ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 11

ตอนที่ 11

ตอนที่ 11 ต้องเปลี่ยนคำพูด

หวาเหวินลังเลแต่สุดท้ายก็เรียกว่า “พ่อคะแม่คะ”

เสียงไม่ได้ดังนักแต่ทั้งเจียงเหวินและคุณนายเจียงรวมไปถึงเจียงหยู่เองก็ได้ยินอย่างชัดเจน

“อืม เด็กดี”

ถึงแม้คุณนายเจียงจะไม่ค่อยยินดีเท่าไหร่ แต่เรื่องมาถึงตรงนี้แล้ว จะว่าไปผู้หญิงคนนี้ก็แลดูสง่าดี

มองดูใบหน้าที่สวยงามพอไปวัดไปวาได้ ก็ทำให้อคติที่มีในใจค่อยๆลดลงไป

เจียงเหวินเองก็รับคำไว้ ยังไงเสียงเธอก็เรียกตนว่าพ่อกับแม่แล้ว ไม่ว่าจะยินดีหรือไม่ยินดี นี่ก็ออกมาจากความเคารพ

ยิ่งไปกว่านั้น ถึงตอนนี้จะไม่ได้ไปมาหาสู่กันแต่ยังไงเสียเมื่อก่อนก็เคยไปมาหาสู่กันอยู่ ก็ไม่ควรทำเกินไป

ดังนั้นทั้งสองจึงได้หยิบของที่เมื่อก่อนเตรียมเอาไว้ออกมา

สำหรับตระกูลเจียงที่ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีแบบนี้ แน่นอนว่าไม่ได้ขี้เหนียวที่จะให้แค่หมื่นสองหมื่นแน่นอน

คุณนายเจียงหยิบการ์ดสีดำทองออกมาหนึ่งใบแล้วยื่นเอาไปไว้ในมือของหวาเหวิน

“นี่คือบัตรที่แม่กับพ่อตั้งใจมอบให้”

หวาเหวินมองไปทางเจียงหยู่ เขากะพริบตาเป็นสัญลักษณ์ว่ารับได้

หวาเหวินพยักหน้าแล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะคุณพ่อคุณแม่”

“นั่งเถอะ” เจียงจู่เหวินและคุณนายเจียงไม่ค่อยชอบลูกสะใภ้คนนี้เท่าไหร่นัก คิดแต่เพียงว่ามันกะทันหันเกินไป

ลองคิดดูสิ ทั้งสองไปร่วมงานแต่งของตระกูลหวาและตระกูลแซ่ตอนไปมือเปล่าแต่ตอนกลับมากลับได้ลูกสะใภ้กลับมาด้วยคนหนึ่ง

ไปแย่งลูกสะใภ้ตระกูลแซ่มา นี่ นี่มันยากที่จะรับได้จริงๆ

แน่นอน เรื่องทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นคนที่ทำก็คือลูกชายสุดที่รักของพวกเขาเจียงหยู่

หวาเหวินพยักหน้าแล้วนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามด้วยท่าทางที่สง่างาม

เจียงหยู่จ้องมองดูเธออย่างละเอียดดูแล้วเธอมาเหมือนผู้หญิงที่อายุยี่สิบต้นๆ

ทุกอิริยาบถดูดีมีสง่ามันเป็นสิ่งที่คนอายุประมาณนี้ไม่น่าจะมีและไม่น่าจะดูเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้

“เรื่องของเธอกับเจียงหยู่ เขาพูดกับพวกเราหมดแล้ว เรื่องนี้มันกะทันหันเกินไป ฉันกับภรรยาของฉันเองก็ยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ แต่ยังไงเสียพวกเราก็ยอมรับลูกสะใภ้คนนี้ และจะดูแลเธอให้ดี ตระกูลเจียงของเรากับตระกูลหวายังไงก็คนเคยรู้จักกัน ในส่วนของสินสอดทางเราจะจัดเพิ่มให้ งานแต่งก็จะจัดให้ จะไม่ให้เธอต้องเข้ามาอย่างอับอายขายหน้า ฉันและแม่ของเขาก็มีเขาเป็นลูกชายคนเดียว ไม่ขอให้เธอสองคนดีอะไรมากมายขอแค่รักกันอยู่ด้วยกันอย่างสงบก็พอแล้ว”

ยังไงเสียเจียงจู่เหวินก็เป็นคนใหญ่คนโตคนหนึ่งไม่กี่ปีมานี้ไม่ว่าจะงานอะไรแบบไหนเขาก็เจอมาหมด

จริงๆแล้วจะมีเรื่องบ้างก็เป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่มี

มีคำพูดหนึ่งที่ว่า บุคคลที่ยิ่งเก่งก็ยิ่งมีมารยาท

คำพูดนี้ของเจียงจู่เหวินให้เกียรติหวาเหวินลูกสะใภ้คนนี้มากและให้เกียรติตระกูลหวาเช่นกัน

ในใจของเธอก็ค่อยสบายใจและคิดว่าพ่อสามีคนนี้คงเข้าด้วยได้ง่าย

“พ่อคะเรื่องสินสอดไม่ต้องแล้วก็ได้ค่ะ หนูคิดมาตลอดมาการแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคน เรื่องนี้เกิดความวุ่นวายขนาดนี้แล้วหนูไม่อยากให้ทั้งตระกูลเจียงและตระกูลหวาถูกผลักไปอยู่บนปากเหว หนูคิดว่าเราให้มันจบไปเงียบๆแบบนี้ หากวันหน้ามีโอกาสค่อยว่ากันใหม่”

เจียงหยู่รู้สึกแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าหวาเหวินจะมีความคิดแบบนี้

วิธีนี้ก็ไม่เลว เขาเองก็ไม่ชอบอะไรที่มันเอิกเกริก เจียงหยู่กับแซ่จื๋อจ้วนไม่เหมือนกัน

ถึงแม้ว่าจะเป็นลูกคนรวยเหมือนกัน แต่คนหนึ่งกลับชอบโอ้อวด อีกคนชอบเรียบๆง่ายๆ

คนหนึ่งชอบมีเรื่องให้ขึ้นหน้าหนึ่ง คนหนึ่งกลับนั่งทำงานเงียบๆอยู่ที่บริษัท เล่นบาสเกตบอลแล้วก็ทำอะไรที่ตนเองชอบอีกนิดหน่อย

ได้ยินหวาเหวินพูดแบบนี้ เจียงจู่เหวินและคุณนายเจียงหันมาสบตากันทันที

“แบบนี้ก็ดีงั้นก็ทำตาที่เธอพูดแล้วกัน”

คุยอะไรอีกสักพักจากนั้นทั้งสองก็กลับขึ้นไปพักผ่อนข้างบน

พอเข้ามาในห้องหวาเหวินก็ยื่นบัตรให้กับเจียงหยู่ทันที

“หมายความว่าไง” เขามองดูเธอด้วยแววตาที่ยิ้ม

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท