ตอนที่ 294 เรื่องสดใหม่
“เอ่อ…ไม่รู้จัก เพียงแต่ได้ยินข่าวว่าช่างฝีมือเซียวต้าเจียเป็นหัวกะทิ ดังนั้นจึงอดใคร่รู้ไม่ได้ เมื่อครู่ท่านยังพูดว่าเขาเป็นโรคประหลาด ข้า เพียงค่อนข้างรู้สึกเวทนาเท่านั้น” หลินซีนเยียนรับปัดป่ายท่าที ตึงเครียด
เหล่าหลิวได้ยินนางกล่าวเช่นนี้ แววพิศวงบนใบหน้าจึงค่อยมลายไป เขาเดินไปบนขั้นบันไดของห้องทำงานเล็กพลางกล่าวทอดถอนใจ “เจาะจงเป็นโรคประหลาดอันใดข้าเองก็ไม่รู้ ข้าก็ได้ยินคนพูดกัน บอก ว่าตอนที่โรคเขากำเริบทรมานนัก พี่น้องที่เล่าให้ข้าฟังคนนั้นเคยเห็น กับตาครั้งหนึ่ง กล่าวกันว่าเซียวต้าเจียกำลังซ่อมเครื่องเหล็กข้างเตา เผา โรคก็กำเริบกะทันหัน ดวงตาทั้งคู่พลันเปลี่ยนเป็นโลหิตแดง ซู เครื่องเหล็กในมือขึ้นก็ทาบบนร่างของตน ราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บ ปวดอย่างนั้นแหละ กว่าจะควบคุมมือเท้าของเขาไว้ก็ไม่ง่ายดาย เขา กลับใช้หัวพุ่งชนเตาเผาเหล็กที่กำลังปะทุร้อนอันนั้น.”
ในสมองของหลินซีนเยียน เต็มไปด้วยฉากภาพที่ทั้งร่างของเซียว ฝานชุ่มเลือดกลับยังใช้ศีรษะชนเตาเผาไฟ หากว่าเขากระทำการ ทั้งหมดตอนขาดสติ นั่นยังถือว่าเคราะห์ดี อย่างน้อยถ้าเป็นแบบนี้เขา ไม่อาจเจ็บปวดมากเท่าไร กลัวก็แต่เขาทำเรื่องทั้งหมดนี้ภายใต้ สติสัมปชัญญะครบถ้วน…
หากว่าใช่ เช่นนั้นเขาน่าจะทุกข์ทรมานนัก ต้องการถึงสภาวะที่ตาย ดีกว่าเป็น จึงสามารถไม่สนใจว่าตนเองจะบาดเจ็บจนตายลงขนาดนั้น หรือ
นางควบคุมภาวะทางอารมณ์ของตนเองอย่างสุดความสามารถ ทว่า ในที่สุดในขอบตากลับขึ้นสายน้ำค้างออกมาอย่างอดไม่ได้
“พี่น้องหลิน ท่านรีบมา ข้าจะแนะนำพี่น้องไม่กี่คนในห้องทำงานเล็ก นี้แก่ท่านสักหน่อย” ราวกับเหล่าหลิวคุ้นเคยกับโรงงานอาวุธนี้เป็น อย่างดี ผลักประตูเปิดของห้องทำงานเล็กออกพลางเดินเข้าไป ซ้ำยืน ข้างประตูหันหน้ามาเรียกหลินซีนเยียน หลินซีนเยียนจึงค่อยเรียกสติกลับมา รีบกล้ำกลืนน้ำค้างในขอบ ตากลับเข้าไป ฝันแย้มยิ้มออกมา นางสาวเท้าเข้าสู่ภายในห้องทำงาน เล็ก
“นี่ก็คือช่างฝีมือที่ใต้เท้าหลี่แต่งตั้งให้มาทำงานรับช่วงต่อแทนเซียว ต้าเจียด้วยตนเอง อย่ามองว่าพี่น้องหลินอายุน้อย ทักษะนั้นไร้เทียม ทานนัก พวกเจ้าไม่กี่คนก็อย่ารังแกเขา ข้าเหล่าหลิวจะจับตาดูพวกเจ้า อยู่เหล่าหลิวหัวเราะพลางหยอกเย้าไม่กี่คนในห้องทำงานเล็ก
คนจำนวนนั้นพอได้ฟัง พลันหัวเราะขึ้นมา ต่างก็เป็นช่างเหล็ก อุปนิสัยก็ล้วนเป็นมิตร “เข้าใจล่ะเหล่าหลิว คนที่ท่านพามาพวกเรากล้า รังแกเสียที่ไหน ย้อนกลับไปท่านเหล่าหลิวผู้จำแค้นฝังใจวันๆ เอาแต่ มารบกวนพวกเรา พวกเราก็กลัวนา อีกอย่าง พวกเราเป็นเพียง ช่างเหล็กธรรมดา เป็นคนงานรับจ้าง ฟังคำกล่าวของพี่เล็กช่างฝีมือคน นี้ยังสายไปนะ”
“เจ้าหมอนี่เข้าใจก็ดี รอกลับไปพี่น้องหลินได้รับความโปรดปราน จากเบื้องบน ปฏิเสธไม่ลงว่าคงได้ดิบได้ดีกว่าพวกเจ้าไม่กี่คนมากโข แล้วกัน” เหล่าหลิวถึงแม้จะกล่าวเสียดสีในตอนต้น ทว่ายังคงเอาเงิน ปลีกที่เตรียมไว้ล่วงหน้าโยนผลุงยังเบื้องหน้าของคนไม่กี่คน กล่าว พลางหัวเราะ “นี่ไม่ใช่ให้ค่าตอบแทนพวกเจ้าไม่กี่คน นี่เป็นข้าเหล่า หลิวเลี้ยงพวกเจ้าร่ำสุรากัน
“เหล่าหลิว ท่านเกรงใจขนาดนี้ทำไมกัน” ไม่กี่คนพูดพลางก้มเก็บ เงินปลีก ปราศจากท่าทีเกรงใจต่อเหล่าหลิว
หลินซีนเยียนเห็นว่าไม่กี่คนมีลักษณะท่าทีอันกลมเกลียว ยิ่งรู้สึกว่า
เหล่าหลิวคนนี้ความฉลาดทางอารมณ์สูงเสียจริง ไม่แปลกใจที่ได้รับ ความไว้วางใจจากโหวให้แฝงตัวอยู่ในโรงงานอาวุธระยะยาว หลังจากที่ไม่กี่คนว่างงานพูดคุยกันหลายประโยค คนจำนวนนั้นจึง นำเอาแผ่นแปลนของเซียวต้าเจียที่ทิ้งไว้อยู่นี่ก่อนหน้ากับดาบหิรัญที่
ทำไปแล้วครึ่งหนึ่งถือมายังเบื้องหน้าของหลินซีนเยียน เหล่าหลิวย้ายตั้งนั่งวางไว้ใต้เชิงเทียนอันหนึ่ง หลินซีนเยียนนั่งอยู่ ใต้แท่นหลักนำแผ่นแปลนนั้นคลืออกมาดู เพียงปราดเดียว นางก็รู้สึก กลางขอบตาบาบแสบจนทนไม่ไหว ร่องรอยตัวอักษรบนแผ่นแปลนอัน นั้น นางคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง
เป็นเซียวฝานจริงด้วย เป็นเขา! เขาอยู่ในโรงงานอาวุธแห่งนี้จริงๆ ด้วย! หากไม่ใช่ว่ารอบด้านมีคนมองอยู่ เดาว่านางต้องไปยังสถาน ที่พักของเซียวฝานทันทีไปดูว่าสรุปแล้วเขาเป็นอย่างไรกันแน่
“พี่น้องหลิน เป็นอย่างไรบ้าง ดาบหิรัญเล่มนี้ท่านทำต่อได้หรือไม่” เหล่าหลิวเห็นนางดูแผ่นแปลน ไม่พูดไม่จาสักพัก เริ่มวิตกขึ้นมาอย่าง ห้ามไม่ได้ เซียวต้าเจียคนนั้นไม่เหมือนกับช่างเหล็กคนอื่นๆ แผ่นแปลน ที่วาดขึ้นมาช่างเหล็กบางคนต่างก็ดูไม่รู้เรื่อง
หลินซีนเยียนกลิ่นน้ำลาย บังคับตนเองให้ซ่อนเร้นอารมณ์ลงไป คราวนี้จึงเงยหน้ากล่าว “ทำได้ ส่วนของดาบหิรัญนี้กับดาบหิรัญเล่ม อื่นไม่เหมือนกัน เพียงแค่ตรงขอบคมกว่าและบริเวณปลายดาบมีตะขอ สามเหลี่ยมอันหนึ่งก็เท่านั้น ถึงแม้การออกแบบจะไม่ซับซ้อน ทว่าต้อง ใช้สิ่งของที่มีอยู่ในตอนนี้ประดิษฐ์ขึ้นยังคงลำบากนัก แต่ว่าเคราะห์ดี ที่เชียวต้าเจียได้ทำไปแล้วเกือบทั้งหมด พวกเราเพียงแค่ต้องจัดการ ส่วนสุดท้ายก็เป็นอันเรียบร้อยแล้ว”
ฟังนางกล่าวอย่างชัดเจนและมีแบบแผน เหล่าหลิวจึงค่อยโล่งใจ ตบไหล่ของนางพลางกล่าว “เช่นนั้นพี่น้องหลินรีบทำให้เสร็จตามเวลา เถิด ผ่านไปอีกสามวันก็ถึงเวลาต้องส่งพัสดุแล้ว ถึงเวลานั้นขุนพลหลี่ จะมารับพัสดุด้วยตนเอง ขุนพลหลี่ผู้นั้นอายุครึ่งศตวรรษ อารมณ์ก็ ร้ายยิ่งนัก เผื่อว่าเขาไม่พอใจแล้ว หัวซุกหัวซุนอย่างไรก็ต้องด่าสัก ฉาด”
