ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี! – ตอนที่ 925

ตอนที่ 925

บทที่ 925 ไผ่ญาณ

“ดิง! ”

เมื่อเฉินเกอนึกว่าตัวเองกำลังจะต้องตาย บริเวณโดยรอบทั้งหมดก็ฟื้นคืนสู่สภาพเดิมในทันที

“ยินดีกับคุณด้วย เฉินเกอ คุณผ่านด่านทดสอบด่านที่สี่นี้แล้ว! ”

ถ่าบันเดินไปถึงหน้าเฉินเกอ มองเฉินเกอด้วยรอยยิ้มและเอ่ยออกมา

ได้ยินคำพูดนี้ เฉินเกอก็ลืมตาขึ้นมา

“ผม ผมผ่านแล้วหรือ? ”

เฉินเกอเอ่ยถามด้วยความตกใจเล็กน้อย

“ถูกต้อง คุณผ่านแล้ว! ”

ถ่าบันพยักหน้าตอบรับอย่างปฏิเสธไม่ได้

“เพราะอะไร? หรือเป็นเพราะเสียสละตัวผมเองเลยถือว่าผ่านด่านทดสอบเหรอ? ”

เฉินเกอเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจเล็กน้อย

“ไม่ ด่านนี้ไม่ได้จะทดสอบว่าคุณจะเสียสละชีวิตตัวคุณเองหรือไม่ แต่จะดูว่าเพื่อสิ่งล่อลวงและความปรารถนาแล้วคุณจะเลือกที่ละทิ้งเพื่อนของตัวเองหรือไม่”

“ตอนนี้ดูท่าคุณจะไม่ใช่คนเช่นนั้น ดังนั้นด่านนี้คุณผ่านแล้ว! ”

ถ่าบันมองไปที่เฉินเกอและเอ่ยอธิบาย

หลังจากที่ฟังคำอธิบายของถ่าบัน เฉินเกอถึงเข้าใจ

ถ้าหากเมื่อกี้ตัวเองเลือกออกมาข้อหนึ่ง ไม่ว่าจะเลือกคนไหนก็ล้วนแต่ล้มเหลวทั้งนั้น

“ยังมีอีกข้อหนึ่ง เมื่อกี้หากคุณเลือกออกมาคนหนึ่ง คนที่คุณเลือกออกมาจะต้องตายจริงๆ! ดังนั้นชีวิตของพวกเขาทั้งสามคุณเป็นคนรักษาเอาไว้! ”

จากนั้นได้ยินเพียงถ่าบันเอ่ยเตือนเฉินเกออีกคำหนึ่ง

เฉินเกอรู้สึกตกใจในทันที ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นมา

ทันใดนั้นในใจเฉินเกอก็เกิดความรู้สึกกลัวภายหลังขึ้นมา เขารู้สึกดีใจที่เมื่อกี้ตัวเองไม่ได้ไปเลือก ไม่อย่างนั้นจะต้องมีคนตายจริงๆ

“เอาล่ะ เฉินเกอ จนกระทั่งตอนนี้คุณเป็นคนที่แกร่งกล้าและใจดีที่สุดที่ฉันเคยพบเจอมา ต่อจากนี้จะเป็นด่านสุดท้ายแล้ว เตรียมตัวพร้อมหรือยัง? ”

ถ่าบันมองเฉินเกอแล้วเอ่ยออกมา

“อืม มาเถอะ! ”

หลังจากเฉินเกอก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ แล้วตอบกลับมา

เมื่อเสียงเงียบไป ถ่าบันก็พาเฉินเกอไปถึงป่าไผ่ในพริบตาเดียว

“นี่คือ? ”

เฉินเกอมองถ่าบันเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจอย่างมาก ไม่เข้าใจว่าถ่าบันพาตัวเองมาที่ป่าไผ่ทำไม

“ที่นี่คือไผ่ญาณ คุณมีเพียงแต่ต้องไปตัดไผ่ญาณให้ขาดเท่านั้นถึงจะสามารถผ่านการทดสอบด่านนี้ไปได้”

ถ่าบันอธิบายให้กับเฉินเกอ

ได้ยินถึงตรงนี้ เฉินเกอก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา เขารู้สึกว่าไม้ไผ่อันนี้น่าจะตัดให้ขาดได้ง่ายมาก

“แบบนี้ก็ง่ายมากน่ะสิ? ”

เฉินเกอมองถ่าบันและเอ่ยด้วยความมั่นใจเต็มหน้า

“เหอะๆ คุณไปลองดูสิ! ”

ถ่าบันก็ยิ้มเรียบเฉยเป็นการให้สัญญาณ

หลังจากฟังจบ เฉินเกอก็เดินไปข้างหน้า เดินไปหยุดยืนตรงหน้าไผ่ญาณ

สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง เฉินเกอก็ใช้แรงโบกมือตัดลงไปที่ไผ่ญาณที่อยู่ตรงหน้าต้นนี้

“ตูม! ”

มือของเฉินเกอตัดลงไปบนต้นไผ่ญาณต้นนี้อย่างแรง

แต่ว่าต้นไผ่ญาณต้นนี้กลับไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย

เห็นภาพนี้แล้ว เฉินเกอถึงกับตกใจไปในทันที เขาคาดไม่ถึงว่าตัวเองจะไม่สามารถตัดต้นไผ่ญาณให้แหลกละเอียดได้

“เป็นอย่างไรบ้าง? ไม่ง่ายเลยใช่ไหม? ”

ถ่าบันมองเฉินเกอแล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าสนใจอย่างมาก

ตอนนี้เฉินเกอรู้แล้วว่าทำไมถ่าบันถึงปล่อยให้ตัวเองไปลองอย่างใจเย็นอย่างนี้ จะตัดต้นไผ่ญาณนี้ให้ขาดไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างนั้นเลยจริงๆ

“เฉินเกอ ต้นไผ่ญาณแต่ละต้นล้วนแต่มีความหมายที่แตกต่างกันแฝงอยู่ มีเพียงแต่หลังจากคุณได้ตระหนักรู้ถึงความหมายและเหตุผลที่แฝงอยู่ในนั้น คุณถึงจะสามารถตัดมันขาดได้ ทั้งหมดนี้ล้วนขึ้นอยู่กับวาสนาของคุณแล้ว

เวลานี้ได้ยินเพียงถ่าบันเอ่ยคำบอกใบ้ให้กับเฉินเกอ

หลังจากฟังคำบอกใบ้ของถ่าบันแล้ว เฉินเกอก็เข้าใจความหมายที่อยู่ข้างในทันที

“ถ้าอย่างนั้นผมควรจะไปสัมผัสรับรู้ถึงความหมายของไผ่ญาณที่อยู่ข้างในอย่างไรดี? ”

เฉินเกอสอบถามเกี่ยวกับวิธีการกับถ่าบัน

“วางมือของคุณไว้บนไผ่ญาณเพื่อสัมผัสรับรู้ มันจะถ่ายทอดความหมายในตัวของมันเองเข้ามาในสมองของคุณเอง! จำคำนี้เอาไว้ ใช้ใจไปสัมผัสรับรู้ อย่าถูกจูงให้เดินไป! ”

ถ่าบันบรรยายรายละเอียดด้วยความอดทน

พูดจบ เฉินเกอก็ทำตามที่ถ่าบันพูดออกมา นำมือของตัวเองไปวางเอาไว้บนไผ่ญาณที่อยู่ตรงหน้า

ทันใดนั้น ต้นไผ่ญาณต้นนี้ก็เกิดแสงสีฟ้าอ่อนสว่างขึ้นมา แสงสว่างส่องแสงไปที่มือของเฉินเกอในทันที

วินาทีต่อมา เฉินเกอก็เข้าไปสู่ช่องว่างสีขาวช่องหนึ่ง

ในช่องว่างมีชายชราคนหนึ่งอยู่ในนั้น

ชายชรานั่งอยู่บนพื้น ด้านหน้าของเขามีกระดานหมากล้อมวางอยู่

เฉินเกอรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็เดินเข้าไป เดินเข้าไปและหยุดยืนตรงหน้าชายชรา

“พ่อหนุ่ม คุณมาแล้ว นั่งเถอะ! ”

ยังไม่รอให้เฉินเกอเอ่ยปาก ชายชราก็เอ่ยปากพูดคุยและสั่งเฉินเกอคำหนึ่ง

หลังจากเฉินเกอได้ยินแล้ว ก็นั่งลงไปในทันที

“มา เล่นกับฉันตาหนึ่งเป็นอย่างไร? ”

หลังจากนั่งลงมา ชายชราก็เอ่ยปากแนะนำเฉินเกออีกครั้ง

หลังจากเฉินเกอได้ยิน ต้องไม่มีความเห็นสักนิดอยู่แล้ว ดังนั้นจึงพยักหน้าเห็นด้วย “ได้แน่นอนอยู่แล้ว ได้เล่นหมากรุกกับผู้อาวุโสถือว่าเป็นเกียรติสำหรับผม”

ได้ยินคำพูดนี้ของเฉินเกอ ชายชราก็ยิ้มออกมาโดยไม่เอ่ยอะไร

พริบตาเดียว บนกระดานหมากรุกก็สะอาดหมดจดทันที

“ผู้อาวุโสเชิญคุณก่อน! ”

เฉินเกอเอ่ยกับชายชราที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเคารพ

ชายชราก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยเช่นกัน แต่ว่าไม่ได้ยื่นมือไปเล่นหมากรุก

วินาทีต่อมา ภาพมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นมา

เห็นเพียงเบี้ยหมากรุกที่อยู่ในกล่องใส่หมากรุกขยับขึ้นมาเองได้ บินออกมาและร่อนลงบนกระดานหมากรุก

เห็นถึงฉากนี้แล้ว ทำให้เฉินเกอรู้สึกประหลาดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ

ถึงคราวเฉินเกอแล้ว เฉินเกอก็ค่อยๆ หยิบเอาเบี้ยสีดำออกจากกล่องใส่หมากรุกช้าๆ เม็ดหนึ่งแล้ววางลงบนกระดานหมากรุก

หมากล้อม เฉินเกอเคยได้สัมผัสมาบ้างแล้ว แต่ก็แค่พอจะรู้บ้างนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้ชำนาญมากเท่าไหร่

ด้วยความรวดเร็ว เฉินเกอกับชายชราก็เธอวางลงฉันวางกลับไป

ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ เฉินเกอก็พ่ายแพ้ไป

“พ่อหนุ่ม อย่าเพิ่งใจร้อนไป ต้องรู้ถึงวิธีการเข้าใจความหมายลึกซึ้งในหมากกระดานนี้”

ได้ยินเพียงชายชราเอ่ยกับเฉินเกอ

คำพูดนี้ของชายชรามีนัยยะเหนือคำพูดอยู่ ในคำพูดมีความหมายอื่นแฝงอยู่

เฉินเกอรู้ว่า หากตัวเองต้องการที่จะเข้าใจความหมาย ดูท่าจะต้องลงมือจากหมากกระดานนี้แล้ว

พูดจบ ทั้งสองก็เริ่มรอบที่สอง

แต่ว่าดูจากรอบที่สองนี้ เห็นได้ชัดว่าเฉินเกอจะก้าวหน้ากว่ารอบแรกมาก

ในรอบแรกโดยพื้นฐานแล้วเฉินเกอเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่ตลอด ดังนั้นจึงทำให้สุดท้ายตัวเองไม่มีแรงที่จะต่อสู้กลับไปได้ ถูกจูงจมูกเดินไปเลยโดยตรง

และในรอบนี้เฉินเกอก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น เขาไม่ไปเป็นฝ่ายตั้งรับเองอีก แต่เลือกที่จะฝ่ายเริ่มต้นโจมตี ต่อสู้กับชายชราอย่างไม่สามารถสลัดตัวออกมาได้

แต่ว่าผลสุดท้าย เฉินเกอก็เป็นฝ่ายแพ้อยู่ดี

“พ่อหนุ่ม รอบนี้ก้าวหน้าอย่างมาก ห่างกับความสำเร็จเพียงแต่ก้าวเดียวเท่านั้น! ”

ชายชราเอ่ยปากเตือนเฉินเกออีกครั้ง

ต่อมา รอบที่สามก็เริ่มต้นขึ้น

ทันทีที่เริ่มเกม เฉินเกอก็เริ่มต้นโจมตีเองก่อน ไม่เปิดโอกาสให้ชายชราได้มีโอกาสในการโจมตีเลยแม้แต่น้อย

รอบนี้เฉินเกอจะไม่มีทางยอมให้ชายชราจูงตัวเองเดินไปเด็ดขาด เขาจะเป็นฝ่ายจูงชายชราเดินเอง

เป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังจากผ่านการประลองสองเกมก่อนหน้านั้นแล้ว ทักษะการเล่นหมากล้อมของเฉินเกอก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดด แตกต่างไปจากสองเกมก่อนหน้านั้นไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้ตัวเฉินเกอเองยังรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

หลังจากผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้แล้ว สุดท้ายในรอบนี้เฉินเกอก็ได้รับชัยชนะ

“พ่อหนุ่ม ยินดีด้วยคุณเข้าใจความหมายสำเร็จแล้ว คุณกลับไปได้แล้ว! ”

หลังจากชนะ ชายชราเอ่ยกับเฉินเกอโดยตรง

เฉินเกอเองก็ประหลาดใจ

ยังไม่รอให้เฉินเกอเอ่ยปากสอบถามสาเหตุ เฉินเกอก็ถูกส่งออกไป

ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

Status: Ongoing

เรื่องย่อ ณวันนั้น พี่สาวกับพ่อแม่ที่ทํางานอยู่ต่างประเทศบอกกับตัวเองอย่างกะทันหันว่า ตัวเองเป็นทายาทเศรษฐี ครอบครองสมบัติหลายล้าน เฉินเกอคิดในใจว่า ฉันเป็น ทายาทเศรษฐีจริงๆหรอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท