ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 18

ตอนที่ 18

ตอนที่ 18 พี่สะใภ้ไม่มา

เจียงหยู่ตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “ไม่ได้มาด้วย”

“ทำไมไม่ไว้หน้ากันเลย ไม่ควรนะ”

กาวหนานพูดแบบนี้ ทุกคนต่างรู้สึกแปลกใจ ยังไงเสียฐานะของเจ้าสาวก็สู้เจียงหยู่ไม่ได้

หากเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่นที่แต่งเข้าบ้านตระกูลเจียงล่ะก็ต้องรู้สึกขอบคุณอย่างมาก

จะให้เจียงหยู่ขายหน้าได้อย่างไรกัน

ผู้หญิงคนนั้นทำไมโง่แบบนี้

ฉินชุงเจี้ยนก็ร่วมด้วย “ฉันว่าไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่มา เป็นนายที่ไม่ให้เธอมาล่ะสิ นายขี้หวงจะตายไม่อยากให้พวกเราดูว่าเมียนายเป็นยังไง จะเอาไว้ดูคนเดียวล่ะสิ”

เจียงหยู่เดินเข้ามานั่งข้างๆฉินชุงเจี้ยน

“นายเข้าใจฉันที่สุด”

พูดจบทุกคนต่างหัวเราะกัน

“อัยหยา เจียงหยู่ของพวกเราแต่งงานสายฟ้าแลบไปแล้วคงหาสาวๆมานั่งข้างๆด้วยไม่ได้แล้ว” กาวหนานพูดเล่นหยอกล้อต่อ

“อย่าพูดเหมือนกับว่าเมื่อก่อนนั้นฉันมีอย่างนั้นแหละเสียชื่อหมด”

หวางเซียวอี้ยื่นซิการ์ให้เจียงหยู่ แล้วชี้ไปที่กาวหนาน

ในบรรดาเหล่าคุณชายทั้งหลายนี้กาวหนานอายุน้อยที่สุด เป็นหลานของผู้อำนวยการกาว เป็นที่รักของทุกคนในบ้านตระกูลกาว

และมาอยู่กับพวกเขาได้อย่างไรกันนั้น

นั่นก็เพราะพวกเขาล้วนชอบเล่นกอล์ฟและสนุกเกอร์

ถึงแม้กาวหนานจะอายุน้อยแต่ก็มากความสามารถ

เล่นบาสเกตบอลก็ได้ ถึงนิสัยจะขี้เล่นไปหน่อยแต่คนก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ดังนั้นจึงเข้าได้ดีกับพวกเขา

ไม่กี่วันก่อนกาวหนานพึ่งจะกลับมาจากพักร้อนแถวยุโรปเหนือ ลงเครื่องมาปุ๊บก็เห็นข่าวทันที

เจียงหยู่แต่งงานแล้ว และเจ้าสาวคือว่าที่ภรรยาของแซ่จื๋อจ้วน

นี่มันเรื่องใหญ่ ดังนั้นรอให้เจียงหยู่ว่างจึงได้นัดกันมาดื่ม

ที่จริงแล้วก็อยากจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น

ในนี้นอกจากกาวหนานแล้วพวกเขาล้วนไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้

ที่จริงฉินชุงเจี้ยนมีแฟนแล้ว แต่โชคร้ายเมื่อสองปีก่อนเป็นมะเร็งเต้านมเสียชีวิตแล้ว

เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อเขาอย่างมาก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็ไม่เคยคบใครอีกเลย

หวางเซียวอี้ก็เป็นคนบ้างานทำแต่งานไม่มีเวลาเลย เป็นคนโสดพันปีคนหนึ่ง

แต่ตระกูลหวางก็เป็นตระกูลใหญ่ในสี่ตระกูล ดังนั้นเขาจะอยู่เป็นโสดไม่ได้

กาวหนานเองก็พาพวกลูกคนรวยไม่กี่คนมามีทั้งผู้ชายและผู้หญิง

ก็เพื่อบรรยากาศเขาจึงได้เรียกสาวๆนางแบบเข้ามาอีกไม่กี่คนเข้ามาร่วมสนุกกัน

ผู้หญิงเหล่านี้พอเข้ามาก็ดื่มไม่ยั้ง หลังจากที่ดื่มเข้าไป อาการคนเมาก็เริ่มมา

เปิดเพลงแล้วเต้นกัน

ในขณะที่ทุกอย่างกำลังวุ่นๆ ฉินชุงเจี้ยนก็ถือโอกาสถามเจียงหยู่

“เจียงหยู่เกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆถึงแต่งงานกะทันหันขนาดนี้ แล้วก็ยังจะไปแย่งกับแซ่จื๋อจ้วนด้วย นี่มันไม่ใช่สไตล์ของนายนี่”

เจียงหยู่ได้ยินก็ได้แต่ยิ้มแล้วพูดขึ้นมาว่า “พระเอกขี่ม้าขาว”

“อย่าพูดเล่นพูดจริงๆ พวกเราแปลกใจกันมาหลายวันแล้ว”

ที่จริงแล้วไม่ใช่แค่ฉินชุงเจี้ยนขนาดหวางเซียวอี้ที่มีนิสัยเก็บตัวเงียบๆยังอยากจะถามเจียงหยู่ว่าทำไมถึงจัดการกับเรื่องใหญ่ของชีวิตแบบง่ายๆอย่างนี้

ที่สำคัญคือ อยู่ในงานแต่งของคนอื่น แล้วยังแย่งเจ้าสาวของเขาอีก

ทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าเป็นศัตรูกับตระกูลแซ่น่ะสิ

จริงๆแล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกคนต่างก็พอรู้กันดี

และเรื่องที่รู้กันดีคือแซ่จื๋อจ้วนกับคลิปนัวเนียดาราสาวของเขา

ทำให้เจ้าสาวต้องยืนอยู่บนเวทีคนเดียวต่อหน้าแขกมากมาย แต่เจ้าสาวก็ใจแข็งเหมือนกัน

ไม่เพียงแต่ไม่ได้ร้องไห้ แต่ยังชี้นิ้วหาเจ้าบ่าวมาแทนจนได้

และเจ้าบ่าวคนนี้ก็คือเจียงหยู่

ข่าวที่ลือกันคือแบบนี้ แต่เรื่องที่แท้จริงเป็นแบบไหนพวกเขาเองก็อยากฟังจากปากของเจียงหยู่

เจียงหยู่ยิ้มนั่งพิงอยู่บนโซฟาสีแดงสไตล์ยุโรป

เขาพูด..

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท