บทที่ 921 เข้าไป
“ท่านไป๋ ขอบคุณมากสำหรับคำเตือนของคุณ แต่เรามีภารกิจสำคัญที่จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้จริงๆ ดังนั้นเราจำเป็นต้องไปหาดินแดนเผ่าเส่ส้าให้เจอ คืนนี้จะขอพักที่บ้านท่านหนึ่งคืน พรุ่งนี้เช้าเราก็จะไป! ”
เฉินเกอมองท่านไป๋และเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง
ได้ยินคำพูดของเฉินเกอ ใบหน้าของท่านไป๋ก็กระตุกเล็กน้อย เป็นแบบเล็กน้อยมาก
จนถึงกลางดึก พวกเฉินเกอสี่คนถึงได้แยกย้ายกันไปนอน
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องไม่คาดคิด เฉินเกอรับหน้าที่เฝ้ายามกลางคืน ให้พวกเล๋ยเล่สามคนไปนอนกันก่อน
แต่โชคดีว่าคืนนี้ไม่ได้เกิดเรื่องและสถานการณ์ใดๆ ขึ้น ปลอดภัยทั้งคืน
เช้าวันต่อมา พวกเฉินเกอสี่คนก็ตื่นขึ้นมาแต่เช้า
เฉินเกอเดินไปตรงประตูและเปิดประตูออก
ทันทีที่เปิดประตู ทำเอาเฉินเกอตกใจเกือบตาย
เห็นเพียงท่านไป๋ยืนอยู่หน้าประตู จ้องมองเฉินเกอด้วยความใจเย็น
“ท่านไป๋? ”
เฉินเกอเอ่ยถามหลังจากอึ้งไปสักครู่ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าท่านไป๋จะปรากฏตัวหน้าประตู
“ผมขอถามพวกคุณอีกครั้ง พวกคุณแน่ใจเหรอว่าจะไปตามหาดินแดนของเผ่าเส่ส้า? ต้องไปให้ได้เลยเหรอ? ” ท่านไป๋จ้องมองเฉินเกอ เอ่ยถามอย่างจริงจังมาก
เฉินเกออึ้งไปก่อน จากนั้นเขาก็พยักหน้าตอบด้วยความแน่วแน่
“ถูกต้อง ท่านไป๋ เราจะต้องไปให้ได้! ”
“ดี ในเมื่อพวกคุณแน่วแน่ขนาดนี้ งั้นผมก็จะพาพวกคุณไป แต่ว่าทุกอย่างก็ต้องแล้วแต่โชคชะตาของพวกคุณแล้ว”
ได้ยินเพียงท่านไป๋มองที่เฉินเกอแล้วเอ่ยปาก
ได้ยินคำพูดนี้ของท่านไป๋ ทำให้เฉินเกอประหลาดใจอย่างมาก
เฉินเกอคิดไม่ถึงแม้แต่นิดเดียวว่าท่านไป๋จะเปลี่ยนแปลงท่าทีได้เร็วขนาดนี้ เมื่อคืนยังคัดค้านไม่ให้พวกเขาไปหาดินแดนของเผ่าเส่ส้าเองอยู่ตลอด เช้าวันนี้กลับเต็มใจที่จะพาพวกเขาไป
เป็นอย่างที่เฉินเกอคาดเอาไว้จริงๆ ท่านไป๋รู้ว่าดินแดนเผ่าเส่ส้าอยู่ที่ไหนจริงๆ
ดูท่ากลุ่มคนก่อนหน้าที่ล้วนแต่ไม่มีชีวิตรอดออกมา จะต้องเกี่ยวข้องท่านไป๋แน่ๆ
“พวกคุณรีบเก็บข้าวของก่อน เวลาไม่รอคน! ” ท่านไป๋เอ่ยเตือนเฉินเกออีกคำ จากนั้นก็หันหลังจากไป
มองไปที่แผ่นหลังของท่านไป๋ เฉินเกอก็ไม่ลังเลเลยสักนิดเดียว ข้างในก็ให้พวกเล๋ยเล่สามคนรีบเก็บข้างของ
จากนั้น พวกเฉินเกอสี่คนก็ตามท่านไป๋เข้าไปในป่าลึก
ตลอดทาง พวกเฉินเกอสี่คนกับท่านไป๋ก็ไม่มีการสนทนาใดๆ บรรยากาศดูเงียบมาก
“ท่านไป๋ ทำไมจู่ๆ คุณถึงเปลี่ยนความคิดที่มีต่อเรา? ”
เพื่อเป็นการทำลายบรรยากาศแบบนี้ เฉินเกอก็เลยเอ่ยถามท่านไป๋ไป
“เพราะพวกคุณแตกต่างจากคนเหล่านั้น! ”
ท่านไป๋ตอบเฉินเกอไปอย่างเรียบง่ายและไม่แยแส
“คนเหล่านั้น? ท่านไป๋ คำพูดนี้ของคุณหมายความว่าอย่างไร? ”
เฉินเกอรู้สึกสงสัยแปลกใจขึ้นมา
“เหอะๆ ก่อนหน้านั้นคนที่มาตามหาดินแดนเผ่าเส่ส้าล้วนแต่ไม่ใช่คนดีอะไร มีโจรปล้นสุสาน มีคนละโมบโลภมาก อย่างคนเหล่านั้นคิดที่จะตามหาดินแดนของเผ่าเส่ส้ามันเป็นเรื่องที่เป็นไม่ได้หรอก ดังนั้นพวกเขาล้วนแต่ต้องตายอยู่ที่นี่”
ท่านไป๋เอ่ยน้ำเสียงราบเรียบ พูดเหมือนกับว่าสำหรับเขาแล้วเรื่องมันเป็นไปตามที่เขาหวังเอาไว้
“ท่านไป๋ ตกลงแล้วคนพวกนั้นตายได้อย่างไร? ” เฉินเกอถามต่ออย่างสงสัย
“ผมทำให้พวกเขาตายเอง! ”
ท่านไป๋เอ่ยคำนี้ออกมาโดยตรง
เสียงดังซวบ!
สีหน้าเฉินเกอเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาคิดไม่ถึงว่าท่านไป๋จะพูดตรงขนาดนี้
“ไม่ต้องกลัว ผมไม่ทำร้ายพวกคุณหรอก เพราะพวกคุณไม่เหมือนกับคนเหล่านั้น ผมเชื่อพวกคุณ! ” เห็นสีหน้าเฉินเกอเปลี่ยนไปอย่างมาก ท่านไป๋รีบอธิบายกับเฉินเกอทันที
ความจริงเฉินเกอก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยในใจ เพราะเขาไม่รู้ว่าตกลงแล้วสิ่งที่ท่านไป๋พูดคือเรื่องจริงหรือเรื่องหลอกลวงกันแน่
แต่ตอนนี้พวกเขาทำได้แค่เดินไปทีละก้าวแล้วว่ากันไปทีละก้าวเท่านั้นแล้ว ถ้าหากพบว่าท่านไป๋มีอะไรผิดปกติจริง เฉินเกอจะไม่ออมมือให้เด็ดขาด จะต้องกำจัดท่านไป๋ทิ้งอย่างแน่นอน
เวลาเดินไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวพวกเฉินเกอห้าคนก็เดินมาแล้วประมาณหนึ่งชั่วโมง
เห็นเพียงท่านไป๋พาพวกเฉินเกอสี่คนมาถึงค่ายกลหินขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
“ที่นี่คือ? ”
เฉินเกอเหลือบมองไปบริเวณรอบๆ เอ่ยถามขึ้นมาอย่างประหลาดใจ
“ที่นี่ก็คือจุดที่เป็นทางเชื่อมเปิดทางไปถึงแดนจี๋หยิง พวกคุณจะต้องผ่านแดนจี๋หยิงไปเท่านั้นจึงจะสามารถหาดินแดนเผ่าเส่ส้าเจอ แต่ว่าแดนจี๋หยิงไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่พวกคุณจินตนาการ ถ้าหากจิตพวกคุณไม่แข็งพอ ก็มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่จะถูกผีกลืนกิน ถูกขังอยู่ในแดนจี๋หยิงตลอดไป! ”
ท่านไป๋มองพวกเฉินเกอสี่คนบรรยายออกมาอย่างเคร่งเครียดและจริงใจ
เวลานี้เฉินเกอหยิบเอาแผนที่ที่ท่านฟ่านมอบให้แก่ตัวเองออกมาดู แน่นอนมันเหมือนกันกับสถานที่ที่ท่านไป๋พาตัวเองมา ดูท่าท่านไป๋ไม่ได้หลอกตัวเองจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้นแดนจี๋หยิงจะเปิดออกเมื่อไหร่? ” เวลานี้เฉินเกอมองไปทางท่านไป๋แล้วเอ่ยถาม
“ยังเหลือสามวันก่อนจะถึงกลางเดือน หลังสามวันที่นี่ถึงจะเปิดอย่างเป็นทางการ ระยะเวลาที่แดนจี๋หยิงจะเปิดออกก็คือสามวัน ถ้าหากในระยะเวลาสามวันนี้พวกคุณยังไม่ออกมา ก็จะติดอยู่ในนั้นตลอดไป จนกว่าแดนจี๋หยิงจะเปิดอีกครั้ง! ”
ท่านไป๋เอ่ยเตือนพวกเฉินเกอสี่คนด้วยความหวังดีต่อ
“ไม่มีทางอื่นที่จะเข้าไปได้เลยเหรอ? ” เฉินเกอมองไปทางท่านไป๋สอบถามขึ้นมาคำหนึ่ง
เฉินเกอรู้สึกว่าวิธีเข้าไปในแดนจี๋หยิงจะต้องไม่ได้มีแค่ทางนี้วิธีเดียวแน่ๆ จะต้องยังมีวิธีอื่นแน่ๆ
“คนหนุ่มสาว ใจร้อนมากเกินไปไม่ใช่เรื่องที่ดีนะ! ”
ท่านไป๋เอ่ยเตือนไปทางเฉินเกออีกคำ
“แต่ว่า ผมถูกชะตากับคุณ ผมสามารถช่วยคุณเปิดทางของแดนจี๋หยิงออกก่อนล่วงหน้า แต่ว่าพวกคุณสามารถเข้าไปได้แค่สามคนเท่านั้น ยังมีอีกคนที่จะต้องรออยู่ที่นี่” จากนั้นท่านไป๋ก็พูดกันเฉินเกอต่อ
ได้ยินคำพูดนี้ เฉินเกอก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที
“แดนจี๋หยิงสามารถเดินทางเข้าไปด้วยกันได้อย่างมากแค่สามคนเท่านั้น ดังนั้นพวกคุณต้องเข้าไปสองคน หรือไม่ก็เข้าไปสามคน”
ได้ยินแบบนี้ เฉินเกอมองไปทางพวกเจินจีสามคน
“เฉินเกอ ไม่งั้นคุณก็เข้าไปกับเล๋ยเล่เถอะ ฉันกับหยูซินจะรออยู่ข้างนอก”
เจินจีไม่รอให้เฉินเกอเอ่ยปาก ก็รีบเสนอให้เฉินเกอทันที
“ท่านไป๋ เราสองคนไปพร้อมกัน พวกเธอสองสาวไปพร้อมกันไม่ได้เหรอ? แบ่งกันเข้าไปแบบนี้ได้ไหม?
เฉินเกอมองท่านไป๋รีบเอ่ยถามทันที
ท่านไป๋ส่ายหน้าโดยตรง
“ไม่ได้! ”
เห็นว่าท่านไป๋ปฏิเสธโดยตรง เฉินเกอก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีก
“เอาอย่างนี้ก็ได้ พี่เฉิน คุณกับคุณหนูใหญ่เจินเข้าไป ผมกับหยูซินรอพวกคุณอยู่ข้างนอกก็พอ! ”
เพียงแค่ได้ยินเวลานี้เล๋ยเล่ก็เอ่ยปากเสนอวิธีนี้ออกมา
เพราะถึงอย่างไรเจินจีกับเฉินเกอต่างก็ถือว่าเป็นผู้ฝึกตน ดังนั้นหลังจากทั้งสองคนเข้าไปด้วยกันแล้วถึงจะสามารถค้นหาได้ดียิ่งกว่า
“ไม่ได้ นายกับหยูซินอยู่ข้างนอกอันตรายเกินไปแล้ว เธอกับอาจารย์ของนายเข้าไปเถอะ เราศิษย์อาจารย์สองคนจะรอพวกเธออยู่ข้างนอก ฉันยังสามารถปกป้องหยูซินได้ด้วย”
ได้ยินข้อเสนอแนะของเล๋ยเล่ เจินจีออกความเห็นที่ไม่เห็นด้วยโดยตรง
“ฟังคุณหนูใหญ่เจินของคุณเถอะ แค่เราสองคนเข้าไป! ”
เฉินเกอก็ไม่มีความคิดเห็นใดๆ อีก เลือกที่จะทำตามข้อเสนอแนะของเจินจี
ยิ่งไปกว่านั้นหากปล่อยเล๋ยเล่กับหยูซินไว้ข้างนอก
เฉินเกอก็เป็นห่วงมากจริงๆ ในกรณีที่พบกับอันตรายเข้า พวกเขาทั้งสองทำอะไรไม่ได้สักนิดเลยจริงๆ