ตอนที่ 204 การเรียกร้องความรับผิดชอบจาก
ทุกคน
ไม่เพียงแต่มีคนเริ่มต้นพูด วันนี้นอกจากโม่จื่อเฟิง แล้ว คนที่มีฐานะสูงที่สุดก็คงจะเป็นเสนาบดีอินฉี เหล่า ขุนนางต่างให้อินฉีเป็นผู้กล้า ให้เขาเป็นผู้นำพาคนทั้ง หลายไปดูสถานการณ์ที่หลังบ้าน
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ชายนอกไม่สามารถเข้าไปที่หลัง บ้านได้ วันนี้เป็นกรณีพิเศษ ถ้าหากพากันไปข้างหน้า กันหมด ก็คงไม่ถูกคนนินทา
อินฉีปฏิเสธ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่อาจทนเสียง รบเร้าจากคนทั้งหลายได้ ในที่สุดก็พาคนกลุ่มหนึ่งเดิน แห่กันไปด้านหลังจวนอ่อง
ด้านหลังจวนนั้น หมอคุกเข่าอยู่หน้าโม่จื่อเฟิง หน้าผากของเขามีเหงื่อเย็นไหลท่วม ติดอ่างพูดไม่ออก
“ข้าเลี้ยงเจ้าคนที่มันไม่มีประโยชน์ไว้ทำไม ช่วง เวลาที่สำคัญเช่นนี้แม้แต่ยาพิษก็ยังแก้ไขไม่ได้” โม่ จื่อเฟิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ถีบหมอไปหนึ่งที่ และหัน หน้ามาอีกที ถลึงตามองคนทั้งหมดอย่างเยือกเย็น”ข้า ให้เวลาหนึ่งถ้วยชาเท่านั้น ไปหายาแก้พิษมา มิเช่นนั้น ข้าจะฝังเป็นพวกเจ้าทุกคน”
คนทั้งหมด
เป็นน้ำเสียงที่บ้าระห่ำมาก คุณนายทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ล้วนไม่ใช่คนธรรมดาที่ทำทรงผมลานบิน กำลัง อำนาจของคุณนายเหล่านี้นั้นเป็นตัวแทนอำนาจ มากกว่าครึ่งของแคว้นหนานเยว่
ไม่มีใครคิดถึงเลยว่า เพื่อเด็กคนหนึ่ง โม่จื่อเฟิงถึง กับยินดีที่จะเป็นปฏิปักษ์กับกำลังอำนาจครึ่งหนึ่งของ แคว้นหนานเยว่ คำพูดนี้ที่พูดออกมานั้นจะต้องใช้ ความกล้าและความมั่นใจถึงจะพูดออกมาได้
แต่ว่า สายตาของเขาที่มีท่าทางดุร้ายนั้นทำให้คน ทั้งหลายไม่สงสัยเลยสักนิด เขาไม่ได้กำลังล้อเล่น และก็ไม่ได้ขู่พวกนางด้วย แต่เป็นใจเข่นฆ่าของจริง
หลินซินเยียนยืนอยู่ข้างหนึ่ง การตกใจบนสีหน้า ของนางลุ่มลึกมากขึ้น นางคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องราวจะ บานปลายไปถึงขนาดนี้ ในใจของนางยิ่ง กระวนกระวายขึ้นไปอีก
นางเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พูดกับโม่จื่อเฟิง “ท่านอ๋อง ท่านจำพ่อบุญธรรมของข้าได้หรือไม่ พ่อ บุญธรรมของข้าก็เป็นหมอ ฝีมือการรักษาก็ดีมาก เช่น นั้น ให้ข้าพาลูกไปให้พ่อบุญธรรมข้าดูหน่อยดีไหม”
โม่จื่อเฟิงย่นคิ้วมองนาง สายตาของเขาเย็นชามา นานแล้ว “เจ้ามั่นใจว่าฝีมือการรักษาของพ่อบุญธรรม เจ้าดีกว่าหมอในจวนอ่องหรือ”
“แน่นอน ดีกว่าจนแม้แต่หมอหลวงเฉินยังเทียบไม่ ติด” หลินซินเยียนพูดอย่างเด็ดขาด
โม่จื่อเฟิงมองนางตาไม่กระพริบ ราวกับว่ามอง อะไรบางอย่างบนใบหน้านางออก หลินซินเยียนถูก เขามองเช่นนี้จนรู้สึกไม่สบายใจ ร้อนใจจนแทบจะเต้น อยู่แล้ว ขณะที่นางกำลังจะรับมือรับแรงกดดันไม่ไหว นั้น ในที่สุดโม่จื่อเฟิงก็พยักหน้า
“ได้ ข้าจะไปกับเจ้าด้วย” เขาอุ้มลูก ไม่มีท่าทีว่าจะ ยืมมือคนอื่นมาอุ้มลูกเลย แต่ว่า เมื่อเขาเพิ่งจะหมุนตัว เหมือนกับว่าเขาคิดอะไรบางอย่างออก และหันหน้าไป กำชับกับจินมู่ว่า “ใช่แล้ว ให้ทุกคนกินยาผงหูลินก่อน”
จินมูได้ยินเช่นนั้น นัยน์ตาของเขาก็ปรากฏแวว ตะลึง แต่ว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไร รีบกำชับให้องครักษ์ รีบไปทำ ไม่นานองครักษ์ก็กลับมา คนหนึ่งอุ้มไหดิน เผา องครักษ์เปิดกระดาษห่อไหดินเผาออก ทั้งห้อง โถงก็เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า ไหดินเผานั้นจะต้องบรรจุ เหล้าเข้มข้นไว้แน่นอน
จินมู่เดินไปหน้าไห หยิบห่อยาที่อยู่ในอกเสื้อเทลง ไปในเหล้า หลังจากนั้นให้องครักษ์มอบเหล้าให้ทุกคน
“ยาผงหูลินนี้เป็นยาพิษที่ข้าได้มาจากคนแปลกๆ คนหนึ่ง ในเมื่อไม่มีใครลุกขึ้นเพื่อหาทางแก้พิษ เช่น นั้นข้าก็จะไม่รอแล้ว ข้าจะพาวี่จิ่งไปหาหมอ ถ้าหาก หมอคนนั้นแก้พิษได้ วี่จิ่งไม่เป็นไร เช่นนั้นข้าก็จะต้อง มอบยาแก้ของยาผงหูลินให้กับพวกท่านแน่ ถ้า หาก…เกิดเหตุสุดวิสัยกับวี่จิ่ง เช่นนั้น พวกท่านก็รอ ถูกฝังเป็นได้เลย”
โม่จื่อเฟิงมองทุกคนอย่างเย็นชา สายตาของเขา
กวาดไปทุกที่ทุกคนกลัวจนสั่นระริก องครักษ์ถือจอก เหล้าไปบังคับควบคุมให้พวกนางดื่ม แม้แต่สาวใช้และ องครักษ์ทุกคนก็ไม่เว้น
แรกเริ่มที่ทุกคนนั้นไม่ค่อยเต็มใจ แต่เมื่อโม่จื่อเฟิง เย็นชาเช่นนี้ องครักษ์ต้องถือกระบี่ออกมาข้างหน้า ก่อน คนเหล่านั้นถึงร้องไห้แล้วกินยาผงหูลิน
“ท่านอ๋อง ทุกคนที่อยู่ในนี้ดื่มหมดแล้ว” จินมู่รับคำ สั่ง คิดแล้วก็ถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจว่า “ท่านอ๋อง ข้า น้อยต้องดื่มด้วยไหม”
โม่จื่อเฟิงส่งเสียงเย็น ส่ายหน้าช้าๆ จินมู่ถึงได้ ถอนใจอย่างผ่อนคลาย
“แต่ว่า นางต้องดื่ม” แต่ว่า ประโยคถัดมากลับ
ทำให้จินมู่ตะลึง
เพราะคำว่านางที่ออกมาจากปากของโม่จื่อเฟิงนั้น คือแม่ผู้ให้กำเนิดเด็ก นั่นก็คือหลินซินเยียน
หลินซินเยียนเบิกตากว้าง มองไปยังโม่จื่อเฟิงอ ย่างไม่อยากเชื่อ “ท่านอ่อง ท่านกำลังพูดเล่นรึเปล่า ข้าเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดนะ เป็นไปได้หรือที่ข้าจะทำร้าย เขา”
“ดื่ม ” โม่จื่อเฟิงไม่สนใจคำพูดนาง ทำเพียงออก คำสั่งอย่างแน่วแน่ต่อไป
