ตอนที่ 235 ระบายความแค้น(1)
โม่จื่อเฟิงหันกลับมา จ้องมองหลินซีนเยียนชั่วครู่ สีหน้าของนางเหมือนจะบ่งบอกอะไรสักอย่าง หลินซีน เยียนถูกเขามองจนรู้สึกหวาดหวั่นแล้วยิ้มออกมาด้วย ความข้องใจ พูดว่า “อะไร ข้าพูดอะไรผิด? ”
“ไม่ ก็แค่รู้สึกว่าความคิดของเจ้ากับข้ามีบางอย่าง ไม่เหมือนกัน”โม่จื่อเฟิงยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัยกับ สายตาที่มองนางอย่างชื่นชม”บางครั้งข้าก็รู้สึกว่าเจ้า เจ้าเล่ห์บางครั้งข้าก็รู้สึกว่าเจ้าฉลาดแสนกลสุดท้าย แล้วมันก็ถูกสร้างขึ้นเป็นอาวุธแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ หญิงธรรมดาจะสามารถทำได้ เมื่อก่อน ข้าเคยเชื่อว่า เจ้าช่างแสนดี แต่ดูตอนนี้สิ จริงๆแล้วเจ้าก็ไม่ได้ดี ขนาดนั้น”
หลินซีนเยียนแลบลิ้นปลิ้นตา “รู้ว่าข้าไม่ได้ดี ขนาดนั้น แต่เจ้าก็ยังดูมีความสุข? “พวกผู้ชายก็ไม่ใช่ ว่าไม่ชอบความใสซื่อบริสุทธิ์แต่ทางที่ดีก็ควรนุ่มนวล เหมือนดังสายน้ำไหล?
“เจ้าคิดว่าข้าต้องการคนดีๆไว้ข้างกายรึ? “โม่ จื่อเฟิงพึมพำในลำคอ เดิมทีเขาเองก็เป็นคนที่เก็บซ่อน ความมืดมิดเอาไว้ เขาที่เหมือนราชาปีศาจไม่ได้ ต้องการนางฟ้าแสนบริสุทธิ์มาช่วย ที่เขาต้องการคือ เพียงคนที่จะคอยเคียงข้างกายและเข้าใจเขา
ใสชื่อบริสุทธิ์? งั้นก็คงมีแต่ผู้ชายดีๆเท่านั้นที่ชอบแต่ไม่ใช่เขา โม่จื่อเฟิง
หลินซีนเยียนส่ายหัวแบบซื่อๆ แต่จริงๆแล้ว ข้าง กายโม่จื่อเฟิงไม่ได้ต้องการผู้หญิงที่ดี “ถ้าเช่นนั้นเมื่อ ครู่เจ้าหัวเราะข้าทำไม? ข้าพูดอะไรผิดงั้นรี? 1
“สักวันอวิ๋นเสี่ยวยิงต้องตายแต่ยังไม่ใช่ตอน นี้”ใบหน้าที่ยิ้มพรายของโม่จื่อเฟิงแฝงไปด้วยความ ดุร้าย เพียงแต่เขาก็ไม่อยากจะแสดงความชั่วร้ายออก มาต่อหน้าหลินซีนเยียน ดังนั้นเขาเก็บความดุร้ายนั้น 7431 | เอาไว้ “ครั้งก่อนตอนที่อวิ๋นเสี่ยวยิงหลอกให้ข้าเข้าไป กลางหุบเขา ตระกูลอวิ๋นก็ได้เกิดภัยพิบัติขึ้นครั้งใหญ่ | ดูเหมือนว่าน้าของอวิ๋นเสี่ยวยิงซึ่งก็คือน้องสาวของ เจ้าของหุบเขาได้เริ่มเปิดฉากการโจมตีช่วงชิงอำนาจ การปกครอง แท้ที่จริงแล้วทุกอย่างคือการแสดงละคร ให้ข้าดูก็แค่นั้นเอง”
“แสดงละครให้เจ้าดู เจ้าจะบอกว่าตั้งแต่แรกที่อ วิ้นเสี่ยวยิงติดต่อกับเจ้าเพราะมีจุดประสงค์? “หลินซีน เยียนตกใจจนอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก ยิ่งพูดยิ่ง รู้สึกว่าความคิดของเขาคาดเดาได้ยากกว่าใจคน แรก เริ่มเดิมทีหลายเหตุการณ์ที่ต่างจากความคิดของเขา อย่างน้อยโม่จื่อเฟิงก็ยังคงให้ท้ายอวิ๋นเสี่ยวยิงไม่ใช่เพ ราะว่าอวิ๋นเสี่ยวยิงหรือพี่สาวของอวิ๋นเสี่ยวยิงแต่เป็น เพราะว่าจุดประสงค์ของอวิ๋นเสี่ยวยิง
แผนซ้อนแผน โม่จื่อเฟิงที่พยายามอดทนอดกลั้น
มาปีกว่า
“ในตอนแรกที่ข้าเข้าไปในหุบเขาก็รู้สึกไม่ชอบมา พากลเพียงแค่ข้าเข้าไม่ถึงความคิดของเขา ไม่รู้ว่า สุดท้ายแล้วพวกเขาคิดจะทำอะไร ดังนั้นก็แค่ไม่กระ โตกกระตากเพียงแต่อวิ๋นเสี่ยวยิงกลับอดกลั้นอารมณ์ ที่พลุ่งพล่านตลอดจน ณ ตอนนี้เขาเริ่มลงมือ ไม่ !ตอน นี้อาจจะไม่ใช่จังหวะที่เหมาะที่เขาจะลงมือ ข้าลองเดา ในตอนที่พิษกำลังกระจายไปทั่วร่างกายของข้าอย่าง ไม่มีทางควบคุมได้ เขาถึงจะเริ่มลงมือ สุดท้ายเวลานั้น เรี่ยวแรงขัดขืนที่ลดน้อยลง ไม่มีทางที่จะผิดพลาดได้ ง่ายๆ”
โม่จื่อเฟิงยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วยื่นมือมาลูบที่ ใบหน้าของหลินซีนเยียน “งั้นคงเป็นเพราะเจ้าที่ไปยั่ว ยุอวินเสี่ยวยิงเขาจึงได้เริ่มลงมือก่อน หากแต่ตอนนี้ ร่างกายข้ายังไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ปล่อยให้ข้าได้ฟื้น ตัวอีกสักหน่อย”
“อืม.ถ้าเป็นเช่นนี้ เจ้าจะนับว่าข้าเป็นผู้มี | พระคุณของเจ้าหรือไม่? ” หลินซีนเยียนยืนขึ้นโดยใช้ ไม้เท้าพยุงกระพริบตาอย่างหน้าทะเล้น
โม่จื่อเฟิงตกตะลึงกับท่าทางของนางที่ไม่ค่อยจะ ได้พบเห็นมากนัก อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวจูบลงบนริม ฝีปากแดงของนาง ชั่วครู่จึงลืมตาสบเข้ากับหลินซีน เยียนที่กำลังเบิกตาโพลงด้วยความตกตะลึง อดไม่ ได้ที่จะถอนหายใจ “เจ้าไม่สนุกแล้วรี?
“เอิ่มมม..”หลินซีนเยียนเริ่มรู้สึกร้อนผาวที่ปากแก้มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเกลี้ยงเกลา นางกระพริบตา ครั้งแล้วครั้งเล่า พูดว่า “เจ้าเนี่ย พูดอยู่ดีๆ ก็…”
นาที่ยังพูดไม่จบประโยคโม่จื่อเฟิงก็จูบอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้รุนแรงเหมือนครั้งก่อนแต่กลับ เป็นความรู้สึกที่บางเบา อบอุ่นชวนหลงใหล
หลังจากนั้นพักใหญ่ สุดท้ายเขาก็ผละออกจากริม ฝีปากของนางยิ้มแล้วพูดว่า “เจ้าก็? เจ้าก็กลายเป็นผู้ หญิงของข้า ที่ข้าอยากจะจูบก็จูบ คำตอบนี้เจ้าพอใจ มั้ย? ”
หลินซีนเยียนกลอกตาใส่เขาแต่ในใจนั้นมีแต่ ความละมุน พอนึกถึงอวิ๋นเสี่ยวยิงขึ้นมาก็อดไม่ได้ที่จะ ขมวดคิ้ว”เจ้ากลัวแหวกหญ้าให้งูตื่น? ถ้าไม่สามารถ ฆ่าอวิ้นเสี่ยวยิงได้งั้นควรจะทำอย่างไร”
“เจ้าจะกังวลเรื่องนี้ไปทำไม เดี๋ยวข้าจะจัดการ เรื่องนี้เอง” โม่จื่อเฟิงยิ้มอย่างสบายใจอยู่ข้างกายนาง แล้วจูงมือนางเดินออกไป หลินซีนเยียนกำลังจะเอ่ย ปากถามว่าจะไปไหนก็ได้ยินโม่จื่อเฟิงพูดขึ้น “ถือ โอกาสตอนที่ท้องฟ้ากำลังโพล้เพล้ข้าจะพาเจ้าไปเอา ของบางอย่าง”
เวลานั้นหลินซีนเยียนที่ไม่รู้อะไรเลย โม่จื่อเฟิงพูด แค่ว่าจะพานางไปเอาของบางอย่าง มันหมายความว่า ไง
ในขณะที่นางกำลังประหลาดใจนั้นก็ได้เดินเข้า มายังพระราชวังพร้อมกับเขาโดยไม่รู้เลยว่ากำลังเดินเข้าไปยังท้องพระคลัง จนในที่สุดเขาก็ชี้ไปยังสิ่งของ ในท้องพระคลังแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าเลือกที่เจ้าชอบได้ เลย อีกไม่กี่วันของพวกนี้ก็จะส่งเข้าตำหนักใน”
ข้างๆมีเหล่าพวกขันที องครักษ์ กี่สิบอยู่นั้น แต่คำ พูดของโม่จื่อเฟิงกลับไม่เกรงใจใคร พวกเขาอาจจะ
คิดว่าเขากำลังล้อนางเล่นอยู่แน่ๆ
ที่นี่คือท้องพระคลัง ไม่ใช่คลังเก็บสินค้าตำหนัก ใน ก็แค่รอท่านอ๋องเห็นด้วย อยากได้กี่อย่างก็หยิบไป ที่นี่คือท้องพระคลังสิ่งของทุกอย่างต้องตกเป็นของ แคว้นหนานเยว่ทั้งประเทศ ถึงประเทศนี้จะปกครอง โดยพระมหากษัตริย์ ทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่างก็คือของ พระมหากษัตริย์ เพียงแต่การที่ให้นางมาแกล้งเลือก ของนั้นมันไม่โอ้อวดไปหน่อยเหรอ?
“โม่… โม่จื่อเฟิงให้ข้าเลือกของที่นี่ได้จริงรึ? “นี่ มันเจ้าถิ่นชัดๆ นางนึกถึงเสนาบดีใจใหญ่ท่านหนึ่งที่มัก จะชอบซื้อข้าวซื้อของในร้านขายของฟุ่มเฟือย โอ้อวด กับพนักงานด้วยการพูดว่า อันนี้ไม่เอา นอกนั้นเอา ทั้งหมด
ปัจจุบันเขาไม่มีโอกาสที่จะได้สัมผัสความเป็นเจ้า ถิ่นนี้ คาดไม่ถึงว่าจะได้ทะลุมิติมายังสมัยก่อน เทวดา ฟ้าดินได้มอบโอกาสแบบนี้ให้กับเขา
“นี่เป็นเป็นครั้งแรกที่เจ้าพูดติดอ่าง” โม่จื่อเฟิงยิ่ง พูดก็ยิ่งรู้สึกว่าเวลานี้นางน่าขันยิ่งนัก เขายืนมือมา เคาะที่หน้าผากนาง”แม่นางทำไมเจ้าถึงโลภมากเช่นนี้ละ เงินทองเป็นของนอกกายหรือว่าเจ้าจะเห็นว่ามัน สำคัญมาก? ”
หลินซีนเยียนปัดมือเขาออก แต่ยังคงเหลือความ ออดอ้อน พูดว่า “ถ้าหากว่าเงินทองเป็นของนอกกาย เช่นนั้นแล้วท่านอ่องจะกล้ำกลืนฝืนทนอยู่เหนือคนอื่น เพื่ออะไรกัน? เงิน ไม่ใช่เพื่อการนั้นรี? “