ตอนที่407วัดท่ายเฟย
วัดท่ายเฟย?”หลีฮวนพึมพำคำนี้ ออกมาแล้วก็ดึงเด็กรับใช้เดินออกไป นอกภัตตาคาร
พอพวกนางออกไปอินฉีและหลิน ซีนเยียนก็ลุกขึ้นทั้งสองมองตากัน แวบหนึ่งเห็นความงุนงงสงสัยผ่าน ทางสายตาของอีกฝ่ายหลีฮวนพาเด็ก รับใช้คนนั้นขี่ม้าไปเหมือนเดิมส่วนอิน ฉีและหลินซีนเยียนก็นั่งรถม้าไป
บนรถม้าสีหน้าของหลินซีนเยียน เคร่งขรึมมากอดถามอินฉีไม่ได้ว่า:”วัด ท่ายเฟยของแคว้นหมันเป็นวัดหรือว่า เป็นที่พักอาศัยของคนกัน?” อินฉีประหลาดใจเล็กน้อยที่นาง ถามคำถามแบบนี้ออกมาแต่ว่าลองคิด อย่างละเอียดดูแล้วถึงจะเข้าใจก็จริง ถ้าหากว่าเป็นแค่วัดจริงๆทางการก็ คงจะไม่พาคนไปที่นั่นหรอก
“วัดท่ายเฟยของแคว้นหมันพูด ตามตรงแล้วก็ไม่ใช่วัดแต่เป็นกรงคุม ขังพระมเหสีแค่นั้นมันถูกสร้างขึ้นหลัง จากฮ่องเต้แคว้นหมันขึ้นครองบัลลังก์ แล้วคิดจะกำจัดทุกอย่างทิ้งในวัดท่า ยเฟยคนที่อาศัยอยู่ล้วนแต่เป็นพระ มเหสีของฮ่องเต้องค์ก่อนฮ่องเต้ แคว้นหมันไม่ได้ฆ่าพวกเขาทิ้งเพียง แค่คุมขังพวกเขาไว้ถือเป็นการยอม ถอยที่มากที่สุดแล้วแล้วก็เป็นเพียง เพราะกลัวว่าเข่นฆ่ามากไปจะทำให้ เหล่าเสนาบดีทั้งหลายไม่พอใจก็ เท่านั้น”อินฉีอธิบาย
หลินซีนเยียนพยักหน้าเล็ก น้อย”ถ้าตามที่เจ้าพูดมาผู้ที่อยู่ที่วัดท่า ยเฟยล้วนเป็นผู้หญิงที่ถูกขังไว้ก็ เท่านั้นตามหลักแล้วก็ต้องไม่มีอำนาจ อะไรมากมายแล้วทางการพาคนไปที่ วัดท่ายเฟยมันจะเป็นอะไรได้บ้าง?”
อินฉีนิ่งเงียบไปพักหนึ่งราวกับคิด หาอะไรอยู่ผ่านไปสักพักเขาถึงจะพูด ออกมาอย่างช้าๆ:”ผู้หญิงพวกนั้นถึง แม้ว่าจะไม่มีอำนาจอะไรแต่ว่ายังไงก็ เป็นผู้หญิงของฮ่องเต้องค์ก่อนหากว่า ข้าคาดเดาไว้ไม่ผิดในผู้หญิงพวกนั้น จะต้องมีคนที่ได้รับความรักใคร่จาก ฮ่องเต้องค์ก่อนแล้วก็เข้าใจเหล่าลูกๆ เชื้อพระวงศ์เป็นอย่างดีอยู่แน่ๆ”
หลินซีนเยียนไม่กล้าพูดต่อนิด หน่อยแต่นางรู้ความสามารถของอิน ฉีดีหากว่าเป็นสิ่งที่เขาพูดออกมายัง ไงก็ถูกต้องครึ่งหนึ่งนางอดที่จะคิดถึง เกี่ยวกับข่าวลับในราชวงศ์แคว้นหมัน อันนั้นไม่ได้ที่ได้ยินมาฮ่องเต้แคว้น หมันไล่ตามฮ่องเต้ที่ก่อกบฏและพ่าย แพ้ไปจนถึงชายแดนประเทศหนาน เยว่หากว่าตอนนี้มันเกี่ยวข้องมาถึงวัด ท่ายเฟยแล้วล่ะก็งั้นก็อาจจะเกี่ยวกับ ข่าวลับนั้นด้วย?
ไม่รู้ว่าทำไมถึงแม้อินฉีจะตอบ คำถามหลินซีนเยียนตรงๆแล้วแต่หลิน ซีนเยียนกลับรู้สึกว่ามันมีบางอย่าง แปลกๆเซ้นส์ของผู้หญิงนี่แปลกมา อย่างกะทันหันแต่กลับแม่นยำดังนั้น นางก็เลยไม่พูดอะไรอีกจนกระทั่งรถ ม้าขับมาเรื่อยๆแล้วก็หยุดลงที่ ชานเมืองของเมืองหลวง
เหนื่อยมาทั้งวันแล้วท้องฟ้าก็มืด สนิทถิ่นทุรกันดารนี้แทบจะไม่มีผู้อยู่ อาศัยอยู่เลยนอกจากหมู่บ้านที่ดูทรุด โทรมแล้วก็แทบจะไม่มีสิ่งก่อสร้าง ใดๆอีกเลย
หลีฮวนถึงจะเป็นคนใจร้อนแต่ก็ ไม่โง่ยังคงรู้ว่าจะเข้าไปอย่างโจ่งแจ้ง ไม่ได้ดังนั้นจึงอ้อมไปที่ประตูหลังของ หมู่บ้าน
ที่นี่ยังไงก็แค่ตำหนักที่ใช้คุมขังผู้ หญิงก็เท่านั้นหลายปีมานี้ก็มีเพียง ทหารรักษาการณ์สี่ห้าคนรับผิดชอบ คุ้มกันที่นี่แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยเกิด เรื่องอะไรขึ้นดังนั้นทหารรักษาการณ์ ของที่นี่ก็เลยไม่ค่อยเข้มงวดอะไรดัง นั้นทั้งสองคนเลยคิดว่าจะผ่านเข้าไป นั้นคงไม่ยาก
หลินซีนเยียนตามอินฉีลงรถม้า ลงไปกำลังคิดว่าจะใช้วิธีอะไรเข้าไป ในตำหนักก็เห็นอินฉีเดินไปเคาะประตู ดังก๊อกๆเรียบร้อยแล้ว
เจ้าแบบนี้มัน..”หลินซีนเยียนยัง ไม่ทันได้ถามให้ชัดเจนก็เห็นประตู หมู่บ้านถูกคนเปิดออกแล้วทหาร รักษาการณ์คนหนึ่งหาววอดยื่น หัวออกมา “พวกเจ้ามาทำอะไร?”ทหาร รักษาการณ์มองผ่านทั้งสองคนรอบ หนึ่ง
อินฉีเดินหน้าเข้าไปทำความ เคารพหยิบตราสัญลักษณ์ของฉินชิง เฟิงออกมาแล้วพูดว่า:”พวกข้ามาจาก เมืองชุนมีคำสั่งจากฉินเฉิงจู่ให้มา จัดการบางอย่างในเมืองแต่ว่าวันนี้ก็ ค่ำมืดแล้วถนนหนทางไม่สะดวกน้อง สาวของข้าก็ถูกลมหนาวท่านก็รู้สภาพ แวดล้อมของเมืองหลวงนี้ดีที่นี่ตอน กลางคืนหนาวเหน็บจนทำให้ผู้คนป่วย ไข้ได้เลยตอนนี้ที่ประตูเมืองของเมือง หลวงก็ปิดไปแล้วพวกข้าก็เข้าเมือง ไม่ได้ดังนั้นก็เลยอยากจะมาขอ รบกวนที่นี่สักคืนหวังว่าพี่ชายจะ อำนวยความสะดวกแก่พวกข้าด้วย
หลินซีนเยียนเงียบไปสักพัก แม้ว่าคำอธิบายของอินฉีจะดูปกติไม่ ผิดสังเกตใดๆแต่ว่าแบบนี้ก็เข้าไปได้ แล้วนี่มันไม่ดูง่ายไปหน่อยหรอ?ทหาร รักษาการณ์ที่นี่คงจะไม่ประมาทขนาด นั้นหรอกมั้ง?
แต่ว่าราวกับเป็นตามที่หลินซีน เยียนคาดคิดไว้แววตาของทหารรักษา การณ์คนนั้นเป็นประกายมองไปทาง ข้างหลังเขาสองคนแวบหนึ่งเห็นเพียง แค่คนขับรถคนเดียวที่ติดตามทั้งสอง คนมาไม่มีคนอื่นๆอีกบนใบหน้าก็ ปรากฏสีหน้าสบายใจ
อินฉีเหมือนจะเตรียมการไว้แต่ ต้นล้วงเช็คเงินสดใบหนึ่งออกมาจาก อกเสื้อแล้วยื่นออกไป”พี่ชายโปรด วางใจพวกเราไม่อยู่ที่นี่หรอกอีกอย่าง ถึงท่านจะไม่เชื่อข้าท่านก็ควรเชื่อตรา สัญลักษณ์ของฉินเฉิงจู่ไม่ใช่หรือยัง ไงก็เป็นคนที่ทำงานให้ทางการทั้งนั้น ก็ต้องมีตอนที่ลำบากบ้างช่วยเหลือผู้ อื่นก็เหมือนช่วยให้ตัวเองสบายไป ด้วย”
ตอนแรกทหารรักษาการณ์ก็มี ลังเลอยู่บ้างพอฟังที่อินฉีโน้มน้าวแล้ว ในที่สุดก็อดใจกับเสน่ห์ยั่วยวนของ เช็คเงินสดไม่ได้รับเช็คเงินสดนั้นไป แล้วก็เปิดประตูบ้านออกให้พวกเขา เข้าไป
ผ่านเข้าประตูมาทหารรักษา การณ์ก็พาพวกเขาเดินไปทางเรือน ข้างๆบนทางเดินเหมือนพยายามหลบ เลี่ยงเรือนหลังรอจนพาเขาทั้งสาม เดินมาถึงเรือนพักแล้วทหารคนนั้น เลยพูดขึ้นว่า:”ที่พักให้เจ้าพักได้แต่ว่า จำไว้ด้วยล่ะอย่าออกไปนอกประตู เรือนนี้แม้แต่จะกินอาหารก็ตามอีกสัก พักข้าจะนำมาให้เจ้าเองกลางคืนดึกๆ อย่าออกมาเดินเพ่นพ่านในหมู่บ้าน แห่งนี้มียายแก่บ้าอยู่หลายคนน้องสาว ของเจ้าผิวพรรณงดงามหากว่าได้รับ บาดเจ็บขึ้นมาอย่ามาโทษข้าว่าไม่ เตือนพวกเจ้าก็แล้วกัน”
พี่ชายวางใจเถิดออกไปเพ่นพ่าน ข้างนอกกฎพวกนี้พวกข้าพอจะรู้อยู่ บ้าง”อินฉีทำมือเคารพแล้วให้คนขับ รถไปส่งทหารคนนั้นออกไป
รอจนทหารคนนั้นออกไปแล้ว หลินซีนเยียนเลยอดไม่ได้ที่จะถามสิ่ง ที่สงสัยที่ค้างคาอยู่ในใจ”เจ้ารู้ได้ยัง ไงว่าทหารคนนั้นจะให้พวกเรายืม ที่พัก?”
อินฉียิ้มออกมานัยน์ตาเป็นประ กายน้อยๆ”หมู่บ้านนี้มีมาตั้งสิบกว่าปี แล้วเจ้าเห็นมีรอยซ่อมแซมบ้างหรือ ไม่?”
หลินซีนเยียนส่ายหน้า
อินฉีเลยพูดต่อ:”ไม่มีรอย ซ่อมแซมก็แปลว่าสถานที่นี้ไม่ได้ถูก ให้ความสำคัญสถานที่ที่ถูกละเลยจะมี เงินทองเข้ามาสักแค่ไหนกัน?ทหาร รักษาการณ์ที่คุ้มกันอยู่ที่นี่ก็ได้รับ หน้าที่ที่ไม่ดีนักตลอดทางก็ไม่มีสิ่ง ก่อสร้างอื่นเลยหมู่บ้านนี้ไม่มีจุดเด่น อื่นเลยก็แค่มีจำนวนบ้านเยอะพอดัง นั้นข้าคิดว่าทหารรักษาการณ์ไม่กี่คน พวกนั้นคงจะเกิดความคิดตามข้างบน ไม่น้อย เพียงแค่มีคนมาขอยืมที่พัก ขอแค่มีเงินให้มากพอเช่าบ้านไม่กี่ บ้านก็คงเป็นเรื่องปกติที่มีบ่อยๆพึ่ง ความสนับสนุนเล็กน้อยของทหาร อยากจะเลี้ยงทั้งครอบครัวไม่ง่ายเลย”
ฟังเขาพูดเช่นนี้หลินซีนเยียนก็ รู้สึกเข้าใจขึ้นมาทันทีมิน่าล่ะทหาร รักษาการณ์คนเมื่อกี้ถึงพาพวกเขามา เรือนด้านข้างนี้อย่างชำนาญทางคิดดู แล้วเรื่องแบบนี้คงจะทำจนคุ้นเคยแล้ว อีกอย่างทหารคนเมื่อกี้ตอนเปิด ประตูออกมาก็หาวติดต่อกันอยู่หลาย ครั้งใบหน้าหมองเหลืองซูบผอมแวว ตาดูไม่มีชีวิตชีวาบนร่างกายยังมีกลิ่น ยาสูบรุนแรงอีกด้วยน่าจะเป็นผลจาก การที่สูบยามาเป็นเวลานานสูบยาหนัก ขนาดนี้จะไม่มีเงินก็ไม่ได้ ดังนั้นขอแค่ มีเงินให้มากพอเขาจะต้องตาลุกวาว แน่ๆ”