ตอนที่158สถานการณ์ที่อึดอัด
การคาดการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลแบบนี้คล้ายกับความคิด ของคนทั่วไปหลินซีนเยียนคิดว่าการตอบคำถามแบบนี้ อาจจะทำให้หมิงฉีลดความหวาดระแวงลง
“อ้อ…เป็นเช่นนี้เองหรือเพียงว่า…แม่นางหลัวดูเหมือนจะ รู้สึกเลื่อมใสอู่เซวียนอ๋องผู้นั้นโดยปกติแล้วจะไม่ค่อยพูด ค่อยจาพอเอ่ยถึงอู่เซวียนอ๋องกลับพูดได้มากมายถึงขนาด นี้ “หมิงฉีจ้องมองด้วยความสงสัย
หลินซีนเยียนชะงักไปครู่หนึ่งแล้วรีบหันหน้ากลับไปเอ่ย ขึ้นอย่างไม่สนใจใยดี”คุณชายหมิงช่างคบหาด้วยยากยิ่ง แท้พูดมากเจ้าก็ข้องใจพูดน้อยเจ้าก็ยังข้องใจอีกเช่นนั้นไม่ พูดจะดีกว่า”
ถึงใบหน้าจะนิ่งเฉยแต่ภายในใจของหลินซีนเยียนกลับ พรั่นกลัวคนที่มีฐานะสูงส่งเช่นนี้ที่แท้ก็เป็นพวกเจ้าเล่ห์ เพทุบายทำไมทุกคนต่างก็เฉลียวฉลาดได้ถึงเพียงนี้ ?บางที หากเป็นคนธรรมดาก็คงจะไม่สามารถมีอิทธิพลขึ้นมาได้ หรอก
เธอหวังจะหนีคนเหล่านี้ไปไกลๆแล้วใช้ชีวิตอย่างเงียบ
สงบ
ภายในรถเงียบสงัดลงอีกครั้งเหตุการณ์นี้ไม่ทำให้รถม้า ต้องล่าช้าลงหลังจากผ่านถนนเส้นนั้นไปแล้วก็ยังมีคนเข้า มาตรวจสอบอยู่เรื่อยๆแต่ก็ถูกคนของหมิงฉีขับไล่ไปหมด คนเหล่านี้ทยอยกันมาอย่างไม่ขาดสายในใจของหลินซีนเยียนรู้สึกแปลกๆกลัวว่าจะโดนคนเหล่านั้นจะแกะรอยตาม มาได้ แต่ถือว่าโชคดีหมิงฉีเก่งเกินกว่าที่เธอคาดการณ์เอาไว้ เขาสามารถจัดการทุกอย่างได้ครั้งนี้ถือว่าเธอโชคดีอีครั้ง
ที่เลือกติดรถคันนี้ไปด้วย
ในยามพลบค่ำของวันนี้เมื่อตะวันลาลับขอบฟ้าในที่สุด รถม้าก็ได้มาถึงเมืองชายแดนของแคว้นหนานเยว่ที่ติดกับ อาณาจักรเป่ยหมิงแล้วเพียแค่งผ่านเมืองนี้ไปได้ก็ถึง เขตแดนของอาณาจักรเป่ยหมิง
ในฐานะเป็นเมืองชายแดนย่อมมีคนดีและคนเลวอยู่ ปะปนกันถึงยังไงก็เป็นเมืองอยู่ห่างไกลจากราชสำนักคนที่ ทำผิดกฎหมายจะมาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเช่นนี้ ถึงจะอยู่ติดชายแดนแต่คนที่นี่มีรสนิยมสูงในยามพลบค่ำ ผู้คนส่วนใหญ่จะอยู่ตามท้องถนนกัน
คนของหมิงฉีหาโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอยากได้ ห้องส่วนตัวเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนในค่ำคืนนี้
นอนกลางดินกินกลางทรายมาหลายวันนี้ย่อมทำให้ผู้คน รู้สึกเหนื่อยล้าเกินจะทนแต่คนของหมิงฉีไม่มีอาการง่วง หงาวหาวนอนเลยแต่อย่างใดทุกคนล้วนไปจัดการเรื่อง ของตนเองอย่างขยันขันแข็ง
“บอกให้เสี่ยวเอ้อเตรียมถังน้ำร้อนมาให้ข้าด้วยข้าอยาก ชำระร่างกาย”สิ่งที่หมิงฉีเกินว่าจะทนไหวก็คือกลิ่นเหม็นที่ ไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน
“ขอรับนายท่าน” เมื่อผู้คนนั้นรับคำสั่งก็หมุนตัวแล้ว เตรียมจะเดินไป
หมิงฉีบอกให้เขาหยุดแล้วชี้ไปยังหลินซีนเยียน” ให้คน เตรียมถังน้ำร้อนให้นางด้วย”
คนผู้นั้นหันกลับไปมองหลินซีนเยียนที่เนื้อตัวมอมแมม หลังจากที่ขานรับก็เดินจากไป
ห้องของหลินซีนเยียนอยู่ข้างห้องของหมิงฉีเมื่อเธอเดิน เข้าห้องไปก็ปิดประตูทันทีในที่สุดจะสามารถถอนหายใจ อย่างโล่งอกได้เธอยกแขนเสื้อมาดมกลิ่นเหม็นตลบยากยั้ง จะทนไหวชุดนี้เป็นชุมที่สวมในวันที่ทำแผลให้กับหมิงฉี ตอนที่ทำแผลอยู่นั้นมีเลือดสดกระเด็นมาเปรอะเปื้อน จำนวนมากหลายวันนี้ไม่มีสถานที่ให้ซักผ้าเปลี่ยนชุดชุดนี้ ได้หมักหมมมาหลายวันกลิ่นเหม็นนี้มันน่าอนาถยิ่งนัก
บนโต๊ะเล็กที่อยู่ริมหน้าต่างมีกระจกทองเหลืองบานเล็ก ตั้งอยู่เมื่อเธอหยิบมันขึ้นมาส่องตนเองตอนที่เห็นหน้าดำ ปัดปีในกระจกทองเหลืองบานนั้นมุมปากก็กระตุกขึ้นมาดู เหมือนว่าตอนที่ทำแผลให้ในวันนั้นเลือดที่กระเด็นมาเลอะ บนใบหน้าเมื่อได้โดนลมคลุกฝุ่นมาหลายวันรอยเปื้อน เลือดนั้นก็เลยเจือจางประหนึ่งว่าโดนฝุ่นกลบไปอีกชั้น ทำให้สภาพใบหน้าตอนนี้ดูไม่ได้เลย
ตอนนี้เธอรู้สึกนับถือหมิงฉีจริงๆดูเหมือนว่าคนรวยที่ไม่ ธรรมดาแบบเขาสามารถอดทนกับสารรูปของเธอได้โดย เฉพาะใบหน้าที่งดงามราวกับงานศิลปะของเธอ
ไม่ทันไรเสี่ยวเอ้อก็นำน้ำร้อนเข้ามาให้ตามมาด้วยลูกน้องของหมิงฉีคนหนึ่งตอนที่เขาเดินเข้ามาได้ถือชุดสตรี มาให้ชุดหนึ่งน่าจะเป็นชุดของพวกสาวใช้ในโรงเตี้ยมสวม กันแต่ถือว่าสะอาดใช้ได้
หลังจากที่หลินซีนเยียนขอบคุณแล้วทั้งสองคนส่งเสร็จก็ เดินออกไปเมื่อประตูปิดลงเธอก็รีบถอดชุดแล้วก้าวขาลง ในอ่างทันที
พอน้ำอุ่นได้ห่อหุ้มร่างกายเธอก็ถอนหายใจยาวอย่าง รู้สึกสบายความขมขื่นที่วิ่งเต้นมาหลายวันนี้ราวกับว่าใน เวลานี้สามารถปล่อยวางได้แล้ว
หลังจากที่เธอนั่งลงแล้วหลับตาลงอย่างเงียบสงบก็เริ่ม ยกมือขึ้นมาลูบไล้ถูไถให้ตนเองเมื่อชำระร่างกายสะอาด แล้วก็พบว่าสีของน้ำในอ่างนั้นดูไม่ได้เลยเธอรู้สึกหน้าแดง ขึ้นมาเพิ่งจะเคยสกปรกแบบนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตเลย
เมื่อเธอสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วก็คิดว่าหากเสี่ยวเอ้อเข้า มาเห็นน้ำที่อาบสกปรกแบบนี้ก็รู้สึกเคอะเขินแค่ไหนเธอจึง เตรียมจะเทน้ำในอ่างทิ้งด้วยตนเองตอนที่เธอยกน้ำไปใน ลานบ้านแล้วเทน้ำสกปรกทิ้งแล้วเมื่อหันกลับมาก็เห็นลูก น้องของหมิงฉีพาผู้หญิงที่มีทรวดทรงสะโอดสะองยั่วยวน อย่างมาก
แม้ว่าเป็นการช่วงฤดูใบไม้ผลิแต่อากาศก็พอหนาวอยู่ บ้างผู้หญิงคนนั้นเพื่ออวดหุ่นของตนเองแล้วจึงสวมใส่เพียง ชุดผ้าฝ้ายที่โปร่งบางสามารถมองเห็นภายในชุดเป็นเงาตะ คู่มๆได้นางแต่งหน้าได้อย่างงดงามตรงหว่างคิ้วเผยเสน่ห์ อันยั่วยวนทำให้คนหลงใหล
ผู้หญิงแบบนี้ไม่ว่าใครก็ดูออกว่ามาจากหอโคมเขียว
ลูกน้องของหมิงฉีคิดไม่ถึงว่าจะมาเจอหลินซีนเยียนใน ลานบ้านใบหน้าของเขาฉายแววเคอะเขินตอนที่เขาเห็น ใบหน้าของหลินซีนเยียนได้อย่างชัดเจนแล้วก็อดไม่ได้ที่ จะตะลึงในความงามเขามองผู้หญิงที่อยู่ข้างกายตนแล้ว หันไปมองหลินซีนเยียนอีกครั้งราวกันรู้สึกข้องใจแต่ไม่ได้ เอ่ยอะไรออกมาเพียงนำผู้หญิงคนนั้นเดินไปที่ห้องของห มิงฉี
“นายท่านหาคนมาให้แล้วขอรับ”คนผู้นั้นเคาะประตูห้อง แล้วเอ่ยพูดอย่างนอบน้อม
ไม่นานเสียงเกียจคร้านของหมิงฉีก็ดังมาจากในห้อง” ให้ นางเข้ามาได้”
คนผู้นั้นผลักประตูแล้วให้ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้าไปจากนั้น ก็ปิดประตูลงอย่างรวดเร็วราวกับประตูห้องเพิ่งจะเปิดออก แล้วปิดลงโดยฉับพลันหลินซีนเยียนเพียงเห็นแค่ไอร้อน ระอุจากอ่างอาบน้ำภายในห้อง
หากใครบอกว่าไม่อึดอัดคงจะเป็นคนหลอกลวงเธอเพียง อาบน้ำกลับมาเห็นหมิงฉีเรียกนางคณิกาเอ่อ…นี่มันไม่รู้สึก อึดอัดเหรอ?
แต่ก็ยังดีเธอก็ไม่ใช่หญิงสาววัยแรกแย้มอะไรแต่เป็นผู้ หญิงสมัยใหม่ที่เปิดกว้างกับทุกสิ่งดังนั้นความรู้สึกอึดอัด นั้นก็ได้หายเป็นปลิดทิ้งภายในใจกลับมองผู้ชายเหล่านี้ไม่ ออกที่แท้ผู้ชายในใต้หล้านี้ก็เหมือนกันหมดยิ่งในสมัย ปัจจุบันตอนที่ผู้ชายเหล่านั้นออกไปทำงานก็มักจะมีสิ่งต่างๆมาล่อตาล่อใจแต่ไม่คิดว่าผู้ชายในสมัยก่อนจะไม่ ยกเลิกธรรมเนียมที่ยึดถือปฏิบัติกันในสังคมเมื่อออกจาก บ้านไปก็จะไม่ลืมสนองความต้องการทางร่างกายของ ตนเอง
หลินซีนเยียนกำลังยืนถือถังอยู่ในลานบ้านและมองไป ยังห้องที่สองคนนั้นกำลังแนบชิดอิงกายกันทันทีใดนั้นก็ รู้สึกหน้าชาทันทีโรงเตี๊ยมนี้ล้วนเป็นห้องที่สร้างจากแผ่นไม้ เธอกลับไปที่ห้องของตนเองแล้วแน่นอนว่าต้องได้ยินเสียง ที่ทำให้คนหน้าแดงใจเต้นจากข้างห้องล่ะ?
เธอลังเลอยู่นานรู้สึกว่าไม่อยากกลับห้องแต่อย่างใดดัง นั้นเธอจึงวางถังไม้ลงแล้วหาเก้าอี้หินนั่งในลานบ้านเพียง แต่ไม่อาจจะหยุดจินตนาการของตนเองได้เลยแม้จะไม่ ได้ยินมองไม่เห็นแต่เธอก็รู้ดีว่าในห้องนั้นกำลังแสดง ท่าทางอะไรกันอยู่เธอไม่สามารถแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไร เกิดขึ้นได้