงไปแล้ว ความสัมพันธ์เช่นนี้เหมือนกับการ
แอบคบชู้อย่างไรอย่างนั้น
ถนนใหญ่ตรอกเล็กในวันนี้มีใบประกาศแปะอยู่ เป็นใบ ประกาศที่ออกโดยบ้านตระกูลหนานกง เป็นภาพวาดของ คนคนหนึ่ง คนที่พวกเขาต้องการตามหาก็คือ หลินซิน เยียนที่ปรากฏตัวที่โรงน้ำชาเมื่อวาน
หลินซินเยียนเปลี่ยนชุดเป็นผู้ชาย ไปตลาดขายทาสกับ หลี่หลง ระหว่างทางก็เห็นรูปประกาศไม่น้อยนางคาดไม่ถึง เลยว่า หนานกงฉีเวลาทำเรื่องราวจะต้องทำให้ใหญ่โตเช่น นี้ ไม่เกรงกลัวใครในโลกหล้า
หลี่หลงบอกว่าเมื่อวานตามคุณชายอู่มาที่ร้านเล็กๆที่นี้ แล้วก็พบว่าที่คงจะไม่กลับตาลปัตรแน่ จากที่เขาตรวจสอบ ดู ที่นี่น่าจะเป็นที่ที่จัดแรงงานให้กับคนมีเงินมีอำนาจ ดังนั้น จึงพาหลินซินเยียนมาดูในวันนี้ ทั้งสองคนเดินทางมาถึงที่ขายแรงงานก็ใช้เวลาราวถ้วย
ชา สุดท้ายก็เดินมาถึงร้านที่หลี่หลงพูดถึง ร้านนี้ปิดประตู
อยู่ เพิ่งจะมีผู้ชายคนหนึ่งมาเคาะประตู เสียงเคาะสั้นสาม
ครั้งเคาะยาวสองครั้งก็มีคนมาเปิดประตูจากด้านใน แล้ว ผู้ชายคนนั้นก็เดินเข้าไป “เจ้าแน่ใจนะว่าคุณชายอู๋เข้าไปในนั้นแล้ว” หลินซิน
เยียนถาม
“ครับ ข้าเห็นแน่ๆ อีกอย่างจากที่ข้าเห็น เมื่อวานเขา เข้าไปพระอาทิตย์ตกถึงจะออกมา ดังนั้นวันนี้ถ้าเขาเข้าไป อย่างไรก็ต้องใช้เวลานาน” หลี่หลงพูดจากแบบดูถูกมาก เขาถือโอกาสในช่วงเทศกาลปิดบังหูตาคน คุณชายอู่คนนี้ คงเล่นสนุกอย่างเต็มที่เลยสินะ
“เมื่อตอนมา เห็นรูปวาดที่แปะอยู่ตามถนนรีไม่” หลินซิน เยียนหยุดอยู่หน้าร้านแล้วถามหลี่หลง
หลี่หลงพยักหน้า “เห็นแล้ว รูปวาดนั้นเห็นได้ชัดเลยว่า เป็นแม่นางหลิน แต่ข้าเห็นท่านไม่ได้พูดถึง ก็เลยไม่ได้ ถาม”
หลินซินเยียนจ้องอย่างประหลาดใจ มองสายตาที่รู้สึก ชื่นชมของหลี่หลง หลี่หลงคนนี้ถึงแม้ว่าจะไม่รู้หนังสือ แต่ ก็เป็นคนที่นับว่าฉลาดมากทีเดียว “ในภาพวาดนั้นคือข้าเอง คนที่ตระกูลหนานกงต้องการตัวก็คือข้า ตอนนี้เจ้าไป แกะป้ายประกาศออกแล้วเอาไปให้บ้านตระกูลหนานกง แล้วบอกว่าข้าอยู่ที่นี่ ”
“หา ข้าไม่รู้หนังสือ แต่ว่าฟังจากที่คนรอบๆพูดถึง ประกาศนี้ ดูเหมือนว่าการที่ตระกูลหนานกงต้องการตัว ท่านนั้นไม่ใช่เรื่องดีแน่ ถ้าหากว่าข้าไปรายงานข่าว พวก เขาก็ต้องมาแน่ ไม่ใช่การสร้างความวุ่นวายให้ท่านหรือ ตระกูลหนานกงร่ำรวยล้นฟ้า ไม่ต้องพูดถึงตระกูลหนานกง หรอก แค่คนที่ทำงานให้ตระกูลหนานกง พวกเรายังสู้ไม่ได้ เลย” หลี่หลงเป็นกังวลอยู่นานถึงจะเดินไป