ตอนที่ 45 ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง
บ้านตระกูลหวา
หวาผิงไม่ได้เจตนาจะให้ภาพของหวาเหวินเป็นกระแสดัง เพราะเธอก็เขียนชัดอยู่แล้วว่าเป็นน้องห้าของเธอ
คงเป็นเพราะหญิงห้าแห่งบ้านตระกูลหวาเพิ่งแต่งงานกับตระกูลแซ่ไม่กี่วันที่แล้ว เลยทำให้ผู้คนให้ความสนใจพากันแชร์อย่างมาก จนทำให้ภาพไปปรากฏให้คุณหญิงแซ่ได้เห็น
หญิงสาวที่ดูลับลมคมใน คนภายนอกไม่เคยได้พบเห็นจะเป็นยังไงนะ?
โพสไม่นานเท่าไหร่ก็เป็นกระแสร้อนในโซเชียล หวาเหวินไม่สนใจกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ยิ่งกลับไม่รู้ด้วยซ้ำ
ด้านหวาผิงก็หัวเราะขึ้น “น้องห้า วันนี้ฉันโพสรูปเธอเฟสบุ๊ค พระเจ้า คนสนใจเธอ….มากกว่าฉันอีก ถ้าเธอไม่เข้าวงการบันเทิงคงน่าเสียดายแย่เลย”
“ฉันไม่สนใจ”หวาเหวินตอบนิ่งๆ
ซึ่งเป็นนิสัยของเธอ ไม่ว่าจะพวกการบันเทิงหรือธุรกิจต่าง ๆ เธอไม่เคยสนใจมันเลย
แม้ว่าเธออยู่ตระกูลหวาไม่ได้เป็นที่โปรดปรานคนในบ้านเท่าไหร่ แต่พ่อของเธอก็ยังคงมอบหุ้นให้เธอถึง50เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ได้ปันผลมาตลอด เพียงแต่ผลประโยชน์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จึงปันผลได้ไม่เยอะเท่านั้นเอง
มิสู้เธอเปิดร้านเองเล็กๆขายวัตถุโบราณจะได้เงินเยอะซะกว่า
สองคนอยู่บ้านตระกูลหวาจนดึกกระทั่งกลับบ้านที่เฟิงหวาหลี่
พอถึงบ้านได้ เจียงหยู่ก็ได้รับสายโทรศัพท์
“แม่บอกฉันไปหาท่าน เธอจะไปไหม?” เจียงหยู่ถาม
“ฉันไม่ไปได้ไหม? รู้สึกเพลีย”
ที่พูดนั้นคือความจริง อยู่บ้านตระกูลหวาวุ่นกันทั้งวัน กินไม่ค่อยดี นอนไม่ค่อยหลับ จึงอยากพักผ่อนเร็วๆ
และที่สำคัญอีกคือ คุณหญิงแซ่โทรเรียกให้เจียงหยู่ไปหาคนเดียว ไม่ได้บอกให้หวาเหวินไปด้วย
ดังนั้นเจียงหยู่พยักหน้า “งั้นเธอพักผ่อนเร็วๆนะ”
หลังจากนั้นเจียงหยู่ก็ขับรถไปบ้านตระกูลเจียงเพียงคนเดียว
คุณปู่และคุณย่าของเจียงหยู่นั้นอยู่ที่เมืองเล็กๆที่มีทิศทัศน์ที่สวยงามทางฝั่งทิศใต้ ที่นั่นจะมีศาลบรรพบุรุษของวงศ์ตระกูลเจียง
ชราสองท่านนี้นับถือพุทธศาสนา อีกทั้งยังทานเจด้วย จึงน้อยครั้งที่จะกลับมาเยี่ยมหาที่บ้าน
ปกติพ่อแม่เจียงหยู่จะอยู่ที่นี่เท่านั้น จึงมีสาวใช้และคนขับรถคอยดูแลพวกท่านอยู่
เมื่อเจียงหยู่มาถึง มีเพียงแม่คนเดียวที่อยู่บ้าน
“แม่ครับ พ่อล่ะ?”
“เขายังไม่กลับมา มีประชุม”
“อ่อ แม่เรียกผมมาหามีอะไรหรือเปล่าครับ?”
เจียงหยู่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆคุณหญิงเจียงแม่เขา ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อแม่เขานั้นดีอย่างเห็นได้ชัด
อย่างน้อยก็ดีกว่าหวาเหวินกับบ้านตระกูลหวา และแซ่จื๋อจ้วนกับคนที่บ้านของเขา
คุณหญิงแซ่เอียงศีรษะมองที่ลูกชายด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด “มีหลายเรื่องเลย แม่จะพูดทีละเรื่องละกัน พวกเธออยู่ที่เฟิงหวางหลี่เพียงชั่วคราวหรือว่าอยู่ตลอดเลย?”
“อืม…..อันนี้ไม่ได้คิดนะ อยู่แล้วมันก็สบายดี ก็คงอยู่ไปก่อนนะ”เจียงหยู่ไม่ได้ลำบากใจ
“ตาเด็กบื้อ คิดน้อยไปละเฟิงหวาหลี่มันบ้านของเมียลูก จะพูดยังไงดีล่ะบ้านตระกูลเจียงของเราสู่ขอมา แล้วก็ไม่ได้เขยเข้าบ้านเขา จะไปอยู่ที่บ้านตระกูลหวาได้ยังไง? ที่สำคัญเลย บ้านหลังนั้นก็ใช่ว่าจะดี ดูเอียงๆ สภาพก็ธรรมดา จะไปดีกว่าบ้านที่พ่อซื้อให้ลูกที่อยู่หมู่บ้านตงซิงได้ยังไง ที่นั่นเป็นหมู่บ้านวิลล่า มีทั้งสวนและสระว่ายน้ำส่วนตัว พื้นที่ใช้สอยอีกแปดร้อยตารางเมตร ตกแต่งภายในก็ใช้เงินไปหลายสิบล้าน ที่นั่งไม่ดีกว่าหรือลูก?”
แท้จริงแล้วพ่อแม่ของเขาได้เตรียมเรือนหอเอาไว้แต่แรกแล้วที่ชุมชนที่เรียกว่าตงชิง
เป็นเมืองอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ อยู่ในบึงสวนสาธารณะ ที่นั่นเป็นบ้านหลังราคาอยู่หลายร้อยล้าน
เงินจำนวนนี้คนธรรมดาๆใช้เวลาทั้งชีวิตก็หาไม่ได้เท่านี้…..แค่คิดก็ยังไม่กล้าเลย
“อาเหวินชอบอยู่ที่เฟิงหวาหลี่ ผมก็คงอยู่กับเธอ บ้านหลังนึงจะเล็กใหญ่ก็ช่าง ก็แค่ที่หลับที่นอนไม่ใช่เหรอครับ” เจียงหยู่พูดขำขำ
เวลานี้ โทรศัพท์เขามีรายการเด้งขึ้นมา—อาจารย์ ss ผู้เชี่ยวชาญการประเมินวัตถุโบราณ ร่วมรายการสดอีกครั้ง ได้ยินว่าครั้งนี้จะประเมินราคาวัตถุล้ำค่าที่มีราคาถึง200ล้าน
เจียงหยู่ยักคิ้วขึ้น ss?คนที่เค้าว่ากันว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในการประเมินราคาวัตถุโบราณ? เขาว่าเป็นผู้หญิงด้วยนี่นา