ตอนที่404ผู้อาวุโสปุ๋ยแห่งตระกูลหรง
ต้นอู๋ถงในบ้านพอถูกลมพัดใบไม้ ก็ค่อยๆร่วงลงไปเล็กน้อย
ข้างล่างต้นไม้บนเก้าอี้รถเข็นมี ชายสวมเสื้อสีดำนั่งอยู่สีหน้าของชาย คนนั้นซีดเซียวสายตาจดจ้องไปที่ภาพ ของใบไม้ต้นอู๋ถงกำลังร่วงโรยลงมา มองไปตามที่ใบไม้ปลิวไปสายตาของ เขาก็ค่อยๆสั่นไหว
ด้านหลังเก้าอี้รถเข็นยังมีผู้หญิง รูปร่างดีส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจนคน หนึ่งยืนอยู่แต่น่าเสียดายสีหน้าของผู้ หญิงคนนี้เคร่งขรึมเกินไปทำให้ออร่า ชวนน่าหลงใหลของนางกลายเป็น ธรรมดาไปในพริบตา
ประตูหน้าบ้านมีเสียงฝีเท้ารีบร้อน ดังขึ้นพอได้ยินเสียงฝีเท้าชายที่นั่งบน เก้าอี้รถเข็นก็รีบหันไปทันที ถึงจะไม่ ได้พูดอะไรแต่นัยน์ตาของเขาก็เปล่ง ประกายความหวังอย่างดีใจออกมา
กลางวันแสกๆคนที่มาเป็นชาย สวมชุดดำแม้แต่จมูกและปากก็ถูกปิด ไว้ด้วยผ้าสีดำเหลือไว้เพียงแค่ดวงตา ที่สั่นไหวไปมาคนแบบนี้ผู้มีชาติ ตระกูลส่วนใหญ่ต่างก็รู้ดีนี่คือทหาร สอดแนม
ผู้รับใช้ยื่นจดหมายลับในมือให้ กับผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลังเก้าอี้รถ เข็นอย่างเคารพจากนั้นก็ทำความ เคารพชายที่นั่งบนเก้าอี้รถเข็นเสร็จ แล้วถึงจะถอยออกไป
“อ่าน!”ชายที่นั่งบนเก้าอี้รถเข็น พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ค่ะ!”‘หญิงสาวเปิดจดหมายออก เริ่มอ่านเนื้อความในจดหมายแต่ในใจ กลับรู้สึกเศร้าใจที่ผ่านมาในสายตา ของทุกคนเจ้านายที่ไม่มีอะไรที่ทำไม่ ได้คนนั้นในวันนี้แม้แต่อ่านจดหมายยัง ต้องยืมมือคนอื่นมาช่วยแม้ว่าเขาจะ ไม่พูดออกมาแต่นางที่เป็นข้ารับใช้ กลับสามารถจินตนาการได้ถึงความ รู้สึกอัดอั้นตันใจและทำใจยอมรับมัน
ชายคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่คือโม่ จื่อเฟิงคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขานั่นก็คือ หนีหว่าน
นี่เป็นจดหมายจากหลงโสวเว่ยใน จดหมายบอกว่าเขาได้ตามหลินซึน เยียนไปอย่างลับๆเรียบร้อยแล้วแต่ ใครจะรู้ว่ามีอีกคนที่โผล่มาอินฉีลำพัง อินฉีก็ไม่จำเป็นที่หลงโล่วเว่ยจะต้อง พะวงอะไรแต่ครั้งนี้ข้างกายอินฉีดันมี ยอดฝีมือแห่งยุคอยู่ข้างกายด้วยอีก คนหลงโส่วเว่ยเลยต้องแอบตามไป อยู่ห่างๆร่องรอยของหลินซีนเยียน พวกเขารู้แต่ว่ารายละเอียดหลายๆ เรื่องเขาก็ไม่ค่อยชัดเจน
อินฉี..”ฟังเนื้อความจบโมจื่อเฟิ งก็สีหน้าเยือกเย็นสุดขั้วน้ำเสียงที่เอ่ย ถึงชื่อนี้ยิ่งเต็มไปด้วยจิตสังหารที่ รุนแรง
หนีหว่านยังไม่กล้าที่จะมองหน้า เขาพูดเสียงแข็งว่า”นายไม่ต้องกังวล สิ่งที่อินฉีกระทำไว้ก่อนหน้านั้นถึงแม้ เขาจะอยู่ข้างกายของพระชายาพระ ชายาก็ไม่มีทางทำดีกับเขาเป็นแน่อัน นี้ข้าไม่ได้กังวลหรอกแต่ว่า..อินฉีจู่ๆก็ ปรากฏตัวที่แคว้นหมันนี่มันไม่ใช่เรื่อง ธรรมดา”สายตาของโม่จื่อเฟิงตกลง ไปอยู่ที่ใบไม้ที่ปลิดปลิวอีกครั้งเขานิ่ง เงียบมากราวกับโลกทั้งโลกนี้เงียบ สงัดแม้แต่ลมก็ไม่อาจทำให้เขาสั่น ไหวแม้แต่น้อย
“สีหน้าของหนีหว่านก็นิ่งขรึม ผ่านไปนานพอสมควรนางถึงจะพูด ขึ้น:”ยังไงตอนนี้ก็มีหลงโส่วเว่ยตาม ประกบอยู่ต่อให้อินฉีจะเคลื่อนไหว อะไรพวกเราก็สามารถรับรู้ได้ทันที เพียงแต่..คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาก็จะ มาที่แคว้นหมันด้วยเหมือนกัน…ท่านผู้ นั้นพวกเรา…
โม่จื่อเฟิงไม่ได้ตอบหนีหว่าน กลับไปไม่แม้แต่หันไปมองเขายังคง นั่งนิ่งอยู่ตามเดิม
หนีหว่านถอนหายใจออกมาเก็บ จดหมายไว้อย่างดีแล้วก็เดินกลับไป ในบ้านหยิบเสื้อคลุมยาวออกมาแล้ว สวมใส่ไว้ที่บ่าให้เขา
หนีหว่านเวลานี้ข้าจะยังเจอนาง ไม่ได้ดังนั้นเจ้าอย่าได้มีความ เคลื่อนไหวมากนัก”ไม่จื่อเฟิงพูดขึ้น มาอย่างกะทันหันทำให้หนีหว่านถึง กับสะดุ้งตกใจ
หนีหว่านแววตามืดมนคิดไม่ถึง เลยว่าความคิดของตนจะถูกโม่จื่อเฟิ งมองออกนางคิดว่าเพราะนายมัวแต่ คิดถึงร่างกายก็เลยยิ่งอ่อนแอลงสู้ ทำให้เขาไปเห็นกับตาตัวเองอยู่ไกลๆ ก็ยังดีบางทีอาจจะดีใจจนทำให้ช่วย ฟื้นตัวเร็วขึ้น
ช่วงที่ทั้งสองคนพูดคุยกันหญิง ชราคนหนึ่งอายุราวๆห้าสิบกว่าปีก็ถือ ไม้เท้าเดินเข้ามาข้างหลังของนางยัง มีเด็กหนุ่มหน้าตาสดใสสวมเสื้อสีขาว มาด้วยอีกสองคนรัศมีของสามคนนี้ไม่ เหมือนคนทั่วไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรด เท้าให้ความรู้สึกเป็นผู้ดีมีชาติตระกูล แม้แต่แววตาก็ดูมีอำนาจมากแม้จะอยู่ ต่อหน้าโม่จื่อเฟิงทั้งสามคนก็ไม่ได้ดู อ่อนแอเลย
โดยเฉพาะหญิงชราผู้นั้นพอเห็น โม่จื่อเฟิงนัยน์ตาก็ฉายแววดูถูก เหยียดหยามอยู่ลึกๆ”เกิดออกมามี ร่างกายดีๆแท้ๆน่าเสียดายมีสายเลือด อื่นปะปนไม่ใช่สายเลือดตระกูลหรงที่ บริสุทธิ์”
“ท่านยายพูดจาดีๆหน่อย!”หนี หว่านฟังคำพูดแย่ๆของหญิงชราก็ โมโหขึ้นมาทันทีช่วงนี้ที่ผ่านมาหญิง ชราอ้าปากหรือหุบปากก็ล้วนมีแต่คำ พูดที่ไม่น่าฟังหนีหว่านอดทนมานาน เกินพอแล้ว แต่ว่าคำพูดของหนีหว่านพึ่งจะ พูดออกไปชายเสื้อขาวสองคนที่อยู่ ข้างหลังหญิงชราก็เคลื่อนไหวพวก เขาแค่ลงมือใบไม้ที่พลิ้วไหวก็ราวกับ หยุดนิ่งไปรอจนทั้งสองมาหยุดอยู่ ตรงหน้าของหนีหว่านใบไม้สักใบก็ไม่ ร่วงมาโดนตัวเขาทั้งสองกังฟูแบบนี้ก็ ถือเป็นการดูถูกยอดฝีมือไปหน่อย
วรยุทธของหนีหว่านเองก็ไม่ได้ กระจอกอยู่แล้วแถมยังถูกโม่จื่อเฟิง ฝึกสอนให้เองกับมือดังนั้นชายเสื้อ ขาวสองคนถึงแม้ว่าจะไม่ธรรมดาแต่ ถ้าคิดจะโจมตีหนีหว่านให้ได้ในครั้ง เดียวนั้นไม่มีทาง
หนีหว่านถอยหลังไปอย่าง รวดเร็วความคล่องแคล่วว่องไวทำให้ ชายเสื้อขาวสองคนถึงกับตก ตะลึง”คิดไม่ถึงเลยว่าสาวใช้คนหนึ่ง จะมีวรยุทธถึงขั้นนี้แต่ว่าก็แค่สาวใช้ จากที่อื่นไม่อยู่ในสายตาของข้าสอง คนพี่น้องหรอก”
ชายเสื้อขาวสองคนกับหนีหว่านก็ ปะทะกันหญิงชราก็ไม่คิดจะห้ามแต่ อย่างใดแต่กลับเดินมาตรงหน้าของ โม่จื่อเฟิง”รูปร่างหน้าตาดีแบบนี้ หลอกผู้หญิงให้เต็มใจทำทุกอย่าง เพื่อเจ้ามากี่คนแล้วล่ะเหอะ!ถ้าไม่ใช่ ว่าตระกูลเราอยากจะเก็บเจ้าไว้ยายแก่ อย่างข้าก็คงไม่มีความจำเป็นอะไรที่ จะต้องมาเจอปีศาจอย่างเจ้า”
“โม่จื่อเฟิงยังคงสีหน้านิ่งเฉยไม่ เปลี่ยนแปลงตั้งแต่คอของเขาลงไปก็ ไม่มีความรู้สึกใดๆเลยนั่งอยู่ตรงนั้นอยู่ อย่างนั้นแต่พลังอำนาจกลับเต็มเปี่ยม เขาใช้สายตามองไปยังหญิงชราอย่าง เยือกเย็น”ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม หาก คนของเจ้ายังไม่ยอมหยุดงั้นข้าคง ต้องเอาชีวิตพวกเขาแล้วล่ะเจ้าเชื่อ หรือไม่?”
“อ้อ?”หญิงชราคิดว่ฟังเรื่องน่าขำ เข้าเสียแล้วแหงนหน้าขึ้นหัวเราะ เยาะ”คนที่เกือบจะใช้การไม่ได้แล้ว อย่างเจ้ายังกล้าพูดจาโอหังอีกคิดว่า คนแก่ตระกูลหรงอย่างข้าจะตกใจกลัว งั้นหรอ?เด็กน้อยวันนี้ยังไงข้าก็ไม่ให้ พวกเขาหยุดหรอก!”เขาหันกลับไป ตวาดใส่ชายเสื้อขาวสองคนอีก ครั้ง”ไม่มีประโยชน์เสียจริงแค่สาวใช้ คนเดียวก็จัดการไม่ได้ติดตามข้ามาตั้ง หลายปีเสียเปล่า…”
คำพูดของนางยังไม่ทันพูดจบก็ เห็นเสียงนกหวีดดังมาจากทางโม่ จื่อเฟิงเสียนกหวีดดังออกไปบ้านหลัง นี้ก็มีคนสิบกว่าคนปรากฏตัวขึ้นอย่าง ไม่ทราบสาเหตุคนที่ปรากฏตัวขึ้นพวก นี้ล้วนฝีมือไม่เบาแต่ละคนล้วนมีฝีมือ พอๆกับหนีหว่านดังนั้นพอพวกเขาเข้า มาสู้รบด้วยการรบครั้งนี้ไม่ต้องคิดก็รู้ ผลลัพธ์ได้ในทันที
เจ้าเจ้าเจ้า…คนพวกนี้คนพวกนี้ ” มัน.. “หญิงชราแทบไม่อยากจะเชื่อทุก อย่างที่อยู่ตรงหน้า
โม่จื่อเฟิงกลับพูดด้วยน้ำเสียง เย็นยะเยือกว่า:”ผู้อาวุโสปุ๋ยเจ้าคิดว่า ข้าไม่มีพละกำลังจริงๆน่ะหรอตระกูล ข้าจะพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อมา ช่วยข้างั้นหรือ?ผู้อาวุโสปุ๋ยเจ้าคงจะชิ นก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในตระกูลห รงจริงๆทำไมเรื่องแค่นี้เจ้าถึงคิดไม่ได้ ล่ะ?องครักษ์มังกรของข้าพึ่งจะเรียก กลับมาให้ผู้อาวุโสได้รับรู้ไปนานๆเสีย หน่อย”