ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! – ตอนที่ 887

ตอนที่ 887

บทที่ 887 แดนเชียนสวน

จนกระทั่งกลางดึกเวลาห้าทุ่ม เฉินเกอและคณะจึงได้มาถึงแดนเชียนสวน

แดนเผ่าผีตั้งอยู่ในภูเขาลึกด้านในป่าเก่าแก่ในแดนเชียนสวน จากสมัยโบราณมาถึงปัจจุบันน้อยมากที่จะมีคนเข้ามาตามหาเผ่าผีในนี้

โชคดีในกลางดึกแบบนี้รอบๆบริเวณยังมีโรงแรมและรีสอร์ตเปิดบริการอยู่ แบบนี้แล้วเฉินเกอและพวกก็มีที่ให้สำหรับพักผ่อนกันแล้ว

เฉินเกอเปิดห้องเสร็จแล้ว ก็ให้ทุกคนไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง พรุ่งนี้ถึงจะได้ออกเดินทางไปยังแดนเผ่าผีอย่างเป็นทางการ

เช้าวันรุ่งขึ้น

เฉินเกอและพวกต่างตื่นแต่เช้า คืนห้องแล้วก็จากไป ขับรถมุ่งหน้าไปภูเขาลึกในป่าเก่าแก่

จากการขับรถสี่สิบห้านาที รถจะต้องจอดอยู่ด้านล่างภูเขา รถไม่สามารถขับเข้าไปในภูเขาลึกได้ ดังนั้นเฉินเกอและพวกจึงได้เลือกวิธีเดินเท้า

ทั้งห้าคนเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วจึงเดินเข้าไปในภูเขาลึกในป่าเก่าแก่

“ว้า สถานที่ตรงนี้อากาศช่างสดชื่นเหลือเกิน โอกาสที่ออกจากความวุ่นวายในเมืองมีไม่บ่อยนัก รู้สึกดีทีเดียว!”

เล๋ยเล่พลางเดินไปพลางตะโกนไป

เป็นอย่างนั้นจริงๆ หากเทียบกับสภาพแวดล้อมในเมืองแล้ว สภาพแวดล้อมในป่าดีกว่ามาก อากาศก็บริสุทธิ์ ทุกที่เต็มไปด้วยออกซิเจนของต้นหญ้าใบไม้

เดินไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ทั้งห้าคนก็ไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง

หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่คนเผ่าผีสร้างไว้ข้างในนี้ คนทั้งหมู่บ้านต่างถูกเรียกว่าคนเผ่าผี สถานที่และวัฒนธรรมไม่เหมือนกันเลย

เฉินเกอและพวกเดินเข้ามาในหมู่บ้าน

การมาของทั้งห้าคน ชั่วพริบตาเดียวก็ได้ดึงดูดความสนใจของคนเผ่าผีที่อยู่รอบๆ ทุกต่างวางของในมือลงแล้วลุกขึ้นมาจ้องมองพวกเขาทั้งห้าคน สายตาเต็มไปด้วยความหวาดระแวง

“พวกคุณเป็นใคร?”

วินาทีต่อไป ชายคนหนึ่งสวมชุดกันหนาวได้เดินออกมา มาขวางไว้ด้านหน้าของเฉินเกอและพวก จ้องมองเฉินเกอและพวกแล้วถาม

เฉินเกอและพวกรีบหยุดฝีเท้าลงทันที

“สวัสดีครับ พวกเราเป็นพ่อค้าที่มาจากด้านนอก!”

เฉินเกอยิ้มเล็กน้อยมองไปชายที่อยู่ตรงหน้าแล้วกล่าว

“ฮึ่ม พ่อค้าเหรอ ฉันจะบอกพวกคุณให้นะ อย่ามาโกหกฉัน ฉันเห็นมาเยอะแล้ว พูดมาเลย พวกคุณมานี่เพราะสมบัติในป่าใช่มั้ย?”

เสียงชายคนนี้เย็นเฉียบ ถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนัก

ทำให้ที่เฉินเกอฟังแล้วต้องขมวดคิ้วขึ้นมา ดูเหมือนว่าคนเผ่าผีเหล่านี้จัดการยากกว่าที่คิดไว้เยอะเลย

“เล๋อเล่ เอาของกินออกมา!”

นิ่งไปสักพัก เฉินเกอก็ได้มองทางเล๋ยเล่แล้วสั่งการ

เล๋ยเล่ฟังแล้ว ก็รีบตอบสนองทันที ได้หยิบของกินส่วนหนึ่งออกมาจากกระเป๋ายื่นให้กับเฉินเกอ

เฉินเกอรับมาแล้วก็ยื่นให้กับชายที่อยู่ตรงหน้า

“พวกเราเป็นแค่พ่อค้า มาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนของขึ้นชื่อของท้องถิ่น คุณดูสิ ของเหล่านี้เป็นสินค้าที่พวกเรานำมา!”

เฉินเกอรีบร้อนอธิบายให้กับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า ไม่อยากให้ผู้ชายคนนี้เห็นความผิดปกติใดๆ

ได้ยินคำพูดของเฉินเกอแล้ว ชายคนนี้จึงได้คลายความหวาดระแวงลง รับของกินจากมือของเฉินเกอ จากนั้นจึงได้หยิบมันขึ้นมาตรวจดู

ชั่วขณะเดียว คนทั้งเผ่าผีก็ได้รุมกันเข้ามา ล้อมรอบเฉินเกอและพวกไว้

ทันใดนั้น เฉินเกอและพวกได้กลายเป็นคนที่ชื่นชอบของคนในหมู่บ้าน

เพียงเพราะเหตุนี้ ขนมที่เฉินเกอและพวกนำมาทั้งหมดถูกค้นไปจนหมดสิ้น

นี่เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเล๋ยเล่คนอดกังวลไม่ได้

หากไม่มีของกินเหล่านี้ พวกเขาเข้าไปในภูเขาลึกในป่าเก่าแก่นี้จะกินอะไรล่ะ?

“หลีกไปให้หมด!”

ในเวลานี้ เนื้อเสียงที่หนาเสียงหนึ่งได้ดังขึ้น

สิ้นเสียง ชายพุ่งใหญ่คนหนึ่งก็ได้พาเหล่าลูกน้องที่แต่งตัวสกปรกเดินออกมา

“โอ๊ย มีคนนอกมาเหรอ เอาของอร่อยอะไรมาบ้างล่ะ?”

ชายพุงใหญ่มองเฉินเกอและพวกแล้วถาม

เฉินเกอแค่มองก็รู้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน พวกมันต้องเป็นนักเลงที่คอยรังแกคนในหมู่บ้านแน่เลย

แต่เฉินเกอก็ไม่อยากที่จะมีปัญหากับคนเหล่านี้อยู่แล้ว ตอบอย่างยิ้มๆ: “ก็เป็นเพียงของกินเล็กๆน้อยๆ ถูกคนในหมู่บ้านแลกไปหมดแล้ว”

ฟังที่เฉินเกอพูดแล้ว ชายพุงใหญ่จึงได้เงยหน้าขึ้น

“ขอแนะนำตัวเองหน่อยละกัน ผมชื่อฝูโม๋ เป็นหัวหน้าใหญ่ของหมู่บ้านนี้ ในเมื่อพวกคุณมาถึงหมู่บ้านของเรา งั้นก็ต้องให้อะไรกับเราหน่อยเพื่อเป็นของขวัญของการพบหน้า ไม่อย่างนั้นมันก็ยากที่ผมจะให้พวกคุณอยู่ในหมู่บ้านนี้ต่อ!”

ฝูโม๋ได้แนะนำตัวเองก่อน จากนั้นก็ได้มองมาทางเฉินเกอและพวกแล้วกล่าว

ดูเหมือนนายคนนี้มันอยากจะข่มขู่เอาเงินหรือของมีค่าบางอย่าง

หัวหน้าอะไรกัน พูดให้ชัดเจนหน่อยก็เป็นอันธพาลดีๆนี่เอง รังแกคนที่อ่อนแอกว่าก็เท่านั้น

เพียงแต่พวกของเฉินเกอไม่ใช่คนที่ซื่อบื้อนี่นา เฉินเกอยิ่งจะไม่ให้คนเหล่านี้มารังแกพวกเขา

“โอ๊ย หญิงสาวสองคนนี้หน้าตาไม่เลวนะเนี่ย”

ในเวลานี้ ฝูโม๋ได้นำสายตาไปจดจ่ออยู่บนร่างของเจินจีและโจวโน่ที่อยู่ด้านหลัง ทันใดนั้นก็แสดงรอยยิ้มที่มีเลศนัยออกมา จับจ้องอยู่บนร่างของเจินจีกับโจวโน่ตั้งนาน

เฉินเกอเห็นเช่นนี้แล้ว รีบเดินเข้าไป ขวางไว้ด้านหน้าของเจินจีและโจวโน่ จ้องมองฝูโม๋แล้วกล่าว: “พี่ชายท่านนี้ พวกเราเป็นพ่อค้าที่มาทำการค้าตรงนี้ ตอนนี้สินค้าของพวกเราขายหมดแล้ว พวกเราก็ควรที่จะไปแล้ว!”

พูดจบ เฉินเกอก็ได้ยื่นมือไปผลักเจินจีและโจวโน่ที่อยู่ด้านหลัง

“ช้าก่อน!”

“ผมได้บอกให้พวกคุณไปแล้วเหรอ?”

“เห็นคำพูดของผมเป็นเพียงเสียงผายลมใช่มั้ย ผมบอกแล้วไง พวกคุณต้องเหลือของอะไรไว้หน่อยถึงจะไปได้ ไม่อย่างนั้นอย่าคิดที่จะออกไปจากที่นี่!”

ฝูโม๋ที่ท่าทางโอหังจ้องมองเฉินเกออย่างโกรธแค้นแล้วกล่าว ไม่ได้เห็นเฉินเกออยู่ในสายตาเลยแม้แต่นิดเดียว

เฉินเกอฟังแล้ว สีหน้าเข้มขรึมทันที

นายคนนี้อุตส่าห์ไว้หน้าแล้วยังจะมาตอแยอีก อยากจะต่อสู้กับตัวเองให้สุดแน่เลย

ได้ งั้นเฉินเกอก็จะไม่ปล่อยพวกเขาไป กล้าคิดไม่ดีกับตัวเอง เบื่อที่จะมีชีวิตแล้วใช่มั้ย

“แล้วนายอยากจะให้ฉันเหลืออะไรไว้ให้ล่ะ?”

เฉินเกอหันกายมาเล็กน้อย จ้องมองโม๋ฝูแล้วกล่าว

“เห่อๆ!”

“งั้นเอาเงินที่ติดตัวของพวกคุณส่งมาให้หมด หรือไม่ก็เอาหญิงสาวสองคนนี้เหลือไว้ให้ผม!”

ฝูโม๋ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยสีหน้าที่ชั่วร้ายมองเจินจีและโจวโน่ที่อยู่ด้านหลังเฉินเกอแล้วกล่าว

“ถ้าหากไม่ได้ทั้งสองอย่างล่ะ?”

เฉินเกอตอบกลับฝูโม๋โดยตรง

“เย็ดแม่เอ๊ย ไอ้หนุ่มเหี้ยมึงฟังภาษาคนไม่เข้าใจเหรอ หากมึงไม่ยอม กูจะให้คนมาสับพวกมึงเดี๋ยวนี้!”

ในปากฝูโม๋ด่าเต็มไปด้วยคำหยาบคาย

“พรึบ!”

วินาทีต่อมา ร่างของฝูโม๋ทั้งร่างถูกกระชากโยนขึ้นฟ้า

ไม่ผิด เฉินเกอได้ลงมือแล้ว

นายฝูโม๋คนนี้ปากเหม็นเกินไป ยังกล้าคิดมิดีมิร้ายกับเจินจีและโจวโน่ ด้วยเหตุนี้เฉินเกอจึงต้องสั่งสอนเขาดีๆสักครั้ง

เห็นลูกพี่ของตัวเองถูกกระชากโยนขึ้นฟ้า ลูกน้องเหล่านั้นของฝูโม๋ต่างทยอยกันพุ่งเข้ามาโจมตีเฉินเกอ

เฉินเกอไม่พูดไม่จา ออกขาอย่างรวดเร็ว

บู้มๆๆๆๆ

เตะซ้ำๆอยู่อย่างนั้น เฉินเกอเตะลูกน้องเหล่านั้นของฝูโม๋ล้มลงกับพื้นโดยตรง

รับการโจมตีแค่นี้ก็ไม่ไหว ยังกล้ามาหาเรื่องเฉินเกออีก ช่างโง่เสียจริง

เล๋ยเล่และคนอื่นๆยืนอยู่ด้านข้าง มองดูอย่างเงียบๆ พวกเขารู้ว่ามีเฉินเกออยู่ พวกเขาจะไม่มีทางจะเกิดเรื่องเด็ดขาด

หลังจากที่ฝูโม๋และลูกน้องถูกเฉินเกอไล่ไปอย่างน่าสมเพช เล๋ยเล่และพวกจึงได้มีโอกาสสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบ ภายใต้การนำของเฉินเกอ พวกเขาหาบ้านที่ไม่มีคนพักได้แห่งหนึ่ง จึงได้พักผ่อนตรงนี้

ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

Status: Ongoing

เรื่องย่อ ณวันนั้น พี่สาวกับพ่อแม่ที่ทํางานอยู่ต่างประเทศบอกกับตัวเองอย่างกะทันหันว่า ตัวเองเป็นทายาทเศรษฐี ครอบครองสมบัติหลายล้าน เฉินเกอคิดในใจว่า ฉันเป็น ทายาทเศรษฐีจริงๆหรอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท