ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 22

ตอนที่ 22

ตอนที่ 22 วิกฤตตระกูลหวา

แต่เรื่องมีลูกท่าจะคิดเยอะเกินไป เขาไหนเลยจะมีกำลังวังชาเช่นนั้น?

คนนี้คนเดียวนี่ก็เรื่องเยอะแล้ว ยังจะต้องไปหาหญิงอื่นให้มีกำเนิดบุตรอีกทำไมกัน?

หรือเข้าใจว่าเขาเป็นเซี่ยจื๋อจ้วนเป็นลูกผู้ดีมีเงินพรรค์นั้น? วันๆไม่ทำมาหากินดื่มแต่เหล้าใช้จ่ายเงินนอนแช่ตัวที่ห้อมล้อมด้วยหญิงสาวน่ะหรือ?

เจียงหยู่แน่นอนว่าไม่ใช่ อายุสิบขวบเขาก็ติดตามบิดาร่วมฟังประชุมคณะกรรมการทำการจดบันทึก

อายุ16ปีก็สามารถทำการเปิดประชุมเช้าเอง ตอน18ปีก็ได้เป็นตัวแทนทางกฎหมายของธนาคารเอกชนHR

กล่าวอีกนัยหนึ่ง หลายปีนี้ที่นายท่านตระกูลเจียงอบรมเลี้ยงดูบุตรชาย ตนเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย

คิดต่างจากผู้ประกอบการทั้งหลายอย่างสิ้นเชิง ในทางตรงข้ามเขากลับเชื่อมั่นบุตรชาย ด้วยรู้สึกว่าเจียงหยู่จะทำได้ดียิ่งกว่า

ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง เจียงหยู่กลับมาได้สามปีผลประกอบกิจการยิ่งดีวันดีคืน

ธนาคารHR ยังได้ขยายไปทั่วประเทศ กระทั่งในต่างประเทศก็เริ่มหลั่งไหลให้ความร่วมมืออย่างไม่ขาดสาย

เป็นธนาคารเอกชนเต็มตัวแห่งแรกภายในประเทศ ควรจะรู้ว่าต้องใช้ความพยายามมากเท่าใดจึงก่อตั้งขึ้นมาได้?

เมื่อรับฟังเกี่ยวกับความเคยชินของหวาเหวินจากปากหญิงรับใช้สองคนนั้นจบ เจียงหยู่เพียงแค่หัวเราะ จิบชาสร่างเมาเสร็จก็ขึ้นห้องพักผ่อน

เฟิงหวาหลี่ไม่ใช่บ้านหลังเดี่ยวที่แพงและขึ้นชื่อที่สุดในเมือง ที่จริงแล้วเป็นย่านชุมชนสไตล์จีนเพียงหนึ่งเดียวต่างหาก

ในเมื่อหวาเหวินชอบที่นี่ เขาก็ไม่ติดขัดอะไร อย่างไรก็มีรถยนต์

ชั้นบนมีสี่ห้องนอน ห้องนอนใหญ่หนึ่งห้อง ห้องนอนรองสองห้อง และห้องนอนเด็กหนึ่งห้อง

ชั้นล่างยังมีอีกสองห้อง เป็นห้องของชุนเถาและหยินซิ่ง

ยังมีห้องครัว โกดังใต้ดิน สวนดอกไม้หลังบ้าน นับว่าทุกสิ่งมีครบครัน

การตกแต่งมีก็ยิ่งรสนิยมอย่างมาก เพียงแค่มองก็ราวกับสามารถมีความสงบสุขุมในช่วงวัยยี่สิบกว่าปี แต่แท้จริงแล้วที่นี่เป็นการตกแต่งของหวาเหวิน

เช้าวันถัดมา

เจียงหยู่ทำเวลาได้ดี หกโมงครึ่งลงมาที่ชั้นล่าง

หวาเหวินทานมื้อเช้าตรงเวลาอย่างที่คาด

เมื่อเห็นเจียงหยู่เดินลงมา ชุนเถารีบเข้าครัวจัดเตรียมให้อีกหนึ่งสำรับ

อาหารเช้าอุดมพรั่งพร้อม แค่โจ๊กก็มีถึงสามแบบ แบบข้าวสาร ข้าวฟ่าง(ลูกเดือย) และข้าวโพด

อาหารตรงหน้ามีชุนปิ่ง* ชงโหยวปิ่ง*และซาลาเปา ทว่าซาลาเปานั้นเป็นไส้ผัก

*ชุนปิ่ง ขนมเปี๊ยะฤดูใบไม้ผลิ

*ชงโหยวปิ่ง แป้งทอดใส่หอม

อีกทั้งมีไข่เจียวและนมวัว เจียงหยู่นั่งฝั่งตรงข้ามหวาเหวิน และมองเธอ “อรุณสวัสดิ์”

หวาเหวินน้อมศรีษะโดยที่ไม่มองเขา

ทว่ายังตอบกลับมาหนึ่งคำ “อรุณสวัสดิ์”

วันนี้เธอสวมชุดกระโปรงเดรส สีเมล็ดข้าวสาร สไตล์มีสง่าราศี ส่วนผ้าแพรต่วนก็ดูเหมือนจะเป็นวัสดุชั้นเยี่ยม

ใครพูดว่าสาวน้อยคนนี้ไม่ได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู เจียงหยู่อย่างไรยิ่งมาก็ยิ่งรู้สึกว่าสาวน้อยคนนี้บ่มเพาะเลี้ยงดูโดยนายหยิงผู้เฒ่าหวา

ถึงแม้จะไม่เคยเข้าโรงเรียน แต่ลักษณะเฉพาะตัวก็ยังเหนือกว่าบรรดาพี่สาวเหล่านั้น

นอกจากนิสัยพูดน้อยประหยัดถ้อยคำแล้ว ยังเป็นแบบฉบับบุตรสาวตระกูลมั่งมีชื่อเสียงเก่าแก่แท้ๆ

“คุณเล่นพิณกู่เจิงเป็นไหม?” เจียงหยู่เอ่ยถามขึ้นมา

หวาเหวินแตกตื่น พลันเงยหน้าขึ้นมามองเขา “มีอะไรหรือเปล่า?”

“ไม่มีอะไร ก็แค่ถามดู”

“เป็นค่ะ” เธอตอบ

“อื้ม ผมก็คิดว่าคุณน่าจะเป็น คุณน่าจะคัดอักษรกับวาดภาพได้ไม่เลว เปียโนก็น่าจะเป็นด้วยเหมือนกัน ยังมีงานเย็บปัก…..” เขาบ่นพึมพำ

เสียงไม่ดัง แต่หวาเหวินกลับได้ยินอย่างชัดเจน

ชุนเถากับหยินซิ่งกำลังหัวเราะอยู่ด้านหลัง

หวาเหวินเพียงประหลาดใจกับชายผู้นี้ จะถามเรื่องแปลกๆแบบนั้นไปทำไมกัน?

หลังเสร็จมื้อเช้า เจียงหยู่ขับรถออกไปที่บริษัท

หวาเหวินเข้าห้องสมุดอ่านหนังสือ พักพิงอยู่บนเก้าอี้กุ้ยเฟย

ถ้าหากเจียงหยู่ทราบถึงหนังสือที่อยู่ในมือของเธอยามนี้ คาดได้เลยว่าจะต้องตกตะลึง

เพราะสิ่งที่เธออ่านไม่ใช่ผลงานคลาสสิค ไม่ใช่ตำราทั้งสี่คัมภีร์ทั้งห้า กลับเป็นหนังสือชื่อดังเล่มหนึ่ง [เจ้าชายน้อย] ที่แสนไร้เดียงสา

ยามเที่ยงโทรศัพท์มือถือของหวาเหวินดังขึ้น เป็นพี่คนคนโต หวาซวงโทรเข้ามา

พี่สาวคนโตกำลังเล่าให้เธอฟังว่า วันนี้ช่วงสิบโมงเช้าตระกูลเจียง จริงๆที่จะกล่าวก็คือเจียงหยู่

ให้บริษัทการมอบเงินมูลค่าสินทรัพย์ตามงบดุลของบริษัทตระกูลหวาเป็นเงินห้าร้อยล้าน

ใช่แล้ว ไม่ผิด ห้าร้อยล้าน หลังจากแก้ไขวิกฤตหนี้สินตระกูลหวา พวกเขายังชำระเงินกู้เงินธนาคารให้ในทันที ไม่จำเป็นต้องประมูลขายอสังหาริมทรัพย์แล้ว

สำหรับตระกูลหวาแล้วนับเป็นข่าวดี ควรต้องรู้ว่าในตอนแรกข้อผูกพันตระกูลเซี่ย หวาเหวินจะต้องแต่งงานกับเซี่ยจื๋อจ้วน หลังจากนั้นตระกูลเซี่ยจึงจะมอบเงินทุนหมุนเวียนให้เพียงสองร้อยล้านเท่านั้น

หวาซ่วงกล่าวในสายโทรศัพท์ด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก “น้องห้า เธอโชคดีมาก เจียงหยู่ให้พวกเราห้าร้อยล้าน”

หวาเหวินเมื่อได้ยินแล้วสีหน้ายังคงเรียบเฉย หล่อนเพียงถามพี่สาวคนโตกลับ “ดังนั้นที่พวกพี่ขายฉันไปห้าร้อยล้านก็เลยรู้สึกว่ากำไรแล้วงัั้นสิ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท