ตอนที่ 6 พาดหัวข่าว
สามชั่วโมงผ่านไป
ข่าวหนึ่งได้ทำให้เมืองที่สงบนี้ระเบิดขึ้น
ทำให้ข่าวของแซ่จื๋อจ้วนที่นัวเนียกับคนรักของเขาถูกลืมไปเลย
นั่นคือ เจ้าสาวหาเจ้าบ่าวมาแทนได้
และที่น่าสนใจคือ สถานะของเจ้าบ่าว ที่เป็นถึงเสาหลักของเมืองเจียง ลูกชายของผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลเจียง
ลูกชายของตระกูลเจียงคือใคร
เขาไม่เพียงแต่เป็นทายาทของตระกูลเจียง ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ
ทายาทตระกูลเจียงนั้นมีรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาและมีความสามารถ
และจบจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ อายุ23ปีก็กลับมารับช่วงต่อกิจการของตระกูล รวมๆแล้วได้สามปีครึ่งพอดี ที่ทำให้ธุรกิจของตระกูลเจียงรุ่งเรืองขึ้น
เขากลายมาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่อายุน้อยแต่มีความสามารถในการบริหารธุรกิจของประเทศไปแล้ว เขาคือทายาทที่ต้องสานต่อธุรกิจของตระกูลเจียง
และคนแบบนี้ กลับแต่งงานสายฟ้าแลบ
และเจ้าสาวก็คือเจ้าสาวของแซ่จื๋อจ้วนที่ทิ้งเอาไว้
นี่มันเรื่องอะไรกันแน่
ทายาทตระกูลเจียงหากจะพูดตามจริงแล้ว เขาสูงส่งกว่าแซ่จื๋อจ้วนหลายเท่านัก
แต่เขากลับยินดีแต่งงานกับผู้หญิงที่แซ่จื๋อจ้วนไม่เอา
นี่มัน…ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
แต่ยุคนี้ใครจะยังไปสนใจว่ามันจะสมเหตุสมผลหรือไม่
ดังนั้นหลังจากสามชั่วโมงผ่านไป ข่าวนี้ก็ยังคงถูกพาดหัวข่าวเอาไว้ และยิ่งไปกว่านั้นคือยอดการค้นหาเยอะมาก
หัวข้อคือ—เจียงหยู่หวาเหวิน
ตระกูลหวาเองก็มีชื่อเสียง บรรพบุรุษก็ไม่ด้อยไปกว่าใคร แต่พอมาถึงยุคนี้กลับแลดูไม่ค่อยได้
หวาเจิ้งเยว่และคุณนายหซู่ลี่หวามีลูกด้วยกันสี่คนล้วนเป็นผู้หญิง
พอมาถึงท้องสุดท้าย เพราะว่าเป็นท้องแฝดชายหญิงดังนั้นทำให้หวาเจิ้งเยว่ดีใจมาก แต่คิดไม่ถึงพอคลอด โชคไม่ดีทำให้เด็กผู้ชายเสียชีวิต เหลือเพียงแค่หวาเหวินผู้อ่อนแอ
ดังนั้นหวาเหวินจึงถูกตราหน้าว่าเป็นตัวอัปมงคลเกิดได้ไม่นานก็ตามนายหญิงแก่ไปอยู่ที่เขาจงชุ่ย
หลายปีผ่านไปก็ไม่เคยลงมาจากเขา ความสัมพันธ์กับพ่อแม่ก็มีแค่นั้น
ตอนนี้นายหญิงแก่ของตระกูลหวาป่วยหนัก ธุรกิจของตระกูลหวาก็กำลังตกที่นั่งลำบาก
ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่แต่งงาน
พอได้ยินว่าต้องแต่งงานกับแซ่จื๋อจ้วนผู้ที่มีข่าวฉาวทุกวัน
ก็ทำให้คนโสดอย่าคุณหนูสามและคุณหนูสี่ส่ายหน้าไม่ยอมกันยกใหญ่
และในเวลานี้นี้ที่ทุกคนคิดถึงหวาเหวินผู้ที่ไม่เคยอยู่ในหัวของพวกเขา
นายหญิงแก่เป็นคนเลี้ยงดูหวาเหวินจนโต แน่นอนว่าต้องรักนายหญิงแก่มาก
สองปีมานี้สุขภาพของนายหญิงแก่ไม่ค่อยดี โดยเฉพาะปีนี้ เคราะห์อายุ84ปี
คิดว่าหากตนเองไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย หลานสาวคนนี้คงไม่มีคนดูแลน่าสงสารยิ่งนัก
หวาเหวินจำได้วันนั้นที่อยู่ที่โรงพยาบาลนายหญิงแก่พูดกับเธอ
คุณย่าบอกว่า “อาหวา ย่าไม่สามารถปกป้องเธอไปตลอดชีวิตได้ นี่ก็เป็นโอกาสที่ดี ย่าส่งคนไปสืบมาแล้ว ถึงแม้แซ่จื๋อจ้วนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ตระกูลแซ่ก็เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง หากแต่งเข้าไปก็จะไม่เดือดร้อนอะไร คุณนายแซ่ก็เป็นคนดีคนหนึ่ง หากโชคดีสามารถมีลูกชายลูกสาวให้ตระกูลแซ่ได้ แซ่จื๋อจ้วนคงไม่ทำไม่ดีกับเธอหรอกนะ”
หวาเหวินตกลงที่จะแต่งงาน หนึ่งคืออยากให้คุณย่าดีใจ
ถึงแม้สุดท้ายแล้วจะไม่เป็นดังหวัง แต่ยังไงเสียก็ทำให้คุณย่าได้เห็นงานแต่งของเธอ เป็นการตอบแทนที่เลี้ยงดูเธอมานานหลายปี
สองคือ เพราะคุณย่าที่ถึงแม้จะกินเจมาตลอดชีวิตแต่ก็เห็นว่าธุรกิจของตระกูลหวาสำคัญไม่อยากให้มันล้มละลายไปแบบนี้
ดังนั้นจึงยอมเสียสละความสุขของตนเอง และยอมตกลงแต่งงาน
แต่ คิดไม่ถึงว่าวันแต่งงานจะเกิดเรื่องที่น่าอับอายแบบนี้ขึ้นมา
โชคดีที่เธอสามารถหาเจ้าบ่าวมาแทนได้ แต่ทำไมเจ้าบ่าวคนนี้ถึงได้จับไม่ยอมปล่อยนะ
“คุณนายน้อยคะ คุณเจียงหยู่ให้ผมมารับคุณกลับไปที่บ้าน”
คนขับรถของเจียงหยู่ขับรถเบนท์สีดำมา ทำให้หวาเหวินดึงสติกลับมา
