ตอนที่ 292 ตระกูลเจ้านายที่อยู่เบื้องหลัง
“เคย…เคยได้ยินสิ ศาลาความลับแห่งสวรรค์ที่ชื่อเสียงเกรียงไกร จะไม่เคยได้ยินอย่างไรกัน ข้าไม่ใช่แค่เคยได้ยิน ซ้ำยังรู้อีกว่าเจ้า สํานักของศาลาความลับแห่งสวรรค์มีนามว่าอวินเทียนซี เขามีบุตรธิดา คู่หนึ่งแต่ละคนชื่ออวิ๋นเทียนชิงและอวินเทียนจือ” หลินซึนเยียนยิ้ม แหยๆ หลีกเลี่ยงการทำให้เขาดูออกถึงความผิดสังเกตทำเพียงพูด
คล่องปากในสิ่งที่ตนคิดว่าเป็นความรู้ทั่วไป ใครจะรู้ว่านางเพิ่งกล่าวจบ เหล่าหลิวก็เบิกตาโต นางไม่เข้าใจว่า เหตุใดเหล่าหลิวมีการตอบสนองเช่นนี้ กระทั่งได้ยินเหล่าหลิวลูบหัวไล่ ของนางอย่างเกินจริงและกล่าวกลั้วหัวเราะ “เอาล่ะพี่น้องหลิน ที่แท้ ท่านไม่ใช่คนธรรมดาๆ คนหนึ่ง แม้แต่ความลับเหล่านี้ยังล่วงรู้”
“ความลับ?” หลินซินเยียนอึ้งที่อ ใบหน้างงงวย นางมีเรื่องอะไรที่น่า เลื่อมใสหรือ
ดูสีหน้าของนาง เหล่าหลิวยิ่งไม่อยากจะเชื่อ นิ้วชี้จิ้มนางเบาๆ คราว นี้จึงอธิบายอย่างช่วยไม่ได้ “ในสายตาของพวกท่านชนชั้นสูง ดูท่า พวกนี้ยังไม่นับว่าเป็นความลับแท้จริง สงสารก็แต่พวกเราสามัญชน ใดๆ ก็ตามสามารถสอบถามข้อมูลเพียงเล็กน้อยภายในศาลาความลับ แห่งสวรรค์ล้วนยกย่องว่าเป็นสมบัติล้ำค่า อย่าว่าแต่นามขนานของ บุตรธิดาเจ้าสำนักศาลาความลับแห่งสวรรค์เลย พวกเราสามัญชนแม้ กระทั่งชื่อแซ่ที่แท้จริงของเจ้าสำนักศาลาความลับแห่งสวรรค์ต่างก็ไม่ เป็นอันสืบรู้
“เอ่อ…”* หลินซีนเยียนปราศจากคำพูด คิดไม่ถึงว่าการปกปิดตัวตน ของตนเอง กลับดึงดูดความสนใจของเหล่าหลิวขึ้น แต่ว่า นางจะคาด คิดถึงเสียที่ใดว่าสำหรับคนธรรมดาแล้ว ศาลาความลับแห่งสวรรค์นั้น ลึกลับถึงขั้นนี้กันเชียว
เหล่าหลิวยังนึกอยากสดุดีนางอีกสองสามประโยค ก็เห็นผู้ดูแลในที่ ไกลๆ กระแอมไอเตรียมจะปรารภแล้ว ผู้คนรอบด้านมาถึงเกือบพร้อม เพรียงแล้ว ผู้ดูแลคนนั้นส่งสัญญาณให้ทุกคนสงบคำลง “ทุกท่านล้วนแต่เป็นช่างฝีมือยอดเยี่ยมที่มาเข้าร่วมบททดสอบ เพื่อ ดำรงเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม ข้าเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่าทุกคน ต่างก็ทุ่มเทกำลังอย่างสุดความสามารถ ทว่าคืนวานเกิดเรื่องเช่นนั้น ขึ้น พวกเราก็ไม่อาจไม่ตรึกตรอง ช่างฝีมือคนหนึ่งไม่เพียงแต่ต้องมี ทักษะอันเป็นเลิศ สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือการประพฤติตนตามครรลอง คลองธรรม ดังนั้น วันนี้หัวหน้าโรงงานอาวุธมีคำสั่งลงมาโดยเฉพาะ ก่อนที่จะมีการสืบสวนว่าผู้ใดกันแน่ที่เป็นฆาตกรตัวจริง บททดสอบ ครั้งนี้จะระงับชั่วคราว ทุกท่านโปรดอาศัยอยู่ที่นี่อย่างเบาใจสักระยะ เรื่องเหตุฆาตกรรมนี้พวกเราได้รายงานราชสำนักแล้ว กองปราบผู้ ชำนาญการพิเศษจะเข้ามาสอบสวนเรื่องนี้โดยเร็ว”
หลังจากผู้ดูแลกล่าวปราศรัยจบก็จากไป เพียงเขาก้าวเดินไปเบื้อง หน้า ภายในสวนก็อีกทึกครึกโครมขึ้นมา ช่างฝีมือที่มาเข้าร่วมบท ทดสอบที่นี่ส่วนใหญ่ต่างก็แห่กันมาเพราะเบี้ยอัฐนั่นทั้งนั้น หากว่าวันๆ เอาแต่กินอยู่ที่นี่ แต่ไม่มีการงานทำ เช่นนั้นพวกเขาจะเฝ้ารออยู่ที่นี่ไป ทำไม โดยเฉพาะที่บ้านยังตั้งหน้าตั้งตารอเงินไปเลี้ยงชีพอยู่
ดังนั้นในจุดนี้มีคนจำนวนมากแสดงความปรารถนาจะถอนตัวจาก บททดสอบครั้งนี้ ทว่า เรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่พวกเขาคิด ขนาดนั้น ได้มีองครักษ์ประจำอยู่หน้าประตูเรียบร้อย บอกว่าตอนที่ยัง สืบสวนไม่ชัดแจ้งถึงมือสังหารฆ่าคน คนภายในสวน ใครก็ไม่สามารถ ออกไปได้ เหล่าช่างตีเหล็กที่ถูกเรียกมาเป็นผู้แนะนำเองก็ถูกกัก บริเวณอยู่ภายในสวนเช่นเดียวกัน
ในเรื่องของผลลัพธ์นี้ หลินซีนเยียนทำเพียงมุ่นคิ้ว หากถูกกังขังอยู่ ในนี้ แม้แต่โรงงานอาวุธก็เข้าไปไม่ได้ ก็ไม่ต้องพูดถึงว่าจะประจบประ แจงใต้เท้าหลี่ผู้อารมณ์พิลึกแปลกประหลาดนั่นเลย
“โคตรอารมณ์เสียจริงๆ นี่มันเรื่องอะไรกันวะ!” เหล่าหลิวที่กำลังลูบ หน้าผากของตัวเองก็ลุกลี้ลุกลน “พี่น้องหลิน นี่จะทำอย่างไรดี เพื่อ พวกเขาสืบไม่พบมือสังหารฆ่าคนเลยล่ะก็ เช่นนั้นพวกเราก็ไม่ใช่จะถูก ขังอยู่ที่นี่ตลอดหรอกหรือ พวกเรานั้นไม่มีปัญหา แต่ว่าเรื่องหลักล่าช้า นั่นก็เป็นปัญหาใหญ่แล้ว” “วางใจเถิด ข้าคิดว่าไม่ช้าก็มีคนมาจัดการเรื่องนี้แน่” หลินซีนเยียน กลับไม่ได้กังวลใจขนาดเขา อย่างไรเสีย ตระกูลเจ้านายซึ่งทรง อิทธิพลที่สุดที่อยู่เบื้องหลังนางนั้นถือว่าเทียบเท่ากับจักรพรรดิ…ฟู่ื่อ เทิง เพื่อฟูจื่อเหิงแล้วนางเข้าใกล้ชิดใต้เท้าหลี่คนนั้น ดังนั้นนางเชื่อมั่น ฟูจื่อเทิงจะต้องไม่รามือจัดการเรื่องนี้เป็นแน่
และนั่นเอง ตอนที่ใกล้ยามเที่ยง ก็มีใต้เท้าที่มาจากราชสำนักนำคน มาสอบสวนเรื่องคดีฆาตกรรมนี้ด้วยตนเอง ยิ่งไปกว่านั้นใต้เท้าของ ราชสำนักยังนำพระราชกระแสของจักรพรรดิมาด้วย กล่าวว่าการผลิต อาวุธยังเป็นเรื่องสำคัญ อย่าให้การคัดสรรชางฝีมือล่าช้าเพราะเรื่อง ของคดีฆาตกรรมโดยเด็ดขาด
ดังนั้นยามบ่าย บททดสอบการเข้าใหม่ของโรงงานอาวุธยังต้องจัด ขึ้นอีกครั้งอย่างภาคภูมิใจ
การสอบเข้าใหม่อันที่จริงนั้นง่ายมาก ก็แค่การประดิษฐ์ปืนยาว ธรรมดาที่ใช้สำหรับพลทหารม้าเท่านั้น ปืนยาวที่ผลิตออกมาจะส่งถึง ทางใต้เท้าหัวหน้าโรงงานอาวุธ โดยใต้เท้าจะเป็นผู้ตัดสินด้วยตนเอง ว่าผู้ใดจะรอดเหลือเป็นช่างฝีมือเข้าใหม่ของโรงงานอาวุธ
ข้อนี้เดิมที่ไม่สามารถทำอะไรหลินซีนเยียนได้ ดังนั้นจึงสามารถทำ
ปืนยาวอันน่าคร้ามเกรงหนึ่งกระบอกออกมาได้ภายในเวลาที่กำหนด อย่างราบรื่นยิ่ง เห็นนางมีทักษะและฝีมือเชี่ยวชาญเหล่าหลิวอดไม่ ได้ที่จะยกนิ้วหัวแม่มือให้นางครั้งแล้วครั้งเล่า ก็แม้กระทั่งช่างฝีมือที่ เป็นผู้คุมด้านข้างต่างก็ทอประกายวิบวับทางสายตาอย่างอดไม่ได้ หลังจากที่คนทั้งหมดประดิษฐ์ปืนยาวของตนเองเสร็จแล้ว ก็มีเจ้า พนักงานผู้เชี่ยวชาญนำเอาปืนยาวที่พวกเขาทำขึ้นบรรจุกล่องจากนั้น
จึงนำไปยังภายในสวนของหัวหน้าโรงงานอาวุธ
สวนของหัวหน้าโรงงานอาวุธตั้งอยู่ด้านท้ายสุดของโรงงานอาวุธ ภายในสวนปลูกดอกไม้ใบหญ้านานาพันธุ์ แต่ว่าดอกไม้ใบหญ้านั้นเห็น ได้ชัดว่าไม่ได้รับการดูแลอย่างใส่ใจ ใบหญ้าผุดแทรกกลางดอกไม้ส่ง ผลกระทบรุนแรงต่อต่อมสุนทรียศาสตร์ ภายในสวน ชายวัยกลางคนสวมชุดยาวสีเทาคนหนึ่งกำลังวางหมาก ล้อมกับบุรุษหนุ่มอีกคน หมากกระดานราวกับอยู่ในช่วงเวลาสำคัญ ชายวัยกลางคนถือตัวหมากหนึ่งเอาไว้ มือชะงักกลางอากาศวางไม่ลง เนิ่นนาน
“สรุปท่านจะลงหรือไม่ลง?” บุรุษหนุ่มเริ่มอดใจรอไม่ไหว เร่งเร้าด้วย
ใบหน้าเย็นเยียบ
“ลง ลง แน่นอนว่าต้อง…แต่น่าเสียดาย คำพูดของชายวัยกลางคน นั้นยังไม่ทันสิ้นสุด ก็เห็นหน้าประตูมีคนหนึ่งขบวนแบกกล่องใหญ่โต อันหนึ่งเดินเข้ามาแล้ว เขาเคลื่อนไหวอย่างเฉียบแหลม เอาตัวหมาก ล้อมวางกลับใส่ในกล่อง โบกมือกล่าว “เอาละ ข้ามองว่าชั่วยามครึ่ง พวกเราก็หาผลแพ้ชนะไม่ได้ วันนี้ก็ไม่เล่นแล้ว ข้าต้องไปดูปืนยาวที่ เหล่าช่างฝีมือมาใหม่เหล่านั้นทำแล้ว”
ชายวัยกลางคนคิดเองว่าตนได้หาข้อแก้ต่างอันสมเหตุสมผลที่สุด แล้ว หยัดกายลุกขึ้นด้วยใบหน้าเต็มเปี่ยมรอยยิ้มก็ไปทางหน้าประตู “อีกแค่หมากเดียวก็จะแพ้แล้วแท้ๆ!” ชายหนุ่มวัยรุ่นกัดฟันกรอดกด
เสียงต่ำกล่าวประโยคนี้ออกมา ในอกเห็นชัดว่าไม่พอใจ
ชายวัยกลางคนมีสีหน้าเหยเกแวบหนึ่ง แต่ว่ายังคงทิ้งเสื่อออกไป อย่างมาดมั่น “หมากเดียวก็แพ้แล้วอันใด ข้าไม่เคยแพ้ ลงต่อไป เผลอๆ ข้ายังจะชนะด้วย แต่ว่าท่านดู ของล้วนมาส่งแล้ว ข้าก็ไม่ว่าง แล้วจริงๆ.”
“หนังหน้าหนากว่ากำแพงเมือง ไม่รู้จริงๆ ว่าหัวหน้าโรงงานอาวุธนี้ ท่านเป็นไปได้อย่างไร” ชายหนุ่มวัยรุ่นไม่ใช่คนอื่นไกล ก็คือหลื่อวิ้น ซ่านนั่นเอง
หัวหน้าโรงงานอาวุธยิ้มขุ่น ไม่กล้าต่อบท
สำหรับฉากแบบนี้ คนที่เข้ามาส่งของราวกับเห็นจนชินตา แม้แต่ หัวหน้าโรงงานอาวุธยังอดกลั้นใต้เท้าหลี่ผู้นี้เสียขนาดนี้ พวกเขาเหล่า นี้เป็นคนใต้บัญชายังจะพูดอันใดได้
“เหล่านี้ล้วนเป็นของที่ช่างฝีมือที่มาใหม่ทำออกมา?” หัวหน้าโรงงาน อาวุธเปิดกล่อง หยิบปืนยาวกระบอกหนึ่งออกมาจากกล่องตามใจชอบ เดาะประมาณค่าในมือ จากนั้นก็โยนผลงใส่พื้นอย่างไม่ปรานี ปืนยาว บินราวกับศรแหลมพุ่งยิง กองพะเนินอยู่บนพื้นซึ่งไกลออกไปอย่างไม่ สั่นคลอน
ด้วยกล้ามเนื้ออันแข็งแรงของมือเขา สามารถทำให้คนพลันรับรู้เขา มีพื้นเพเคยเป็นแม่ทัพ ทำเพียงฟังเขากล่าวชื่นชมอีกครั้ง “ของทำออก มาใช้ได้ คือเบาเหมาะมือดี”