ตอนที่ 16 ไม่ไว้หน้า
เจียงหยู่พูดไปแล้วถือวิสาสะเดินเข้ามาอย่างคนคุ้นเคย
จริงๆแล้วมันไม่มีอะไรที่ต้องคุยกับคนพวกนั้น พูดด้วยไม่กี่คำ เจียงหยู่ก็เอานายหญิงแก่ตระกูลหวามาอ้างแล้วเดินมาทางเรือนข้างหลังนี้
คิดไม่ถึงว่าพอเดินเข้าประตูมา ก็ได้ยินที่หวาเหวินพูดกับนายหญิงแก่ตระกูลหวา มันบังเอิญจริงๆ
ถูกคนจับได้หวาเหวินเองก็รู้สึกไม่ดี เลยไม่ได้ส่งเสียงอะไร
แต่นายหญิงแก่ตระกูลหวากลับรู้สึกดีใจ
สะบัดมือ สั่งคนใช้ “เร็วรีบเอาเก้าอี้มา”
“คุณย่าครับสุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง”
“ดีดีดี สุขภาพย่าช่วงนี้ดี พวกเธอสองคนมีวาสนาต่อกัน อาเหวินบอกฉันแล้ว ว่าพวกเธอดีกับเธอมาก”
“อ้อ เธอพูดแบบนี้หรอ” เจียงหยู่ยิ้มแล้วมองมาทางหวาเหวิน
หวาเหวินสีหน้าไร้อารมณ์ แกล้งทำเป็นไม่รู้อะไร
“เมื่อก่อนที่ปู่กับย่าของเธอยังมีชีวิตอยู่ ก็ไปมาหาสู่กับพวกเรา คนตระกูลเจียงล้วนเป็นคนดี อาเหวินแต่งเข้าตระกูลเจียงของพวกเธอฉันก็วางใจแล้ว”
ยังไงเสียก็ลูกหลานคนใหญ่คนโต นายหญิงแก่ตระกูลหวาพูดประโยคนี้ก็เพื่อเอาใจ
แน่นอนว่าหวังอยากจะให้หลานสาวของตนอยู่ในตระกูลเจียงด้วยดี
“คุณย่าชมเกินไปแล้ว แต่คุณย่าก็พูดถูก เหวินเอ๋อกับผมมีวาสนาต่อกันผมจะดูแลเธออย่างดี”
นี่คือรับปากต่อหน้านายหญิงแก่ตระกูลหวาแล้วใช่ไหม
“ตริมไปหยิบหีบออกมา”
“ค่ะ”
คนใช้ที่ชื่อตริมรีบเข้าไปในอีกห้องหนึ่ง แล้วยกหีบสีแดงเข้มที่แกะสลักลายดอกไม้อย่างสวยงามออกมา
เห็นปุ๊บก็รู้ว่าเป็นของดี
นายหญิงแก่ตระกูลหวาหยิบกุญแจออกมาจากหมอนด้วยความสั่น แล้วเปิดหีบ
จากนั้นก็หยิบสร้อยทองออกมา
เอาไปไว้ในมือของหวาเหวิน “รับเอาไว้”
“คุณย่าคะหนูไม่เอา คุณย่ายกเฟิงหวาหลี่ให้หนูแล้ว พวกพี่สาวต่างก็พากันหาว่าคุณย่าลำเอียง หนูไม่อยากได้อะไรของคุณย่าแล้วค่ะ คุณย่าเก็บไว้เถอะ”
เห็นนายหญิงแก่ตระกูลหวาจะมอบของให้ตน หวาเหวินรีบปฏิเสธ
“ไม่ได้ให้เธอ สร้อยเส้นนี้เมื่อสิบกว่าปีก่อนฉันให้ช่างทำให้เพราะทำยากเลยกลายมาเป็นคู่ ฉันคิดว่าในอนาคตรอให้เธอแต่งงานมีลูกฉันจะยกให้เหลนของฉัน แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ฉันสุขภาพไม่ดี และอาจจะอยู่รอถึงวันนั้นไม่ไหว เธอรับมันไป เหมือนว่าฉันมอบให้กับเหลนของฉันล่วงหน้าแล้วกัน”
นายหญิงแก่ตระกูลหวายืนยันที่จะให้ หวาเหวินก็ได้แต่รับเอาไว้
“คุณหนูห้า ท่านรับไว้เถอะค่ะนี่คือน้ำใจเล็กๆน้อยๆของนายหญิงแก่ตระกูลหวา” แม่บ้านที่อยู่ข้างๆพูดโน้มน้าว
หวาเหวินจึงได้รับมาดวงตาสีแดงก่ำ
เจียงหยู่รู้สึกตื้นตันใจเลยพูดขึ้นว่า “ขอบคุณครับคุณย่า ร่างกายของคุณย่ายังแข็งแรงจะต้องไม่เป็นไรแน่ รอให้พวกเรามีลูกแล้วจะพามาขอบคุณคุณย่าด้วยตัวของเธอเอง”
นายหญิงแก่ตระกูลหวาได้แต่ยิ้มและไม่ได้พูดอะไรต่อ
ร่างกายของตัวเอง เจ้าตัวย่อมรู้ดีกว่าใคร
“นี่ก็สายมากแล้วพวกเธอกลับไปทานข้าวที่เรือนหน้าเถอะ วันนี้ไม่สามารถนอนพักค้างแรมได้ กินข้าวแล้วรีบกลับบ้านก่อนที่ตะวันจะลับฟ้า”
“คุณย่า…” หวาเหวินพูดขึ้นด้วยความอาลัยอาวอน
“ไปเถอะ ไว้ว่างแล้วค่อยมาหาย่าใหม่” นายหญิงแก่ตระกูลหวาตบมือของหวาเหวินเบาๆ
สุดท้าย เธอก็จากไปด้วยความอาลัย
อยู่กินข้าวที่บ้านตระกูลหวาเธอไม่ค่อยยินดีนัก เหมือนว่าหวาเหวินจะไม่ได้พูดอะไรมากเลยกินข้าวเสร็จก็กลับบ้านทันที
ระหว่างทางกลับบ้าน เจียงหยู่รับโทรศัพท์
เขาตั้งใจที่จะไม่เปิดเผยหัวข้อสนทนา
เสียงของผู้ชายคนหนึ่งในนั้นดังขึ้นว่า “เจียงหยู่คุณแต่งงานแล้วหรือ คุณไม่บอกพวกเราเลย คืนนี้ต้องมาเลี้ยงเหล้าพวกเราแล้วไม่เช่นนั้นพวกเราจะไม่นับคุณเป็นพี่น้องอีก”
“ได้ได้ได้ ฉันจะเลี้ยงพวกคุณเอง”
“พาพี่สะใภ้มาด้วยนะ พามาให้พวกเราดูหน่อย” ฝั่งนั้นพูดมา
เจียงหยู่ไม่ได้ตอบตกลง แต่แอบมองมาทางหวาเหวิน
หวาเหวินรีบตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ฉันไม่ไป จะไปคุณก็ไปเอง”
อัยหยา นี่มันไม่ไว้หน้ากันเลย เหมือนโดนตบหน้าเลย