ตอนที่ 19 บอกรักทั้งน้ำตา
เขาพูด แซ่จื๋อจ้วนมันไม่มีวาสนา หวาเหวินเป็นคนดี
เจียงหยู่เป็นคนที่ไม่ชมใครง่ายๆ
ดังนั้นคำชมนี้จึงแปลออกได้ว่า
หนึ่ง แซ่จื๋อจ้วนไร้วาสนา ก่อเรื่องจนงานแต่งของตนเองล่ม
สอง หวาเหวินเป็นคนดี เขาพอใจในตัวเธอ
ไม่รอให้ฉินชุงเจี้ยนกับหวางเซียวอี้ได้พูด กาวหนานก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น
เขาถามขึ้นด้วยความรีบร้อนว่า “พี่ จริงหรือหลอกกับพวกเราอย่ามาโกหกกัน แต่ผมได้ยินมาว่าหวาเหวินเป็นคนไม่สวย ไม่เคยเรียนหนังสือ แล้วก็เป็นคนกินเจ ผมว่าคงน่าเบื่อแย่เลย อ่อใช่แล้ว คนเขายังพูดอีกว่า หวาเหวินพูดติดอ่าง หน้าตาขี้เหร่ ไม่เช่นนั้นแซ่จื๋อจ้วนคงไม่ทิ้งไปหรอก เขายิ่งกว่าเสืออีก นิสัยของเขาไม่ชอบถูกผู้หญิงบังคับ พูดแล้วคือเขาไม่พอใจกับการแต่งงานในครั้งนี้ แล้วเลยโยนขี้ให้เจ้าสาว แล้วตัวเองก็หนีออกจากงานแต่ง ”
เจียงหยู่ได้ยินก็ได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไร
“โอ้ย พี่ชายช่วยพูดอะไรหน่อยได้ไหม ผมอยากรู้จนจะเป็นบ้าแล้ว”
กาวหนานพูดมามากมายแต่เจียงหยู่ไม่พูดอะไรเลยยิ่งทำให้เขาร้อนรนอยากจะรู้
“ความจริงบางอย่างแค่ตัวเองรู้ก็พอแล้ว พอได้แล้ว ดื่มกันเถอะ พวกนายจะมาดื่มเหล้าให้ฉันจ่ายไม่ใช่หรือ”
สำหรับหวาเหวินเจียงหยู่ไม่ได้พูดถึงอะไรมากนัก
ได้แต่เปลี่ยนเรื่องให้มาดื่มกัน
ฉินชุงเจี้ยนกับหวางเซียวอี้ก็ฉลาดพอที่จะไม่ถามอะไรต่อ
คนอย่างเจียงหยู่ คนแบบนี้จะแต่งผู้หญิงที่ไม่มีการศึกษารูปร่างหน้าตาขี้เหร่เข้าบ้านได้อย่างไรกัน
แน่นอนว่าไม่ และเรื่องราวเป็นมายังไงก็มีแต่คนที่ประสบพบเจอมาเท่านั้นที่จะรู้
และนิสัยของเจียงหยู่ คือจะไม่ประกาศเรื่องนี้ให้ใครรู้ทันที
ได้แต่รอจังหวะเหมาะๆโอกาสดีๆ ได้เห็นภรรยาของเจียงหยู่แล้วค่อยมาว่ากันใหม่
ในเวลานี้เองก็มีสาวสวยอายุราวๆยี่สิบเดินเข้ามา
เธอสวมชุดเดรสสีน้ำทะเล
ผมบ๊อบดูแล้วสวยงาม
เธอเดินเข้ามา แล้วมองดูไปที่ผู้ชายสี่คนนั้น
จากนั้นเดินเข้าไป “พี่เจียง ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“ซ่งอานลู่เธอเดินเข้ามา ฉันเชิญเธอแล้วหรอ ไม่กี่ปีมานี้เธอกับเขาก็ยังไม่มีมารยาท” กาวหนานกับซ่งอานลู่เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน
ทั้งสองเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมด้วยกัน ถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวยเท่าสี่ตระกูลใหญ่นั่น
แต่ก็ไม่ใช่พวกคนรวยระดับธรรมดาจะมาเทียบได้ โดยเฉพาะซ่งอานลู่แม่ของเธอเป็นน้าแท้ๆของแซ่จื๋อจ้วน
มีความสัมพันธ์นี้ ทำให้ตระกูลซ่งก็พลอยได้ดีมียืนอยู่ในเมืองนี้ไปด้วย
“หลบไปฉันไม่ได้จะคุยกับนาย ฉันจะคุยกับพี่เจียงอยู่”
กาวหนานเองก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของซ่งอานลู่
พวกเขามองดูซ่งอานลู่ ใบหน้าออกแดงๆได้กลิ่นเหล้า คาดว่าคงดื่มมาไม่น้อย
เจียงหยู่ยังคงอยู่นิ่งๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเว่ยป๋อ
ดูข่าวที่เกี่ยวกับขาและหวาเหวิน เขารู้สึกว่าน่าสนใจและตลกดี
“พูดมา” เจียงหยู่พูดแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเธอ
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ ไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้นทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงเรียกเขาว่าพี่เจียงหยู่ นับญาติกันจากตรงไหน
ซ่งอานลู่กัดริมฝีปากแล้วพูดขึ้นว่า “พี่เจียงหยู่คุณรู้ว่าฉันชอบคุณ ทำไมยังไปแต่งงานกับผู้หญิงขี้เหร่คนนั้นอีก ทำไมทำเหมือนการแต่งงานเป็นแค่เกม คุณดูไม่ออกหรอว่าขนาดพี่จื๋อจ้วนยังไม่เอาเธอ พี่ดีขนาดนี้ทำไมไปเก็บขยะแบบนั้นมา”