แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่157สายลับที่ไล่ตามมา
ความจริงสามารถพิสูจน์ได้หมิงฉีไม่ได้มีเพียงรถม้าแต่ ยังเป็นรถม้าที่กว้างและนั่งสบายอีกด้วย
ภายในรถม้าที่กว้างขวางราวกับห้องขนาดเล็กหลินซีน เยียนนั่งอยู่ริมหน้าต่างส่วนหมิงฉีเนื่องจากได้รับบาดเจ็บ จึงนอนอยู่โชคดีที่รถม้ากว้างเพียงพอดังนั้นเขาเป็นถึงบุรุษ ผู้หนึ่งเมื่อนอนลงแล้วก็ยังคงเหลือพื้นที่ไม่เบียดเสียดกัน มากเท่าไร
หมิงฉีได้มอบเงินให้กับนายพรานสองผัวเมียไปจำนวน หนึ่งถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่ได้ช่วยชีวิตเขาเดิมสองผัวเมีย ไม่ต้องการแต่ทนคำแนะนำของหลินซีนเยียนไม่ไหว สุดท้ายก็รับเงินนั้นมาเพียงแต่เงินติดตัวของหลินซีนเยียน มีไม่มากเมื่อเห็นหมิงฉีมอบเงินให้แล้วเธอก็ไมต้องให้อีก ตอนที่จะจากไปก็ได้ดัดแปลงอาวุธล่าสัตว์ให้กับนายพราน แล้ว
แม้จะเป็นการดัดแปลงง่ายๆแต่เทียบกับประโยชน์ ใช้สอยเมื่อก่อนแล้วถือว่ายอดเยี่ยมกว่ามากหากว่าในภาย ภาคหน้ามีโอกาสเธอตั้งใจจะทำอาวุธล่าสัตว์ให้กับพวก เขาชุดหนึ่งอย่างแน่นอน
ผู้หญิงคนหนึ่งเชี่ยวชาญในการสร้างอาวุธนายพรานสอง ผัวเมียรู้สึกประหลาดใจมากโดยเฉพาะสายตาที่เฉียบแห ลมของหมิงฉีทุกวันเขาต้องคลุกคลีอยู่กับอาวุธทางการห ทารเขาเป็นคนที่เข้าใจเป็นอย่างดีภายนอกอาจจะดูสนุกสนานแต่ภายในมองได้อย่างทะลุปรุโปร่งหมิ่งฉีย่อมรู้ อยู่แล้วว่าฝีมือของหลินซีนเยียนถือว่าเป็นช่างฝีมือที่ไม่ ธรรมดาเลย
รถม้าคันใหญ่ขับเคลื่อนอยู่ถนนหลักไม่ทันไรก็เป็นที่ ดึงดูดสายตาของคนที่ชอบสงสัยคนจากทางการล้วนมา ตรวจสอบอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถรู้ฐานะที่แท้จริง ของหมิงฉีได้ก่อนหน้าทุกครั้งที่มีคนเข้ามาตรวจสอบคน ของเขาก็ส่งเหล่าคนนั้นจากไปอย่างรวดเร็ว
หลินซีนเยียนรู้สึกสงสัยมากมีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่คนของ เขาได้ส่งคนที่มาตรวจตราจากไปเพียงแวบหนึ่งมองครั้ง เดียวก็รู้โดยทันทีที่แท้พวกเขาก็ใช้วิธีบุ่มบ่ามอย่างง่ายๆ นั่นก็คือการให้เงิน
ตั๋วเงินที่พับซ้อนกันแผ่นหนึ่งสอดเข้าไปในมือของคน ที่มาตรวจตราเหล่านั้นเมื่อได้เยอะจนพอใจแล้วคนที่ตรวจ ตราเหล่านั้นก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปจากนั้นก็เดินจากไปด้วย ความมีเมตตากรุณา
คนพวกนี้ที่แท้เป็นเศรษฐีใหม่ที่ชอบอวดรวยอย่างมาก เมื่อมีคนเข้ามาก็ยัดตั๋วเงินทีละใบให้นี่เป็นวิธีที่พวกเศรษฐี ชอบทำเดิมพื้นเพทางบ้านแล้วก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก
จะว่าไปดีเหมือนกันหลินซีนเยียนเห็นว่าการขอติดตาม เขามาด้วยถือว่าทำให้การเดินทางในครั้งต่อไปสะดวกมาก ยิ่งขึ้น
อีก3วันก็จะไปถึงชายแดนของแคว้นหนานเยว่ได้เพียง ข้ามด่านตรวจไปก็สามารถเข้าเขตแดนของอาณาจักรเป่ยหมิงแล้ว
ชายฉกรรจ์สวมเครื่องแบบคนหนึ่งเดินมาข้างรถม้าแล้ว รายงานหมิงฉือยู่บนรถม้า“นายท่านมีคนแอบตามพวกเรา มาหนึ่งชั่วยามแล้วต้องรีบจัดการหรือไม่?”
