ตอนที่ 188ท่านโจวที่ถูกทุบตี
คนหนุ่มล้มลงต่อเนื่องกันทุกคนก็ขู่เจ้าของร้านถ้า หากว่าหลินซินเยียนคนเดียวที่พูดว่าเจ็บเขาจะต้อง เข้าใจได้ว่าหลินซินเยียนปลิ้นปล้อนแต่ว่าในบรรดาคน เหล่านั้นก็เป็นลูกค้าประจำของร้านนี่คงจะไม่ใช่เรื่อง บังเอิญ
เจ้าของร้านลุกลี้ลุกลนรีบให้บ่าวไปเชิญหมอมา
บ่าวก็รีบออกไปทันทีสถานการณ์ในร้านอาหารก็ วุ่นวายขึ้นมา
คนที่จะสามารถเข้ามาทานอาหารในภัตตาคา รเฟิงเสียงได้นั้นล้วนเป็นคนรวยสิ่งที่เอาใจใส่ที่สุดนั้น ก็คือชีวิตของตัวเองดังนั้นเมื่อเห็นคนเจ็บปวดกลิ้งไป มาคนที่อยู่ในร้านอาหารนั้นก็วางตะเกียบลงไม่ว่าจะ จริงหรือเท็จเพียงแค่ร้านเฟิ่งเสียงนี้น่าจะกำลังมีปัญหา พวกเขาไม่กล้าเอาตัวเองไปเสี่ยง
เวลานั้นคนในร้านอาหารก็เดินออกไปมากเจ้าของ
ร้านเครียดจนเหงื่อไหลท่วมตัวแล้วรีบเรียกพนักงาน ให้ไปที่ชั้นสอง ที่จริงหลินซินเยียนเพียงแค่คิดว่าจะเพียงแค่สั่ง สอนคนประสบสอพลออย่างเจ้าของร้านและพนักงาน ก็เท่านั้นไม่ได้คิดว่าจะจับเอาภัตตาคารเฟิ่งเสียงนี้ไว้ไม่
ปล่อยเห็นแขกออกไปจำนวนมากแล้วยายหลิวก็
ประคองหลินซินเยียนให้ลุกขึ้น
นางหอบขณะจ้องไปยังเจ้าของร้านและพูดกัน ท่านโจวอีกว่า “คุณชายข้าปวดท้องข้าว่าท่านพาข้าไป หาหมอหน่อยเถิดเมื่อไม่มีปัญหาแล้วค่อยกลับมาที่ร้าน นี่มาคิดบัญชีกับคนชั่ว”
ท่านโจวเข้าใจความหมายของนางจึงพยักหน้า
เจ้าของร้านเห็นพวกเขากำลังจะจากไปก็รู้สึก ยินดีไม่มีพวกเขาก่อความวุ่นวายเขาจัดการเรื่องที่ เหลือนี่ก็จะสะดวกมากขึ้น
เพียงแต่เมื่อพวกหลินซินเยียนเดินไปถึงหน้า ประตูก็เห็นคนจำนวนหนึ่งเดินมาจากบันไดขึ้นสองบ่าว ที่เดินอยู่ด้านหน้าก็ชี้มาทางหลินซินเยียน”ผู้หญิงคน นั้นไงที่เพิ่งก่อความวุ่นวายที่ร้าน”
คนที่เดินอยู่ด้านหลังของบ่าวคนนั้นเป็นคุณชายที่ ยังวัยรุ่นอยู่คาดไม่ถึงเลยว่าสองคนในนั้นเป็นคนที่ หลินซินเยียนรู้จักคนหนึ่งคือฮูเหยียนหลิวหยุนอีกคน คืออู่ฉือพวกเขาคือผู้ลากมากดีของร้านเพิ่งเสียงนี้
หลินซินเยียนคิดไม่ถึงเลยว่าเบื้องหลังขอร้านเฟิ่ง เสียงนี้จะเป็นฮูเหยียนหลิวหยุนไม่ถ้าจะพูดให้ถูกนั้นก็ คือตำหนักอ๋องฮูเหยียนก็คือรูปร่างหน้าตาของซือจื่อที่ สองฮูเหยียนหลิวหยุนที่ดูแล้วไม่น่าจะมีหัวการค้า
มีตำหนักฮูเหยียนเป็นผู้หนุนหลังเช่นนี้ไม่แปลกที่ ร้านเฟิ่งเสียงนี้ถึงมีสหายชั้นสูงมานั่งอยู่เต็มไปหมด บางคนเหล่านั้นพยายามที่เข้ามาที่นี้เพื่อที่จะมาประจบ ประแจงตำหนักอ่องฮูเหยียนคนที่มาประจบประแจงนั้นมีจำนวนมากจะต้องค้าขายดีเป็นธรรมดา
หลินซินเยียนรู้ว่าถ้าฮูเหยียนหลิวหยุนอยู่ที่นี่นั้น ไม่ต้องคิดจะพูดหลักเหตุผลใดใดรีบส่งสายตาให้ท่าน โจวว่าให้รีบออกไปนางยั่วยุไม่ได้ก็ยังหลบซ่อนได้นะ
เพียงแต่ฮูเหยียนหลินอวิ่นพบหลินซินเยียนแล้ว ไหนเลยจะสามารถหลบพ้น
“คิดจะไปหรือพวกเจ้ากินเจรีไปขวางพวกเขาเอา ไว้”ฮูเหยียนหลิวหยุนออกคำสั่งให้คนด้านหลังคนเหล่า นั้นต่อสู้พื้นฐานเป็นก็เข้ามาขวางประตูพวกหลินซิน เยียนได้อย่างรวดเร็ว
ดูจากสถานการณ์นี้แล้วเรื่องนี้ไม่เป็นผลดีแน่หลิน ซินเยียนขมวดคิ้วท่านโจวกังวลใจยายหลิวกลัวจึงดึงส
รือโถวไปหลบด้านหลัง
ฮูเหยียนหลิวหยุนเดินลงมาอย่างไม่รีบร้อน”คน บ้านนอกที่ไหนถึงได้มาก่อความวุ่นวายที่อาณาบริเวณ ของข้าน่ารำคาญจริงอ่อก็เป็นหญิงท้องแก่นี่เองรี”
“คุณชายท่านนี้พวกเราเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บพูด ได้อย่างไรว่าก่อความวุ่นวายเห็นได้ชัดเลยว่าเป็น ปัญหาของภัตตาคารตอนนี้พวกเราจะไปหาหมอพวก ท่านมาขวางเอาไว้ถ้าหากว่าสาวน้อยคนนี้เป็นอะไรไป พวกท่านก็ไม่อาจหนีความผิดได้” ในฐานะที่เป็นผู้ชาย ท่านโจวก็ลุกขึ้นมาอย่างสมเหตุสมผล
ฮูเหยียนหลิวหยุนเค้นเสียงเย็น”ไม่ใช่หมอรึพวกเราให้คนไปตามหมอแล้วอีกเดียวหมอก็มาเมื่อมาถึงจะ ให้เขาดูเสียหน่อยดูสิว่าใช่พวกเจ้าหรือไม่ที่ตั้งใจสร้าง เรื่องหลอกลวงแต่ว่านะอย่างไรอีกเดี๋ยวหมอก็มาพี่น้อง ทั้งหลายนอกจากหญิงท้องแก่คนนี้ให้ตีคนอื่นเมื่อตี เสร็จแล้วก็เอามาให้ข้าดูด้วย”
คำสั่งที่กำแหงเช่นนี้ก็มีเพียงแค่ฮูเหยียนหลิวหยุน เท่านั้นแหละ
หลินซินเยียนไม่คิดเลยว่าฮูเหยียนหลิวหยุนจะป่า เถื่อนเช่นนี้ไม่รอคนมาพิสูจน์เลยก็มั่นใจในสาเหตุเมื่อ เจอกันก็จะตีฝ่ายตรงข้ามเลยเมื่อคิดอย่างนี้แล้วเมื่อ ตอนที่ฮูเหยียนหลิวหยุนพบนางนั้นก็ถือว่าเกรงใจแล้ว สำหรับคนธรรมดานั้นเขาก็ยิ่งกำแหงระรานเข้าไป
ใหญ่
คนเหล่านั้นที่ได้ยินคำสั่งของฮูเหยียนหลิวหยุน นั้นก็ตะโกนเรียกยกมือขึ้นตีพวกของหลินซินเยียนนั้น เป็นคนแก่อ่อนแอไม่สมบูรณ์ไหนเลยจะสามารถรับ กำปั้นของชายฉกรรจ์ได้ท่านโจวถูกต่อยตีลงไปอยู่ที่ พื้นจมูกมีเลือดไหลเลือดสดไหลออกมามากยายหลิว และสรือโถวที่ตกใจกลัวร้องเสียงหลง
แต่ว่าดูแล้วคนเหล่านั้นไม่ได้มีท่าทีว่าจะวางมือลง และจะยังเดินไปตียายหลิวและสรือโโถวด้วยหลินซิน เยียนตะลึงหันกลับไปลุกขึ้นด้วยท้องที่กลมโตของตัว เองดึงทั้งสองคนไปอยู่ด้านหลังของตัวเอง
แขกที่อยู่ในร้านอาหารทนดูต่อไปไม่ไหวคนจำนวนมากกำลังรังแกคนแก่เด็กหญิงมีครรภ์นีมันเรื่อง อะไรกันคนหนุ่มจำนวนมากอยากจะเข้ามาช่วยแต่ก็ ถูกคนที่อยู่ใกล้ๆห้ามเอาไว้
มีฮูเหยียนหลิวหยุนอยู่ใครจะกล้ามีเรื่องด้วย
หลินซินเยียนร้อนใจตาของนางเห็นมีคนจำนวน หนึ่งกำลังเดินเข้ามานางทำได้เพียงส่งสายตาขอความ ช่วยเหลือไปยังอู่ฉือธาตุแท้ของอู่ฉือกับฮูเหยียนหลิว หยุนนั้นไม่เหมือนกันแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาถึงได้ ไปมาหาสู่ข้างๆฮูเหยียนหลิวหยุน
จริงดั่งคาดอู่ฉือเห็นนางถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักแต่ว่าแม่ นางคนนี้นั้นมีสายตาที่เขารู้สึกว่าคุ้นเคยเขาลังเลอยู่ ครู่หนึ่งแล้วกระแอม”นี่พวกท่านตีผู้ชายก็พอแล้วไม่ว่า อย่างไรก็มีหน้ามีตาตีคนแก่หญิงมีครรภ์และเด็กพูดไป แล้วเกรงว่าผู้คนคนหัวเราะ”
คนเหล่านั้นได้ยินก็รู้สึกว่าที่อู่ฉือพูดนั้นก็ดีอยู่ที่ จริงแล้วพวกเขาไม่อยากตีเด็กและคนแก่ที่สำคัญก็คือ พวกเขาไม่อยากหักหน้าอู่ฉือยิ่งกว่านั้นคือนอกจากฮูเห ยี่ยนหลิวหยุนก็เหลือแค่อู่ฉือนี่แหละที่มีลำดับศักดิ์ อำนาจมากพอ LEGO
พวกเขาวางมือวางเท้าและหันตัวเดินไปทางท่าน โจวกำปั้นและฝ่าเท้าของเขายำไปบนตัวของท่านโจว เห็นท่านโจวถูกต่อยตีบนพื้นเช่นนี้ใจของหลินชิน
เยียนก็หล่นฮวบเพราะนางอยากจะสั่งสอนเจ้าของร้าน
และบ่าวชั่วขณะเลยสร้างปัญหาใหญ่ให้กับท่านโจวถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยกับท่านโจวนางคงจะไม่ให้อภัยตัวเอง ทั้งชีวิต
นางกัดริมฝีปากล่างแน่นเตรียมที่จะพุ่งตัวไปทาง นั้นพลันเห็นรถม้าที่อลังการหรูหราคันหนึ่งจอดอยู่นอก ร้าน
รถม้าคันนั้นหลินซินเยียนรู้สึกคุ้นเคยมากนางพุ่ง ไปทางรถม้าคันนั้นอย่างไม่คิดชีวิต
จินมู่ที่กำลังขับรถม้าเห็นหลินซินเยียนที่ท้องใหญ่ วิ่งมาอย่างรีบร้อนก็ตะลึงยังไม่ถามอะไรก็ได้ยินเสียง หลินซินเยียนคำราม”ท่านอ่องข้ารู้ว่าพี่สาวที่อยู่ใน หมู่บ้านเดียวกันที่มีดวงตาคล้ายข้าข้าคิดแล้วนางน่าจะ เป็นเพื่อนเก่าที่ท่านอ๋องรู้จัก”