หลินซีนเยียนพยักหน้า แสดงออกถึงความเข้าใจ จึงค่อยเริ่มต้น ประดิษฐ์ดาบหิรัญต่อกับพวกพี่ใหญ่ช่างตีเหล็ก
เหล่าหลิวก็เป็นช่างตีเหล็กดังนั้นจึงอยู่ต่อให้ความช่วยเหลือโดย ปริยาย ไม่กี่คนยังง่วนเรื่อยมาจนถึงกลางดีกจึงค่อยพักผ่อน เช้ามืดใน วันถัดมาก็เริ่มทำเรื่องในมือต่อ สองวันติดกัน ไม่กี่คนล้วนยุ่งง่วนแต่เช้ายันดึก ไร้ซึ่งความรู้สึกถึง การผันผ่านของวันเวลา ถึงวันที่สาม ช่างเหล็กจำนวนหนึ่งต่างก็เบิกตา ไม่ขึ้นแล้ว หลินซีนเยียนเองก็ตรากตรำจนใกล้จะเปิดเปลือกตาไม่ขึ้น
เหล่าหลิวรับอาสาไปห้องครัวเพื่อนำซุบพลัมเปรี้ยวหวานมา โรงงาน อาวุธกับบริเวณอื่นไม่เหมือนกัน ต่อให้ในฤดูหนาว อุณหภูมิในโรงงาน ยังสูงนัก ดังนั้นห้องครัวจึงเตรียมซุปพลัมเปรี้ยวหวานไว้บ่อยครั้ง ใน วันปกติ ไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้าอ่อนเพลียเมื่อไรล้วนไปขอซุปสักถ้วยมา ปลุกตื่นความสดชื่น
เหล่าหลิวกลับมาอย่างรวดเร็ว กลางมือยังยกซุปพลัมเปรี้ยวหวาน ชามโตหนึ่งถ้วย “เหล่าพี่น้อง รีบเร่เข้ามา ซุปพลัมเปรี้ยวหวานสดใหม่ มาแล้ว ดื่มสักอีกแล้วค่อยไปทำต่อ”
ช่างเหล็กไม่กี่คนได้ยินดังนั้นก็วางของในมือลงแล้วตีวงเข้ามา หลิน ซีนเยียนนวดวนขมับ และวางกระดาษทรายในมือลงหยัดกายลุกขึ้น
“พวกเจ้ารู้หรือไม่ หลายวันนี้มานี้ในโรงงานอาวุธเกิดเรื่องราวสด ใหม่ขึ้นแล้ว” หลังจากที่เหล่าหลิวแบ่งสรรซุปพลัมเปรี้ยวหวานให้คน ไม่กี่คนเสร็จ เจ้าตัวยกถ้วยขึ้น ดื่มไปพลางพูดคุยไปพลาง
“เรื่องสดใหม่อะไร ท่านพูดมาให้ฟังสักหน่อยเถิด” ช่างเหล็กหลาย นายเองก็เสริมทัพขึ้นมายากจะมีเวลาว่างพูดคุยจิปาถะ ใครก็ไม่อยาก พลาดโอกาสนี้ไป
เหล่าหลิวหัวเราะร่า หลังจากบอกใบ้ให้คนคาดเดาแล้วจึงกล่าว “ได้ยินว่าหลายวันมานี้ใต้เท้าหลี่พลิกทั้งสวนด่าคน!”
“นี่นับว่าเป็นเรื่องสดใหม่อะไร ใต้เท้าหลี่อารมณ์แบบนั้น วันไหนที่ไม่ ด่าคนบ้าง” ด้านข้างมีคนสบประมาทขึ้นมาทันควัน
“เจ้าจะไปรู้อะไร ในวันที่ล่วงเลยมาใต้เท้าหลื่ออกมาจากภายในสวน ของตัวเองน้อยครั้งมาก หลายวันนี้กลับมาค้นหาพลิกสวน ทุกคนต่าง ก็คาดเดาอยู่ จุดประสงค์ที่แท้จริงของใต้เท้าหลี่คือกำลังหาใครกันแน่ เผลอๆ อาจจะเป็นมือสังหารในคดีฆ่าคนนี้ก็ไม่แน่” เหล่าหลิวกลึงตาใส่ คนผู้นั้นแวบหนึ่ง รีบอธิบายทันใด ช่างตีเหล็กหลายนายพอได้ฟัง จึงค่อยพยักหน้าอย่างคล้อยตาม “หากท่านพูดแบบนี้ล่ะก็ จะต้องมีความเป็นไปได้จริงๆ เพียงแต่ สามารถทำให้ใต้เท้าหลี่พุ่งความสนใจไปได้ คนผู้นั้นต้องแปดเปื้อนไป แปดชั่วโคตร ใต้เท้าหลี่เป็นคนเอาเรื่องคนหนึ่ง ในยามปกติใครยั่วยุ เขาต่างก็ถูกทำปางตาย ครั้งนี้สามารถทำให้เขาพลิกสวนหาคนได้ ผู้นั้นต้องถูกตามตัวพบแน่ โอ เคราะห์ร้ายนา” คน