จินมู่ถือเหล้า เกาหัวแล้วเดินไปด้านหน้าของหลินซินเยียน พูดโน้มน้าวว่า “คุณนาย ท่านดื่มอึกหนึ่งแล้ว กัน ท่านเป็นแม่ของวี่จิ่ง ท่านอ๋องไม่ให้เกิดเรื่องอะไร กับท่านแน่ ท่านวางใจเถิดวี่จิ่งจะต้องไม่เป็นอะไร ผู้ร้ายจะต้องถูกจับได้แน่”
ตาของหลินซินเยียนมองถ้วยยาผงหูลินที่อยู่ตรง หน้าของนาง ยาผงหูลินนั้นไม่สำคัญหรอก นางเชื่อใน ความสามารถของท่านโจว ยาพิษที่ร้ายแรงกว่านี้ เขาก็ แก้ได้ ที่นางกลัวว่าก็คือ ยาผงหูลินที่อยู่ในเหล้า ท่าน โจวเคยบอกว่า นางกินยาแปลงโฉม สิ่งที่ต่อต้านกัน มากที่สุดก็คือเหล้าเข้มข้น แค่ปนเปื้อนเหล้า ก็จะ ปรากฏใบหน้าที่แท้จริง
ถ้าหากว่าดื่มไปแล้ว ใบหน้าของนางจะต้องค่อยๆ กลับมา อาจจะหนึ่งชั่วยาม หรือครึ่งชั่วยาม นางไม่อาจ มั่นใจว่าจะสามารถหนีไปจากข้างกายของโม่จื่อเฟิงได้ ทันท่วงที
ถ้าหากว่าถูกจับได้ หลังจากนั้น.
“เจ้าไม่กล้าดื่มหรือ” รูม่านตาของโม่จื่อเฟิงหด สายตาที่แสดงถึงความสงสัยนั้นเริ่มปรากฏขึ้นอย่าง
ชัดเจน
หลินซินเยียนกลืนน้ำลาย ใจของนางพัวพันกัน อุตลุด ถ้าไม่ดื่ม เช่นนั้นไม่ทำให้โม่จ่อเฟิงสงสัยถึงหัว ของนางหรือ แต่ว่าถ้าดื่ม LEGO
“จินมู่” โม่จื่อเฟิงทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงตะโกน เรียกจินมู่
จินมู่ถอนหายใจ กัดฟันพูด “ล่วงเกินคุณนายแล้ว”
หลินซินเยียนเบิกตากว้าง ก็เห็นจินมู่เดินเข้ามา มือหนึ่งของเขาบีบคางของนาง อีกมือหนึ่งถือถ้วย กรอกเข้าปากนาง เหล้าเข้มข้นไหลเข้ามาในลำคอของ นาง ไม่รอนางอาเจียนออกมาก็ถูกบังคับให้ไหลลงสู่ ท้องแล้ว นางฉุนอย่างรับไม่ได้ น้ำตาไหลตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ไม่รู้
นางไออยู่สักพักถึงได้กลับมานั่งได้ โม่จื่อเฟิงกลับ เค้นเสียงเย็น “ไป ไปหาพ่อบุญธรรมของเจ้ากัน”
หลินซินเยียนหายใจ กลับอดไม่ได้ที่จะตื่น ตระหนก ทุกฝีก้าวของนางกระสับกระส่าย วันนี้ นาง ทำได้เพียงรีบตามหาท่านโจว หลังจากนั้นก็ทำ แผนการให้สำเร็จ จะต้อง จะต้องทำแผนการให้สำเร็จ ก่อนที่ใบหน้าของนางจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
โม่จื่อเฟิงเดินนำหน้าหลินซินเยียนไปหนึ่งก้าว อิน สีนำขุนนางเดินตามไปที่หลังจวน เหล่าขุนนางมองเห็น ภรรยาของตนเอง ก็ร้องไห้กันระงม ยังพูดว่าโม่จื่อเฟิง ทำให้พวกนางถูกพิษ ใจของพวกเขาหวาดกลัว ราวกับ ว่าใบหน้าของเหล่าขุนนางนั้นจะแสดงความรู้สึก เกลียดชัง
มีแค่อินฉี ที่เมื่อคนทั้งหลายแสดงท่าทางเกลียด ชั่ง สายตาของเขาเป็นคลื่น ไม่ใช่ความโกรธ แต่เป็น ความตื่นเต้นเบาๆ