ตอนที่234การเติบโตของโม่จื่อเฟิง (3)
เสียงของเขาค่อยเปลี่ยนเป็นความเศร้า หลินซีน เยียนไม่ได้ขัดจังหวะเขา ให้เขาพูดต่อไป”ตอนนั้น ข้า ก็มีเพื่อน เพื่อนที่ดีแสนดีคนหนึ่ง โตกว่าข้าหนึ่งปี เพราะอย่างนั้นเขามักจะชอบพูดว่าเขาจะเป็นพี่ของข้า ข้าก็เรียกเขาพี่ชายแบบนั้นเสมอ ในปีนั้น ข้ามีความสุข มาก ถึงแม่ไม่มีญาติพี่น้อง แต่ว่าเด็กคนนั้นที่เรียกตัว เองว่าจะเป็นพี่ชายของข้าได้มอบความอบอุ่นของ ครอบครัวให้ข้า”
” หลังจากนั้น การสอบสิ้นปีก็มาถึง”อยู่ๆ ในลำคอ ของโม่จื่อเฟิงก็มีเสียงออกมา เขากระแอมออกมาถึง จะพูดต่อได้”รับผิดชอบดูแล รุ่นพี่ของพวกเราพูดกฎ ในการสอบ เด็กสองคนหนึ่งกลุ่มทำการต่อสู้ เมื่อมีใคร ตายถึงจะหยุดได้!
เด็กสองคนต่อสู้กัน จนกว่าจะตายกันไปข้าง หนึ่ง!
ประโยคนี้ทำให้ใจของหลินซีนเยียนรู้สึกตกตะลึง เป็นอย่างมาก นางไม่กล้าที่จะคิดภาพอันเลวร้ายใน ตอนนั้น ทั้งที่เป็นแค่เด็กอายุไม่เท่าไหร่ แต่กลับต้องฆ่า เด็กอีกคนเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด นี่คือต้องการให้เด็ก พวกนี้เปลี่ยนเป็นสัตว์ที่ดุร้ายหรืออย่างไรกัน?
หลินซีนเยียนไม่รู้สึกตัวนางกอดโม่จื่อเฟิังแน่น เอาหน้าแนบไปกับอกของเขา ปลอบใจเขาว่า”มันผ่านไปแล้ว”
สายตาของโม่จื่อเฟิงมองไปที่นอกหน้าต่าง แดด ส่องไปที่ใบไม้นอกหน้าต่าง ทะลุผ่านกิ่งไม้เหลือเพียง เส้นเล็กๆ แสงแดดตั้งมากมายกลับเหลือไว้เพียงเส้น แสงเล็กๆแค่นั้น
” รุ่นพี่พูดเรื่องการเลือกคู่แข่งคือการสุ่มจับชื่อ่อ เพราะว่าเด็กคนนั้นที่เรียกตัวเองว่าเป็นพี่ของข้าโตกว่า ข้าหนึ่งปีจึงได้ไปหยิบก่อน ตอนที่เขาหยิบออกมาจาก กระบอก หน้าของเขาหน้านิ้วคิ้วขมวด เขาเบิกตาโพลง มองมาที่ข้า หลังจากนั้น ข้าก็รู้แล้วว่าคนที่เขาจับได้คือ ข้า และเมื่อข้าหันไปดูรอบๆ เด็กคนอื่นแทบจะทั้งหมด จับได้คนที่สนิทที่สุดคนที่เล่นด้วยกันตลอด
“ดูเหมือนจะเป็นการสุ่มจับ แต่จริงๆแล้วกลับโดน วางแผนไว้หมดแล้ว? “หลินซีนเยียนถามเขา
โม่จื่อเฟิงพยักหน้า”เรื่องนี้ข้าก็เพิ่งมารู้ทีหลัง เหมือนกัน พวกเขาใช้เวลาหนึ่งปีให้พวกเราสร้างความ สัมพันธ์ หลังจากนั้นกลับใช้วิธีที่เลวร้ายที่สุดทำลาย ความสัมพันธ์ของเรา พวกเขาพูดว่า ความรู้สัมพันธ์ที่ มากไปมันคืออุปสรรคของความสำเร็จ อยากเป็นคนที่ แกร่งที่สุดในนี้ ก็ต้องละทิ้งหลายสิ่งหลายอย่าง
เขาก้มมองหลินซีนเยียนที่อยู่ในอ้อมกอด เห็นนาง อบอุ่นที่ได้ซบกับอกของตัวเอง ก็อดไม่ได้ที่จะจูบลง ไปที่หน้าผากนาง แล้วพูดต่อ”ผลที่ออกมาเห็นได้ชัด ข้ายังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ว่าเขาด้อยกว่าข้า แต่เขาพูดว่าชื่อนั้นคือเขาเองที่เป็นคนจับขึ้นมาเช่นนั้นควรเป็นเขา ที่ต้องรับผิดชอบ และเขาทำมันได้อย่างเด็ดขาด เขา ไม่ต่อสู้กับข้า และเลือกที่จะปลิดชีพตัวเอง เขาเลือกที่ จะตาย และให้ข้าใช้ชีวิตต่อไป อย่างน้อย ในความคิด ของเขา ข้าก็ไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่าเขา และชีวิตนี้ของ ข้าก็ไม่ต้องมารู้สึกเสียใจเพราะเขา แต่ว่า เขาคิดผิด แล้ว เพราะว่าเขาทำแบบนั้น ชีวิตของข้า ข้าติดหนี้ชีวิต เขา”
“หลังจากที่เขาตายไป พวกเราเด็กที่เหลืออยู่รอด ก็ไม่มีใครกล้าที่จะมีเพื่อนอีก และคอยรักษาระยะห่าง ระหว่างกันใครจะไปไว้ใจคนที่ฆ่าเพื่อนสนิทของตัวเอง ได้ลง จริงไหม ? ”
หลินซีนเยียนได้ฟังแล้ว รู้สึกร่างกายเย็นสู้ขึ้นมา ทันที อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น นางรู้สึกกลัวขึ้นมาเมื่อได้ฟัง เรื่องราวของเขา นี่เป็นเพียงแค่เริ่มต้นก็เลวร้ายขนาด นี้แล้ว หลังจากนี้นางไม่กล้าที่จะคิด
ตอนที่เขาอายุเจ็ดขวบ ก็ผ่านเรื่องราวที่ผู้ใหญ่ยัง รับไม่ได้กับความทรมาน แล้วเด็กเจ็ดขวบจะเป็น อย่างไรเล่า?
“กลัวใช่ไหม? “เหมือนว่าจะรู้สึกได้ถึงร่างกายที่ สั่นของนาง โม่จื่อเฟิงเอาคางเกยบนหน้าผากนาง และ ถอนหายใจที่หนึ่ง”จริงๆ หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว โดยรวมแล้วที่นั่นคือการฝึกแบบนรกและการรวบรวม เท่านั้น จนถึงข้าอายุสิบหกปี การทดสอบเพื่อที่จะได้ออกไปจากที่นั่นก็มาถึง เพียงแค่ข้าสอบผ่านข้าก็จะได้ กลับไปหาป้าของข้า เป็นผู้ดูแลปกป้องป้าและฮ่องเต้พี่ ชายข้าและในแคว้นหนานเยว่ข้าก็จะเป็นผู้รับหน้าที่ ต่อ
หลินซีนเยียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ นาง คิดว่าเขาเติบโตมาในวังใหญ่โต เขาเป็นลูกของฮ่องเต้ คนที่แล้ว เป็นเด็กที่คาบซ้อนทองเกิดมา แต่ไม่คิดเลย ว่า จะเดียวดายเพียงนี้ ทั้งหมดที่มีต้องพึ่งตัวเองมา ตลอด
“เจ้าคงไม่คิดว่าข้าเกิดมาก็ได้เป็นอ๋อง เพราะว่า เป็นลูกชายของฮ่องเต้คนก่อน เพราะฉะนั้นตำแหน่ง ราชาต้องเป็นของข้างสั้นรี? “โม่จื่อเฟิงส่ายหัวพูด”ลูก ของฮ่องเต้คนก่อน มีเยอะมากมายที่ไม่ทันได้โตก็ตาย สะก่อน ส่วนเรื่องการตายนั้น ก็คงเป็นการต่อสู้แย่งชิง กันในวังนี้ละ ตอนแรก เพื่อเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตตัว เอง ข้าให้ความสำคัญกับการสอบครั้งนั้นมาก การ สอบก็ง่ายมาก ให้ข้าไปที่ลับที่หุบเขาและเอาของ ตกทอดของขุนนางมาให้ได้”
หลินซินเยียนตาวาว นึกถึงครั้งแรกที่เจออวิ๋นเสี่ยว ยิง นางเหมือนว่าจะออกมาจากหุบเขานั้น”เจ้าหมายถึง ตระกูลอวิ่น? เจ้าพูดว่าหุบเขา ใช่ที่เราเคยไปหุบเขา นั้นใช่หรือไม่? ”
“ใช่ คือที่นั่น ตอนนั้นข้าปลอมเป็นคนเก็บยา เข้าไป เพราะว่าได้รับบาดเจ็บหลงเข้าไปในหุบเขาแผนของข้าเป็นไปอย่างราบรื่น ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งเดือน ข้าก็สามารถเข้าไปถึงเจ้าของตอนนั้น ก็คือตระกูลอวิ่น เสี่ยวยิง ตอนนั้นอวิ้นเสี่ยวยิงเป็นเพียงแค่เด็กน้อยแปด เก้าขวบ นางยังมีพี่สาวที่แก่กว่านางเจ็ดแปดปี พ่อของ พวกเขาเป็นเจ้าแห่งหุบเขานี้
“พี่สาวของอวิ๋นเสี่ยวยิง….”หลินซีนเยียนนึกถึงคำ พูดของอวิ่นเสี่ยวยิง”งามมากหรือไม่? ”
โม่จื่อเฟิงก้มมองนาง พยักหน้าอย่างแน่ใจ”งาม มาก งามแบบที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ว่า นั้นไม่ สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือของเก่าแก่ของตระกูลอวิ้น อาจ จะไม่ใช่สิ่งของจริงๆ อาจจะเป็นวิทยายุทธ และที่น่า ขำก็คือ วิทยายุทธนี้จะถ่ายทอดให้สามีของบุตรสาว คนโตของตระกูลอวิ๋นเท่านั้น ”
“เอิ่ม…”แบบนี้ไม่เหมือนที่หลินชินเยียนคาดคิดไว้ แบบนี้มันน้ำเน่าเกินไปแล้ว นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ออกมา”ตระกูลอวิ่นก็ตลกเกินไปแล้ว พวกเขาจะมั่นใจ ได้อย่างไรว่าจะให้กำเนิดบุตรสาว? ถ้าหากให้กำเนิด มาเป็นผู้ชายหมดเลยละ แบบนี้ก็หมดผู้สืบทอด?
“พวกเขามั่นใจอย่างแน่นอน”ในตาโม่จื่อเฟิงมี ประกายแววอยู่ชั่วครู่”เพราะว่าเป็นถ้าหากเป็นเด็ก ผู้ชาย เกิดมาก็จะโดนฆ่าทิ้ง ตระกูลอวิ๋น แต่ไหนแต่ไร มาเอาไว้เพียงเด็กผู้หญิงเท่านั้น ประมุขของบ้านก็เป็น ผู้หญิง ในตระกูลอวิ่นผู้ชายแต่งงานเข้าบ้านผู้หญิง เอามาเพื่อใช้ในการสืบทอด”
“หลินซีนเยียนหมดคำพูดแล้วจริงๆ ตระกูล แปลกประหลาดแบบนี้มีให้เห็นไม่มากแล้ว เจอตระกูล แปลกประหลาดแบบนี้มาเยอะ ไม่น่าละโม่จื่อเฟิงถึงได้ ไม่ได้แสดงที่ท่าอะไรรับไม่ได้ที่นางไม่เหมือนคนอื่น
แต่ว่า เป็นลูกของตัวเองแท้ๆ เกิดออกมาเป็นเด็ก ผู้ชายก็ฆ่าทิ้ง แบบนี้มันเลวร้ายเกินไปแล้ว มันจะมี จริงๆหรอเด็กที่โตมาในครอบครัวแบบนี้ที่จะไม่ได้รับ ผลกระทบ?
ว่ากันว่าวิทยายุทธ ของโม่จื่อเฟิงลึกล้ำไม่อาจ คาดคะเนได้ หรือว่าเป็นเพราะล้ำเรียนวิทยายุทธของ ตระกูลอวิ้นมา?
หลินซีนเยียนหน้านิ่วคิ้วขมวด ร่างกายรู้สึกไม่ สบายอย่างบอกไม่ถูก นางเงยหน้าถาม”ตระกูลอวิ๋นใช้ ลูกเขยเป็นการสืบทอดวิทยายุทธ ถ้าเช่นนั้นก็ต้องมีวิธี ควบคุมลูกเขย ไม่เช่นนั้น ถ้าลูกเขยเกิดกบฏขึ้นมา เช่นนั้นตระกูลอวิ่นทั้งบ้านก็จะมีอันตราย ใช่หรือไม่? ”
นางไม่อยากถามเขาเรื่องระหว่างเขากับพี่สาวขอ
งอวิ้นเสี่ยวยิง ถ้าหากว่าโม่จื่อเฟิงได้วิทยายุทธมาแล้ว ถ้าเช่นนั้นแสดงว่าโม่จื่อเฟิงกับพี่สาวของอวิ๋นเสี่ยวยิง เคยมีความหลังกัน แต่ว่าไม่รู้ทำไม นางกลับไม่อยาก รับรู้รายระเอียดของเรื่องราวนี้แล้ว
โม่จื่อเฟิงเหมือนจะดูออกว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่เอ่ยถึงเรื่องนั้นแม้แต่คำเดียว เพียงแต่พูดต่อไป”เจ้าเดาไม่ผิด ตระกูลอวิ้นมีวิธีควบคุมลูกเขย เพราะเช่นนั้นข้าถึงได้โดนวางยาพิษ พิษแบบนี้เป็นยาพิษที่แปลกประหลาด สามารถควบคุม ได้ด้วยเลือด ตอนแรกข้าคิดว่า นางตายไปแล้ว ข้าก็ไม่ ต้องถูกควบคุมอีกต่อไป แต่คิดไม่ถึงว่าตระกูลอวิ่นยังมี ไพ่ใบสุดท้าย”
พูดถึงตรงนี้ ในที่สุดก็มาถึงครั้งนี้ที่เขาทำร้ายตัว เองในชั่ววินาทีสำคัญ หลินซีนเยียนตั้งใจฟังโดยไม่ กล้าแม้แต่จะหายใจ
“ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าอวิ้นเสี่ยวยิงใช้วิธีใด แต่ว่า เห็นได้ชัดว่ามีผลต่อข้า แต่เพราะว่าไม่ใช่เลือดของ ลูกสาวคนโตเพราะฉะนั้นมีผลกระทบไม่มาก ไม่เช่น นั้นคงไม่เพียงเพราะเจ้ายั่วยวนข้าทำให้ข้ากลับมาเป็น ปกติ ถึงแม้ว่า จะเพียงแค่ช่างเวลาสั้นๆ แต่ทว่าเวลาชั่ว วินาทีในสถานการณ์นั้น ก็เพียงพอที่จะทำให้ข้ามีการ ตอบสนอง”
โม่จื่อเฟิงนึกขึ้นได้ตอนนี้ ยังมีความรู้สึกกลัว ครั้ง นี้ถ้าหากไม่ใช่ความฉลาดของหลินซีนเยียน ใช้วิธีไม่ ปกติแบบนี้ปลุกเขาขึ้นมา เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องน่า กลัวอะไรเกิดขึ้น
“เพราะฉะนั้น ตอนนั้นเจ้าถึงได้แทงตัวเองเข้าไป ใช้ความเจ็บปวดปลุกตัวเอง? “ในที่สุดหลินซีนเยียน ก็ได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดเสียที เพียงแต่ นางก็อดไม่ ได้ที่จะถาม”แล้วจะทำยังไงกับอวิ๋นเสี่ยวยิง ฆ่านาง หรือไม่?