ตอนที่ 29 วิวาห์พาสะดวก
(วิวาห์พาสะดวก เป็นการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เพื่อผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย)
เจียงหยู่ทานข้าวกับลูกค้าในช่วงเย็นเสร็จ ก็ขับรถมุ่งกลับเฟิงหวาหลี่
ตอนที่เขากลับมาถึงบ้าน หวาเหวินก็ขึ้นห้องพักผ่อนไปแล้ว
“คุณชายทานข้าวมาหรือยังคะ?”
หยินซิ่งเอ่ยถาม
“ทานมาแล้ว คุณหนูล่ะ?”
“คุณหนูขึ้นห้องกับเสี่ยวเฮยแล้วค่ะ”
เจียงหยูตกใจ กำลังจะถามว่าใครคือเสี่ยวเฮย พลันนึกถึงตอนก่อนหน้าที่หยินซิ่งกับชุนเถาเล่าความเคยชินของหวาเหวินให้เขาฟัง
เหมือนจะเคยบอกไว้ว่าหวาเหวินมีสัตว์เลี้ยงเป็นแมวตัวหนึ่ง มีสีดำ จึงเรียกว่าเสี่ยวเฮย
เขาอมยิ้ม ถอดชุดเสื้อสูทออกแล้วมุ่งขึ้นชั้นบน
ขณะที่มาห้องหวาเหวิน บังเอิญประตูห้องแง้มอยู่
ด้านในยังมีน้ำเสียงอันอ่อนโยนของเธอ
“เสี่ยวเฮีย หลายวันมานี้แกไปวิ่งเล่นที่ไหนมา? ช่วงนี้สภาพอากาศไม่ค่อยดี ฝนมักจะตกบ่อย แกอย่าตากฝนกลับมาล่ะ”
“มาววว มาววว มาววว” เจ้าแมวดำน้อยราวกับฟังรู้เรื่อง ส่งเสียงตอบรับหลายคำ
หวาเหวินยิ้มพลางกล่าวต่อ “ไม่ใช่ว่าแกก็คิดถึงช่วงเวลาที่อยู่ภูเขาจงชุ่ยหรอกหรือ? แต่ว่าพวกเราไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้ ตอนนี้ฉันแต่งงานแล้ว จำเป็นที่จะต้องอยู่ในเมือง ยังมีคุณย่าที่สุขภาพไม่ค่อยดี ยังมีบ้านของตระกูล ไปโรงพยาบาลก็สะดวก ไว้รอมีเวลา รออากาศดีๆ ฉันจะพาเธอกลับไปเยี่ยมสักหน่อยดีไหม?
“เมี้ยว เมี้ยว”
เช่นนี้ เจียงหยู่จึงยืนฟังอยู่หน้าประตูถึงสามนาที
หวาเหวินคุยอยู่ในห้องไปประมาณห้านาที
ชุนเถาที่นำผลไม้ขึ้นมาเสิร์ฟพบเจียงหยู่จึงเอ่ยถามเขา “คุณชาย คุณทำอะไรอยู่ที่หน้าประตูคะ ทำไมถึงไม่เข้าไปล่ะ?”
เจียงหยู่ประหม่าเล็กน้อย
ผลักประตูเข้าไป โดยมีชุนเถาเดินตามอยู่ด้านหลัง
หวาเหวินได้ยินประโยคเมื่อสักครู่นี้ หวาเหวินจึงโกรธเล็กๆ
ดวงตาเย็นชากวาดผ่านเขา “คุณชายตระกูลเจียงที่ผ่าเผย คาดไม่ถึงว่าจะนิยมแอบฟังมุมกำแพง ใช่บกพร่องหรือไม่?”
ชุนเถาหัวเราะเสียงค่อย เธอก็รู้นิสัยของคุณหนูตนเอง เห็นว่าดูนุ่มนวล ที่จริงแล้วยากจะพูดคุย และไม่ง่ายที่จะเข้ากันกับใคร
เจียงหยู่กลับนิ่งเฉย ตรงเข้าไปนั่งบนโซฟา
“ที่ผมแอบฟังก็ไม่ใช่คนนอก เมียผม ผมจะฟังไม่ได้เลยหรือ?”
“ใครเป็นเมียของคุณ?” หวาเหวินเริ่มหน้าแดง
“ใบรับรองการแต่งงานก็มี คุณยังจะคัดค้านหรือครับ?”
“ฉันไม่ใช่……” กำลังจะบอกว่านั่นไม่ใช่งานแต่งเพื่อจัดฉากหรือ มันแค่สมมติ เป็นแค่ข้อตกลง
แต่เมื่อเห็นชุนเถายังคงอยู่ในห้องกลับไม่สะดวกเอ่ย ดังนั้นจึงไม่ได้พูดจนประโยค
ชุนเถานำจานผลไม้มาวางไว้บนโต๊ะน้ำชา
“คุณหนู คุณชาย ค่อยๆทานกันนะคะ”
“อืม”
หลังหวาเหวินพยักศีรษะ ชุนเถาจึงกลับออกไป
หวาเหวินไม่มีอารมณ์จะทานผลไม้ พลันชำเลืองมองเจียงหยู่ “ฉันคิดว่ามีบางอย่างที่ฉันจำเป็นจะต้องคุยกับคุณ
“ว่ามาสิครับ” ใบหน้าเขาเอ้อระเหยลอยชาย
หวาเหวินที่นั่งอยู่บนเตียง เธอหันร่างนำเสี่ยวเฮยที่อยู่ในอ้อมกอดวางลง
เสี่ยวเฮยส่งเสียงร้อง หมอบอยู่ข้างกายเธออย่างเชื่อฟัง
“คุณชายเจียง”
“เกรงใจกันเกินไปแล้ว คุณควรจะเรียกว่าสามี”
ที่นี่ไม่มีผู้อื่น ฉันไม่จำเป็นต้องเสแสร้ง คุณชายเจียง คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่าระหว่างเราสองคน…..เป็นความสัมพันธ์ในการร่วมมือ”
“ไม่มีปัญหา” เจียงหยู่พยักศีรษะเห็นชอบ
“ดังนั้นพวกเราทั้งคู่ไม่ใช่คู่สามีภรรยากันจริงๆ แค่การแต่งงานจัดฉาก เข้าใจไหมคะ?”
คนรักร่วมเพศจำนวนมากเพื่อปกปิดปัญหารสนิยมทางเพศจากคนในครอบครัวตน จึงหาเพื่อนต่างเพศแต่งงาน แต่หลังจากแต่งก็ไม่ร่วมห้อง ไม่สัมผัสแตะต้องทางกาย
แต่งงานเพื่อความสะดวกสบายและผลประโยชน์ ดังนั้นจึงเรียกอีกอย่างว่า วิวาห์พาสะดวก
เจียงหยู่พยักศีรษะ “พูดต่อเลยครับ”
“ในเมื่อมันเป็นการแต่งงานเพื่อความสะดวก คุณก็ไม่ควรจริงจังมากเกิน อย่างไรพวกเราก็แค่ร่วมมือกันเพียงชั่วคราวคุณสามารถช่วยฉันแก้ไขวิกฤตของตระกูลหวา ฉันซาบซึ้งใจมากและยินยอมเป็นภรรยาของคุณในนาม ช่วยคุณหยุดคำซุบซิบนินทาภายนอก แต่ตัวคุณก็ต้องเข้าใจสักหน่อย อย่างเมื่อสักครู่นี้ที่แอบฟัง แล้วยังที่ผลักประตูเข้ามาในห้องฉัน คุณไม่รู้สึกบ้างหรอว่าการทำเช่นนี้มันไร้มารยาทมากนะคะ? ห๊ะ คุณชายเจียง?” หวาเหวินกล่าวจบรวดเดียวพร้อมกับเหตุผลมากมาย เจือด้วยอารมณ์ตื่นเต้นเล็กน้อย ใบหน้าดวงเล็กจึงแดงระเรื่อ น่ารักเป็นที่สุด