ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 47

ตอนที่ 47

ตอนที่ 47 วิธีการของยัยจอมแอ๊บ

ทุกคนอาจคิดไม่ถึง ว่ามันจะจบแบบนี้

พิธีกรทำตัวไม่ถูกที่ได้ยินแบบนี้ จึงขอยืนยันกับss “ไม่ทราบว่าคุณ ss ลองสรุปการประเมินอีกครั้งได้ไหมคะ?”

“สร้อยคอนี้ เป็นของปลอม” เธอตอบย้ำอีกครั้ง

เวลานี้ชาวเน็ตต่างก็แสดงความคิดเห็นไม่หยุด……

“ผู้เชี่ยวชาญคนนี้หลอกลวงหรือเปล่า สร้อยราคาแพงขนาดนี้จะเป็นของปลอม?”

“ใช่ นี่เป็นสร้อยที่ราชาของเปอร์เซียมอบให้ลูกสาวเชียวนะ คงไม่จำเป็นที่จะให้ของปลอมหรอกมั้ง? ไม่ว่าจะเป็นเปอร์เซียในตอนนั้น หรืออิหร่านในตอนนี้ มันก็ประเทศพื้นเมืองที่มีความหรูหรา ไม่น่าเป็นไปได้”

“ฉันว่า ss พูดไม่ผิดนะ เพชรก็ของปลอม มันก็ปกติ พวกเธอตกใจอะไร?”

“ssไม่เคยพลาดมาก่อน ในกลุ่มอาชีพนี้ เธอมีชื่อเสียงที่สุดแล้ว ไม่น่าจะพลาดได้ ฉันอยู่ข้างss”

“เหมือนหลอกอ่ะ ถ้าของปลอมจริง พี่ชายที่ใช้เงินตั้งแสนห้าหมื่นดอล ไม่โดดตึกตายเลยเหรอ?”

“ตกลงเรื่องมันยังไงกันแน่ ของแท้หรือของปลอม?”

“เอาล่ะคะ คุณssช่วยอธิบายเหตุผลให้ทราบทีค่ะ” พิธีกรพูดขึ้น

ssหยิบภาพสร้อยคอที่ปริ๊นซ์มาจากคอมพิวเตอร์ ก็เพื่ออธิบายขยายความให้กว้างขึ้น “เพชรเป็นของแท้ ทองคำขาวก็เป็นของแท้ แต่….มันไม่ได้ยาวนานขนาดนั้น ไม่ใช่ของที่มีอายุ700กว่าปีอย่างนั้น ช่วงที่เปอร์เซียร่ำรวยจริงอยู่ หากจะพูดถึงช่างฝีมือในราชวงศ์หมิงแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำขึ้นได้ แต่…ไม่ว่าจะเป็นช่างฝีมือในราชวงศ์หมิงหรือว่าจะเป็นช่างของเปอร์เซีย ต่างก็ไม่ได้ใช้วิธีการฝังเครื่องประดับแบบนี้”

เจียงหยู่ดูตามอย่างละเอียด พบว่าสิ่งที่ssอธิบายขยายความไม่หยุด ดูจากเพชรที่ฝังลงไปนั้นละเอียดอ่อนมาก อีกทั้งเป็นลายนูนสามมิติ

“วิธีการแบบนี้ เป็นวิธีการในยุคปัจจุบัน นานสุดก็คงจะแปดสิบปีก่อน ฉะนั้น…..ที่ฉันบอกว่าของชิ้นนี้เป็นของปลอม ไม่ได้หมายความว่าเพชรนั้นปลอม แต่ปีนั้นเองที่ไม่ถูก…ดังนั้นว่าตามประสบการณ์ของฉัน เพชรชมพูนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่หายาก ฝีมือละเอียดอ่อน อีกทั้งมีเพชรข้างในถึง7กะรัต ก็ยังถือว่าคุ้มค่าที่จะสะสม”

เมื่อบอกดังนี้ ชาวเน็ตต่างก็เข้าใจยิ่งขึ้น และพากันกดไลค์ให้ ss

“อย่างนั้น รบกวนคุณssช่วยประเมินราคาหน่อยได้มั้ยคะ ”

ภายใต้หน้ากากสีเงิน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบาและอบอุ่นเป็นภาษาอังกฤษ “ฉันให้ราคาอยู่ที่แปดสิบล้าน”

พอราคาที่ออกมา สายตาของเจ้าของสร้อยก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง เพราะถ้าเป็นของเมื่อเจ็ดร้อยกว่าปีจริง อย่างน้อยก็คงได้สักหลายร้อยล้าน

สุดท้ายสร้อยเพชรชมพูเส้นนี้ก็ถูกซื้อโดยเศรษฐีชาวรัฐเซีย ทางรายการได้ค่าตอบแทนไปแปดแสนกว่า ส่วนssได้ไปสามแสนกว่าบาท

รายการถ่ายทอดสดได้จบลง…….

อยู่ๆเจียงหยู่ก็มีความรู้สึกว่าลักษณะของssเหมือนกับใครคนนึง จะเจาะจงว่าใคร เขาก็กลับนึกไม่ออก

ณ วิลล่าส่วนตัวแซ่จื๋อจ้วน

พี่เลี้ยงมารายงานว่า “คุณชายน้อย คุณเหลียงมาหา เธอได้พกกระเป๋าสัมภาระมาด้วยค่ะ”

“อะไรนะ?” แซ่จื๋อจ้วนได้ฟังอย่างนั้นก็หัวร้อนขึ้นมา

เหลียงเซียวเซียวยังตามราวีไม่เลิกอีกเหรอ? บอกชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างสองเดือนนี้จ่ายค่าเลิกคบกันไปก็ไม่น้อย ทั้งบ้าน รถ เพชร นาฬิกาหรูอีก

เธอเป็นดาราแค่ระดับสาม ต่อให้ทำงานมา5ปี ก็หาไม่ได้เยอะขนาดนี้หรอก ถูกมั้ย?

“บอกยังไงก็ไม่ไป บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะพบคุณ”

“งั้นเดี๋ยวฉันไปดู”แซ่จื๋อจ้วนเค้นบุหรี่ อารมณ์เสียขึ้นมานิดๆ

ในที่สุด เหลียงเซียวเซียวก็ถือกระเป๋าหลุยส์ ใส่เสื้อสีแดงแขนสั้น กระโปรงสั้นดำเลื่อม ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน

“จื๋อจ้วน….”

แซ่จื๋อจ้วนไม่ได้ฟัง แต่มองเธอด้วยความเย็นชา

“จื๋อจ้วน ฉันท้องแล้ว…” เธอพูดด้วยน้ำเสียงหวาน

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท