ตอนที่330แอบหดหู
ก็ไม่รู้ว่าเส้นเอ็นของข้าไม่ดีหรือเมื่อเห็นท่าทางของหลินเยียนทั้ง กังวลและคุ่นเขืองทันใดนั้นใจของเขาก็กระตุ้นแล้วเปิดปากพูดออกไป แม้แต่ตนเองบางครั้งยังไม่เชื่อ”ได้ให้นางอยู่ต่อ”
“หลี่อวิ่นซ่าน!”หลินเยียนโกรธสุดขีดก็เรียกชื่อเขาต่อหน้าทุกคน ทั้งชื่อทั้งแซ่
หลื่อวิ้นซ่านขมวดคิ้วก็แค่ก็จะระเบิดออกมาแต่ว่าเมื่อเห็นหลินซีน เยียนน้ำตาคลอถึงได้ทนต่อไป”เอาล่ะในเมื่อข้าตัดสินใจแล้วก็ไม่ต้อง พูดอะไรอีก”
หลังจากพูดจบหลื่อซานหันหลังกลับต่อหน้าทุกคนที่ยืนอยู่หน้า
ประตูแล้วพูด: “ต่างแยกแยะไปเตรียมของตัวเองให้เรียบร้อยอีกครึ่ง
ชั่วยามจากนี้พวกเราจะออกเดินทาง”
ทุกคนต่างเห็นสีหน้าของหลี่อวิ๋นซ่านไม่ดีนักใครก็ไม่กล้าคิดจะไป คลายปมให้ดังนั้นจึงได้แยกย้ายเหมือนนกแตกรัง
เพียงแต่ว่าไม่มีใครเห็นหลังจากที่เขาหันหลังกลับบนหน้าของเขา สำนึกผิดและเสียใจเขาก็ไม่รู้ว่าตนเองนั้นเป็นอะไรไปทั้งๆที่รู้ว่าผู้หญิง ที่ไม่ทราบที่มานั้นไม่ควรให้อยู่ต่อแต่ว่าดูเหมือนว่าเขาไม่คุ้นชินกับ สายตาห่วงใยของหลินซีนเยียนที่มองเซียต้าเจียเช่นนั้นดังนั้นเขาให้ นางอยู่ต่อมีผู้หญิงคนนั้นค่อยอยู่ข้างกายเซียวต้าเจียนางก็ไม่สามารถ ไปยุ่งเกี่ยวกับเซียนต้าเจียได้อีก
หลินไม่รู้ว่าซ่านนั้นตัดสินใจด้วนความเห็นแก่ ตัวนางเพียงแต่มองผู้หญิงที่ซบอกของเซียวฝานอย่างไม่พอใจ
ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนว่าจะดูว่าหลินเยียนไม่พอใจนางอย่างไร ก็ตามนางไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องทำดีกับหลินเยียนดังนั้นหลัง จากที่ทุกคนออกไปนางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า: “ทำไมเจ้ายังไม่ ออกไป?ทำไมยังจะอยู่ดูความเร่าร้อนของพวกเราสามีภรรยาหรือ อย่างไร? ในสังคมศักดินานี้ผู้หญิงที่สามารถพูดเช่นนี้ออกมาได้มีที่ไหนกัน?
ท่านเซียวนั้นก็แสดงท่าทางเหมือนกับว่าเป็นเจ้านายเช่นนั้นพูดกับ หลินซีนเยียนว่า : “เจ้านี่นิอย่างคิดว่ามาช่วยข้าจัดการกับปัญหาสอง สามคืนแล้วไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงรีบออกไปซะอย่าอยู่ขวางลูกหูลูกตาลูก สะใภ้ของข้า!
หลินซีนเยียนกัดฟันกรอดแต่ก็ยังไม่มีวิธีจัดการไอ่แก่และผู้หญิงคน นี้ได้แต่เพียงกำมือแน่นแล้วออกไป
เมื่อนางกลับถึงห้องด้วยความโกรธหนีหว่านก็รออยู่ในห้องก่อนแล้ว “หนีหว่าน? “ทันใดนั้นนางถึงได้สติเมื่อคืนนางให้หนีหว่านไปสำรวจ ผู้หญิงคนนั้นรีบถามทันที: “ผู้หญิงคนนั้นต้องการอะไรกันแน่?”
หนีหว่านมองไปนอกหน้าต่างโดยไม่รู้ตัวเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อน
หน้านี้นางแล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า: “คิดไม่ถึงการกระทำของพวก
เขาจะรวดเร็วเช่นนี้ไม่รีรอรีบเข้ามาแต่เช้า”
“เจ้าพูดเร็วสิตกลงนางมาจากไหน?”หลินซีนเยียนเห็นว่าหนีหว่าน ชักช้าทนไม่ได้กระวนกระวายที่จะเร่งคำตอบจากนาง
“เร่งทำไมข้าจะรายงานเจ้าอย่างละเอียดยิบเลย”หนีหว่านมองบนใส่ นางแล้วถึงพูดว่า: “นางเป็นลูกสาวของช่างฝีมือในท้องถิ่นท่านปู่ของ เคยเป็นศิษย์ของศาลาความลับแห่งสวรรค์แต่ที่บ้านของพวกเขามีกฎ อยู่ข้อหนึ่งคืองานฝีมือถ่ายทอดให้ชายไม่ถ่ยทอดให้หญิงถ่ายทอดให้ ผู้ใหญ่ไม่ถ่ายทอดให้เด็กดังนั้นถึงแม้นางจะเป็นลูกคนแรกแต่ก็ไม่มี สิทธิ์สืบทอดงานฝีมือของตระกลู”
หนีหว่านหยุดชั่วคราวแล้วดื่มน้ำมองทางหลินซีนเยียนอย่างมีความ หมาย”แม้ว่านางจะเป็นหญิงก็ไม่เต็มใจที่จะถูกปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม ณจุดนี้นางก็เหมือนเจ้า ดังนั้นนางจึงติดต่อกับคนที่อยู่ในศาลาความ แห่งสวรรค์ที่ด้านหลังเป็นเช่นที่เจ้ารู้นั้นแหละนางใช้ความงามในการ หลอกล่อท่านเซียวให้ติดกับ”
“นางเข้ามาในขบวนนี้มีจุดประสงค์อะไร?”หลินซีนเยียนกังวลมาก จึงถามอีกครั้ง เห็นท่าทางนางเช่นหนหว่านอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจพูดเสียงเย็น ว่า: “ฮูหยินในเวลาหนึ่งคืนข้าสามารถตรวจสอบมากมายเช่นนี้ก็ไม่ใช่ เรื่องง่ายแล้วสิ่งที่ควรพูดก็พูดหมดแล้วให้มากกว่ายังตรวจสอบไม่ถึง”
หลินซีนเยียนตระหนักได้ว่าตัวเองนั้นเหมือนว่าจะผิดปกติเล็กน้อย ถึงได้หายใจเข้าลึกๆทำให้ตัวเองใจเย็นลงอย่างไม่เต็มใจ”หนีหว่าน ขอบคุณเจ้ามาก”
หนีหว่านโบกมือไปมา”เพียงแต่ครั้งหน้าเจ้าอย่าข่มขู่พวกข้าก็ พอ”พูดจบหนีหว่านก็หมุนตัวแล้วออกไปจากห้อง
ภายในห้องเงียบสงบลงอีกครั้งแต่ว่าในใจของนางยังคงเหมือน หมาป่าบ้าคลั่ง
คนในศาลาความลับแห่งสวรรค์นั้นพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเข้า
โรงงานอาวุธและแม้กระทั่งพาคนที่เหมือนระเบิดเวลาอย่างเซียวฝาน
ที่นี้มีการดำเนินการมากมายผู้หญิงนั้นดูเหมือนไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด จุดประสงค์ของพวกเขาคืออะไรกัน?มีอะไรคู่ควรให้พวกเขาสนใจ? เกิงจีนหรือ?หรือว่าเป็นของที่ดึงดูดคนได้มากกว่าเกิงจีน
ปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลินซึนเยียนไม่รู้จักและไม่เข้าใจดังนั้นทำได้ เพียงไปที่ละขั้นที่ละขั้น
หลังจากครึ่งชั่วยามผ่านไปขบวนถูกปรับโครังสร้างใหม่เรื่องที่เกิด ขึ้นเกี่ยวกับเซียวต้าเจียในโรงเตี้ยมนั้นทุกคนกลับมองว่ามันน่าสนใจ เอามานินทากัน
หลินซีนเยียนที่นั่งในรถม้าไม่ใช่เพียงครั้งแรกที่ได้ยินผู้คุ้มกันที่ด้าน นอกพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ส่วนมากจะพูดว่าเซียวต้าเจียเงียบๆหงิมๆ แม้แต่สาวงามเช่นนั้นยังทิ้งได้
หลินซีนเยียนยิ่งฟังยิ่งรู้สึกไม่พอใจศิษย์พี่ใหญ่สติไม่ดีและนางไม่ สามารถที่จะปกป้องเขาได้แม้แต่น้อยยังพูดอยู่ตลอดเวลาว่าจะแก้ แค้นแทนพวกเขา?นางดูแคลนตัวเองเล็กน้อยดังนั้นระหว่างทางถึงได้ กดดันตัวเองและการสูญเสียของหลินซีนเยียนอยู่ในสายตาของหลื่อ วิ่งซ่านทั้งหมด” ภายในรถม้าหลี่อวิ๋นซ่านถือเหล้าขาวไห่หนึ่งดื่มจากปากไห่เหล้า ขาวไหลออกมาจากมุมปากเขายกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดนัยตาเศร้าหมอง
“ผู้ชายนั้นมีดีอะไรสามารถทำให้จิตของเจ้าไม่อยู่กับเนื้อกับตัว…”
หลินซีนเยียนยิ่งให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเท่าไรในใจเขาก็ยิ่ง เจ็บปวดแม้แต่คุ้มกันที่อยู่ข้างกายยิ่งอยู่ก็ไม่เกรงใจไม่กี่วันก็ถูกหลี่อ วิ่นซ่านหาเหตุผลมาลงโทษไม่น้อยกว่าสิบคน
เมื่อจวนใกล้จะถึงชายแดนผู้คุ้มกันที่อยู่ล้อมรอบเหล่านั้นเหลือเพียง สองคนคนอื่นนั้นล้วนแล้วแต่อยู่ห่างเขาออกไป
ประเทศหนานเยว่และปนะเทศเป่ยหมิงมีชายแดนห่างกันนับพันลี้ ทุกๆร้อยลี้จะมีเมืองใหญ่ในเมืองจะมีทหารค่อยเฝ้ายามอยู่ในอดีตพ่อ ของหลินซีนเยียนก็เป็นทหารปกป้องชายแดนเพียงแต่ว่าหยุนเฉินห่าง จากเมืองที่พวกเขามาถึงก็ระยะทางหลายร้อยลี้
เมืองนี้ตั้งอยู่เขตชายแดนที่ใกล้ขอบที่สุดของประเทศหนานเยว่และ ประเทศเป่ยหมิงดังนั้นเมื่อเทียบกับที่อื่นนั้นเมืองเมืองนี้นั้นร้างมากนัก
พวกเขาเหล่านี้มาถึงเมืองนี้นั้นเป็นเวลาตอนเที่ยงพูดตามเหตุและ ผลนั้นควรเป็นเวลาที่คึกคักที่สุดแต่ว่าเมื่อพวกเขาทุกคนเดินบนถนน นั้นกลับมองเห็นแค่ไม่กี่คนแม้แต่ร้านข้าวเล็กๆก็มีไม่กี่ร้านร้านขายของ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมีกว่าครึ่งที่ไม่ได้เปิด
คราวนี้หลี่อวิ๋นซ่านไม่ได้พาขบวนไปพักที่โรมเตี้ยมแต่กลับพาคน ตรงไปบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ทางเหนือของเมืองหมู่บ้านนั้นมีห้าหกลาน ประตูไม่ได้หรูหรามากนักและยังมีความเก่าแก่เป็นเดือนเป็นปีที่เงียบ สงัดเจ้าของบ้านนั้นดูเหมือนว่าได้รับข่าวคราวมาแล้วดังนั้นจึงได้รอรับ ทุกคนที่หน้าประตู