“หนึ่งชั่วยามหรือ?”หมิงฉีกกำลังชงชาอยู่บนรถม้าเมื่อได้ พักผ่อนมาหลายวันสีหน้าของเขาก็ดีขึ้นมากเพียงแต่หลาย วันมานี้ม้ายังไม่หยุดเดินเขากับหลินซีนเยียนก็นั่งอยู่บนรถ ม้าด้วยกันมาโดยตลอดดังนั้นหลายวันนี้จึงไม่ได้ชำระ ร่างกายทำให้เขารู้สึกรำคาญใจในเมื่อเป็นเช่นนี้แต่เขาก็ ยังคงรักษากิริยาที่สง่าผ่าเผยของตนเองอยู่บุคลิกภาพอัน สูงศักดิ์โดยกำเนิดเช่นนี้ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถปิดบังได้
“ใช่แล้วขอรับหนึ่งชั่วยามแล้วแม้ไม่รู้ว่าเป็นใครแต่พวก เขาก็ตามพวกเรามาตลอดทางโดยไม่จากไปไหนทั้งยังไม่ ได้เคลื่อนไหวอะไรด้วยคิดว่าไม่ใช่คนจากอาณาจักรเป่ยห มิงที่ไล่ฆ่าพวกเรา”ชายฉกรรจ์สวมเครื่องแบบได้เอ่ยขึ้นอีก
หมิงฉีดื่มชาไปจิบหนึ่งแล้วสั่งการ”ก็จริงคนจากอาณา จักรเป่ยหมิงที่ไล่ฆ่าพวกเราคงไม่รอนานขนาดนี้หรอก ไม่ใช่คนจากอาณาจักรเป่ยหมิงก็เป็นคนจากแคว้นหนาน เยว่คิดหาวิธีหลอกล้อพวกนั้นแล้วกำจัดทิ้ง”
เขาเอ่ยขึ้นมาโดยไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรเลยตัดสิน โทษประหารชีวิตคนๆหนึ่งได้อย่างง่ายดาย
คิ้วของหลินซีนเยียนขมวดเข้าหากันแต่ยังคงนั่งอยู่ริม หน้าต่างเธอไม่ชอบความรู้สึกที่เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา ราวกับคนที่อยู่ตรงหน้านี้มีฐานะสูงส่งที่ไม่สนใจชีวิตของผู้อื่น
เมื่อชายฉกรรจ์สวมเครื่องแบบรับคำสั่งแล้วก็จากไปห มิงฉีเห็นหลินซีนเยียนมีสีหน้าไม่ค่อยดีจึงเอ่ยขึ้นมาอย่าง ขบขัน”ทำไมกลัวหรือ?”
“กลัว”หลินซีนเยียนเอ่ยอย่างเรียบง่ายแล้วเลิกม่านในรถ ม้าเห็นมองทิวทัศน์ด้านนอกประหนึ่งไม่อยากพูดคุยกับเขา
บางครั้งเธอรู้สึกว่าตนเองนั้นอ่อนแอเธอเป็นเพียงผู้หญิง ธรรมดาคนหนึ่งทำไมต้องมาพบคนชนชั้นสูงที่มีอิทธิพล พวกนี้ด้วยฐานะของคนพวกนี้เต็มไปด้วยการฆ่าฟันแกร่ง แย่งและถึงแก่ความตายเธอแค่อยากจะใช้ชีวิตอย่างสงบ สุขกับคนใกล้ชิดเท่านั้นดังนั้นคนพวกนี้ทำให้เธออยากจะ หนีไปไกลๆหนีอออกจากบ่วงของพวกเขาไปให้ไกลที่สุด
เธอไม่อยากเชื่อมสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับหมิงฉีเท่าไรดัง นั้นจึงตั้งใจไม่ประจบประแจงเขาเธอพยายามอย่างเต็มที่ที่ จะพูดคุยกับผู้ชายคนนี้ให้น้อยที่สุดแต่หลายวันนี้อยู่ในรถ ม้าคันเดียวตลอดถึงจะไม่ได้พูดคุยกันแต่ก็รู้สึกเข้าใจกัน และกันมากขึ้น
อย่างเช่นเธอจะตอบคำถามเขาอย่างง่ายๆเมื่อเขาเอ่ย ถามที่จริงเธอไม่อยากพูดคุยกับเขาแล้ว
หมิงฉีก็ไม่บังคับเธอหลังจากดื่มชาไปแล้วพักหนึ่งก็ได้ ยินชายเสียงของฉกรรจ์สวมเครื่องแบบคนนั้นอีกครั้ง
“นายท่านคนได้จัดการแล้วเป็นสายลับคนหนึ่งของแคว้น หนานเยว่ขอรับเพียงแต่คนผู้นั้นปากแข็งมากเมื่อกำลังจะตายก็ไม่ปริปากเลยว่าเป็นคนของใครแต่วรยุทธ์ของเขาดู แล้วเกรงว่าไม่ใช่คนธรรมดาคนของพวกเรา5คนต้องเข้า รุมถึงจะจัดการคนผู้นั้นได้”
“เพียงแค่คนเดียวมีวรยุทธ์เก่งกาจขนาดนั้นเลยหรือคนที่ ลงมือของแคว้นหนานเยว่นอกจากอ่องอู่เสวียนเว่ยจวิ้น และฮ่องเต้หนานเยว่แล้วใน3คนนี้คิดว่าจะเป็นใคร?การที่ ข้ามาซ่อนตัวอยู่แคว้นหนานเยว่เช่นนี้ก็ไม่ได้เปิดเผยตัวตน ที่แท้จริงออกไป”หมิงฉีพูดพลางมองหลินซีนเยียนที่นั่ง เงียบกริบอยู่เขาเลิกคิ้วแล้วเอ่ยถาม “แม่นางหลัวคิดว่าเป็น ใครหรือ?”
ตอนที่เขาทายว่าเป็นอู่เซวียนอ่องในใจของหลินซีน เยียนก็คิดว่าอู่เซวียนอ่องต้องส่งคนมาสืบข่าวของเธอไป ทั่วสารทิศอย่างแน่นอนเพียงแต่เธอไม่คิดว่าคนของอู่เซวีย นอ๋องจะเก่งกาจขนาดนี้ท่านหนานกงก็ได้เตรียมการ มากมายมาขนาดนี้แล้วยังจะมีตามเธอมาได้อีกเหรอ
ในใจจองเธอรู้สึกหวาดกลัวหากไม่ใช่เพราะได้มาเจ อกับหมิงฉีโดยบังเอิญในขณะนั้นเธอเกรงว่าจะถูกพบตัว แล้วส่งกลับไป
“คุณชายหมิงล้อเล่นเกินไปแล้วท่านล้วนพูดแต่เป็นคน ของแคว้นหนานเยว่ข้าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งไหนเลยจะรู้จัก แล้วจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเป็นคนของใครกัน?”
“เป็นเช่นนี้เอง”หมิงฉีหัวเราะอย่างรู้สึกสนใจก็ไม่รู้ว่าเขา จะเชื่อที่หลินซีนเยียนพูดหรือไม่เพียงเอ่ยขึ้นมาโดยไม่ สนใจใยดี”หลายวันนี้บนถนนทางหลวงครึกครื้นกว่าตอนที่ข้าไปมากมีผู้คนเดินไปมาขวักไขว่กันเต็มไปหมดข้าจึงได้ ส่งคนไปสอบถามถึงได้รู้ว่าที่แท้ผู้หญิงของอู่เซวียนอ่อง หนีไปอู่เซวียนอ่องส่งคนออกตามไปทั่วข้าล่ะสงสัยจริงๆว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่ถึงสามารถทำให้อู่เซวียนอ๋องค นึงหาคิดถึงได้มากมายขนาดนี้แม่นางหลัวก็เป็นคนเมือง เพิ่งซีไม่ใช่หรือ?เคยได้ยินเรื่องของอู่เซวียนอ่องบ้างหรือ ไม่?”
คิ้วของหลินซีนเยียนค่อยๆขมวดเข้าหากันแล้วหันไป เผชิญกับสายตาของหมิงฉี”ชื่อเสียงของอู่เซวียนอ่องมีใคร บ้างที่ไม่เคยได้ยิน? โดยเฉพาะผู้หญิงเมืองเฟิ่งซีใครบ้างที่ ไม่รู้ว่าอู่เซวียนอ่องเป็นหนุ่มเจ้าสำราญเพียงใดเขาเคย หลับนอนกับผู้หญิงมาหลายคนในเมื่อเขาออกไล่ตามผู้ หญิงคนหนึ่งงั้นก็แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นได้ล่วงรู้ความลับ อะไรของเขา?”