บทที่ 794 ตายอย่างศพอนาถ
“ฮึ่ม!”
หลังจากที่เทแล้ว หลินเฟยได้โยนแก้วลงบนพื้นอย่างไม่แยแส
อยากดูว่าคนตรงหน้าจะพูดอย่างไร
และใบหน้าของซูยุ่นนั้น เต็มไปด้วยความตกใจ
หากรู้ว่า คนที่อยู่ตรงหน้า เป็นคนยังไงละก็?
“นายช่างไม่ฉลาดเอาเสียเลย!”
ผ้าเช็ดหน้าสีขาวคลุมอยู่บนหน้าของเฉินเกอ กำลังแช่อย่างสบายอารมณ์ ได้ถูกขัดจังหวะแบบนี้ เฉินเกอไม่พอใจอย่างมาก
“เธอ…….เธอพูดอะไร?”
หลินเฟยตะโกนด้วยความโกรธ
“เจ้าหนุ่มน้อย เกรงว่าแกคงไม่รู้ว่าฉันเป็นใครละมั้ง? พ่อของฉัน มีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์อาหรับ!”
หลินเฟยพูดอย่างโกรธเคือง
เฉินเกอไม่ได้ต่อกรด้วย
เพราะเวลานี้ ด้านนอกบ่อออนเซ็น เสียงฝีเท้าสั่นสะท้านฟ้า ฉาบๆๆ ก็เห็นเงาคนสิบกว่าคน กำลังวิ่งเข้ามาจากด้านนอก
หัวหน้าคือชายวัยกลางคนคนหนึ่ง แต่งกายสมาร์ต แต่เวลานี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
“แม่งเอ๊ย ทำไมคนจำนวนมากจึงฝ่าเข้ามาได้?”
ชายวัยกลางคนที่เห็นสถานที่แล้ว เสียขวัญไปทันที
หรือพูดอีกอย่าง ก็คือถูกความหวาดกลัวครอบงำเขาแล้ว
เขาก็คือประธานของวิลล่าแห่งนี้
“ประธานชา นี่มันยังไงกันแน่ ที่นี่เป็นที่ที่ทำสมาธิของคุณชายบ้านผม คุณยังกล้าปล่อยคนนอกเข้ามาอีก คุณไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่มั้ย?”
เสี้ยวชางเซิงที่อยู่ด้านข้างใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
เวลานี้ เขาก็ตกใจจนสะดุ้ง
“ไม่กล้าไม่กล้า!”
ประธานชาส่ายหัวถี่ๆ
“ใครให้พวกแกเข้ามา?”
เขาตะโกนใส่หลินเฟยและคนอื่น ๆ
หลินเฟยและพวก รู้สึกเสียหน้าอย่างมาก
วันนี้เป็นอะไรกันแน่?
ดาราสาวคนหนึ่งไม่เห็นตัวเองอยู่ในสายตา ตอนนี้ แม้แต่ตัวเองมาเที่ยวที่วิลล่า ยังถูกคนรังเกียจ
แต่ยังดี ประธานชาคนนี้เขารู้จัก เมื่อหลายปีก่อน ตัวเองและพ่อ เคยพบเจอกับเขาหลายครั้ง
“ประธานชาใช่มั้ย? คุณคงจะลืมแล้ว ผมชื่อหลินเฟย พ่อของผมก็คือหลินเจี้ยนเหริน!”
หลินเฟยรู้สึกว่า ฟ้าคงมืดเกินไป ประธานชาก็เลยลืมตัวเองไปแล้ว
และเห็นหลินเฟยที่จัดการทุกอย่างอย่างง่ายดาย เจียงหรานหรานมองเขาอย่างชื่นชม
ขณะที่พูด หลินเฟยก็เดินเข้าไปจับมือกับประธานชา
“เพี้ย!”
คิดไม่ถึง ประธานได้ยกมือตบที่บ้องหูเขาอย่างแรง:
“หลิน? หลินเย็ดแม่งสิ ใครใช้ให้เศษสวะอย่างพวกแกฝ่าเข้ามา?”
ประธานชาคำรามด้วยความโกรธ
และหลินเฟยถูกตบจนอึ้ง
“ประธานชา พ่อผมคือหลินเจี้ยนเหริน!”
หลินเฟยกล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เพี้ย!
“คนเหี้ยอะไรก็ช่าง ไสหัวไปให้หมด!”
ประธานชาแค่ยกมือ ยามได้มาล้อมรอบหมดแล้ว
ทำให้ชายหญิงที่อยู่ตรงนี้ต่างตกใจจนสะดุ้ง
“ให้พวกเขาไสหัวไป เกรงว่าคนจะไม่ง่ายขนาดนี้มั้ง!”
และในเวลานี้ ก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
ทุกคนต่างเงยหน้ามองไป
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เฉินเกอได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ยืนอยู่ด้านหน้าของทุกคน
เพียงแต่มือของเฉินเกอไขว้อยู่ด้านหลัง มองหลินเฟยด้วยรอยยิ้มจางๆ
“เฉิน……..เฉินเกอ?”
เจียงหรานหรานสั่นไปทั่วร่าง คิดไม่ถึง คนคนนี้เป็นเฉินเกอจริงๆด้วย
ขนาดนั้น มีคนไม่น้อยต่างประหลาดใจ
“เฉินเกอ ทำไมถึงเป็นนาย?”
เจียงหรานหรานกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“เจียงหรานหราน? เธอก็อยู่ที่นี่……….”
เฉินเกอเห็นเธอ ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
พูดถึง ทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว
“เฉินเกอ คนเหล่านี้นายรู้จักหมดเลยเหรอ?”
เจียงหรานหรานอดไม่ได้ที่จะกล่าวด้วยความแปลกใจ
มันจะเป็นไปได้อย่างไร
ต้องรู้ว่าคนที่อยู่ที่นี่ ต่างเป็นไฮโซระดับโลก เฉินเกอทำไมถึงได้รู้จักพวกเขาทั้งหมด?
“กับพวกเขาเหรอ? ถือว่ารู้จักมั้ง!”
เฉินเกอเหลือบมองประธานชาและพวก แล้วกล่าวอย่างเรียบเฉย
“คุณชายเฉิน คุณวางใจเถอะ คนเหล่านี้ผมไม่มีทางที่จะปล่อยไปง่ายๆ พวกเขารบกวนการทำสมาธิของคุณ ผมต้องสั่งสอนพวกเขาจนกระอักเลือดอย่างแน่นอน!”
ประธานชาที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อชี้ไปที่หลินเฟยแล้วกล่าว
“ฮึ่ม พวกแกกล้าเหรอ?”
หลินเฟยเห็นยามมากมายที่ล้อมรอบตัวเอง ก็มีความกลัวเล็กน้อย
เหลือบมองเจียงหรานหรานไปแวบหนึ่ง: “เฉินเกอจึงได้กล่าวขึ้น เรื่องนี้ เห็นแก่เพื่อนเก่าคนหนึ่ง ช่างมันเถอะ ครั้งหน้าห้ามเกิดเรื่องแบบนี้อีก ปล่อยพวกเขาไป!”
ลมกลางคืนเย็นเล็กน้อย
เฉินเกอดึงเสื้อบนร่างกายของเขา ไอเล็กน้อย ก็หันกายเดินจากไป
“แม่งเอ๊ย คนแซ่เฉิน แกนึกว่าแกเป็นใครเหรอ คุณชายอย่างฉัน เป็นคนที่นายจะมาเล่นตลกด้วยเหรอ?”
หลินเฟยรู้สึกเหมือนโดนหยาม
โดยเฉพาะคนที่ตัวเองเผชิญหน้าด้วย ยังเป็นคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
ต้องไม่พอใจอยู่แล้ว
“ทำไมล่ะ? ในเมื่อฉันตกลงที่จะปล่อยนายไปแล้ว ทำไมนายยังตอแยไม่เลิกอีก?”
เฉินเกอมองหลินเฟย อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วกล่าว
“อะไรคือเพราะอะไร? คนแซ่เฉิน ตรงนี้มันเป็นที่ของนาย หากนายแน่จริง ก็ไปอาหรับกับฉันสักครั้ง เชื่อหรือไม่ว่าคุณชายอย่างฉันจะให้นายตายโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายยังไง?”
หลินเฟยที่ตาแดงกล่าวด้วยความโกรธ
และเจียงหรานหรานดูเรื่องมันจะไปกันใหญ่ หลินเฟยโมโหมากแล้ว
ก็มองเฉินเกออย่างเอือมระอาแล้วกล่าว:
“พอได้แล้วเฉินเกอ นายโอ้อวดพอหรือยัง นายไม่รู้จริงๆเหรอว่าตระกูลหลินมีอำนาจบารมีมากแค่ไหน? ฉันรู้ว่าตอนนี้นายมีเงินแล้ว แต่โลกใบนี้มันใหญ่มากจริงๆ นายเคยเห็นโลกกว้างมั้ย คนที่มีมีอำนาจบารมีมากกว่านายมีตั้งมากมาย วันนี้หากนายล่วงเกินคุณชายหลิน นายคิดว่าต่อไปนี้ นายจะยังได้รับผลประโยชน์ที่ดีอีกมั้ย?”
เจียงหรานหรานส่ายหัวแล้วกล่าว
“เอาล่ะ อาศัยตอนที่ฉันยังไม่เปลี่ยนใจ พาคุณชายหลินคนนี้ ยังมีเพื่อนเธอเหล่านี้ รีบไปจากที่นี่เสีย อีกอย่างประเทศหนานเยว่ วันนี้ไม่ใช่พื้นที่ธรรมดาอีกแล้ว เธอก็ไม่ต้องอยู่ตรงนี้ให้นานนัก!”
เฉินเกอขี้เกียจที่จะเถียงกับพวกเขา
ก็ได้หันหลังจากไปทันที
“เฉินเกอ นายนึกว่านายเป็นใครเหรอ นายรู้ว่าตอนนี้ฉัน มีฐานะทางสังคมยังไงบ้าง? คนที่ฉันติดต่อด้วย เป็นคนประเภทไหน?”
และถูกเฉินเกอเมินใส่แบบนี้ เจียงหรานหรานก็โกรธมากเช่นกัน
ขณะที่จะอาละวาดนั้น
ทันใดนั้น ก็มีคนได้วิ่งเข้ามา
“ผู้อาวุโสเสี้ยว ด้านนอกประตู มีแขกระดับประเทศหลายท่าน บอกว่าต้องการที่จะพบคุณผู้ชาย อีกอย่างยังได้เตรียมของขวัญชิ้นใหญ่มาด้วย
หนุ่มน้อยคนหนึ่งพูดกับเสี้ยวชางเซิงอย่างสุภาพ
แขกระดับประเทศ คนอะไร?
เสี้ยวชางเซิงขมวดคิ้วถาม
“ต่างเป็นพวกราชวงศ์ตะวันออกกลาง และยังมีชนชั้นระดับสูงของหนานย่าอีกหลายคน!”
หนุ่มน้อยกล่าว
“อะไรนะ?”
และด้านข้างนั้น เจียงหรานหรานกับหลินเฟยที่ได้ยินรายชื่อแล้ว ต่างอึ้งกันเป็นแถว
โดยเฉพาะเจียงหรานหราน ใบหน้ากระตุกขึ้นมาทันที
“ฐานะของเฉินเกอคืออะไรกันแน่ ทำไมจึงมีท่านชนชั้นใหญ่ตั้งมากมายต่างมาพบเขา?”
เจียงหรานหรานช็อก
และหลินเฟยเพิ่งจะรู้ เมื่อกี้ตัวเองนั้น ได้ล่วงเกินคนที่อยู่ในระดับไหน
ในขณะที่กลัว หลังจากนั้นสักครู่ กำลังคิดจะจากไป
แต่ว่ายังเดินไปไม่กี่ก้าว ก็ถูกเสี้ยวชางเซิงคว้าไหล่เอาไว้
“ไอ้หนุ่มไร้มารยาท เมื่อกี้ให้พวกแกไปไม่ไป ตอนนี้อยากจะไปเหรอ?”
เสี้ยวชางเซิงยิ้มอย่างเยือกเย็น
“แก……..แกคิดจะทำอะไร?”
หลินเฟยกลืนน้ำลายแล้วกล่าว
“ฆ่าพวกแก มันก็จะทำลายกฎระเบียบของสำนักสวนหยางเตี้ยน ดังนั้น ฉันจะไม่ฆ่าพวกแก เพียงแต่…………”
เสี้ยวชางเซิงเห็นบ่อออนเซ็นที่คุณเฉินแช่เมื่อกี้ ได้ถูกเทไวน์แดงเข้าไป
กล่าวอย่างเยือกเย็น: “เพียงแต่ โทษตายละเว้นได้ แต่โทษเป็นไม่อาจละเว้นได้ น้ำในบ่อนี้ ฉันต้องการให้พวกแกดื่มมันให้หมด ไม่อย่างนั้น ฉันรับประกันได้เลยเจ้าเด็กน้อยทั้งหลาย จะได้ตายอย่างศพน่าอนาถแล้วถูกโยนออกไป!”
เสี้ยวชางเซิงกล่าวอย่างเย็นเฉียบ……