ตอนที่ 30 ประสาท
เจียงหยู่อดคิดไม่ได้ที่อยากจะยื่นมือออกไปหยิก แต่เวลานี้ไม่สมควร
หากตอนนี้เข้าไปแตะต้องโดนตัวคนอีก นี้ไม่ยิ่งเป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟหรือ?
ดังนั้นเจียงหยู่จึงพยักศีรษะ ยังจงใจเกาใบหูแกรกๆ
“คุณชายเจียง ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจแจ่มแจ้ง นอกเหนือจากที่พวกเราเป็นสามีภรรยาตามกฎหมายแล้ว ก็ไม่มีความสัมพันธ์อื่นใดเกี่ยวข้องกันอีก ทรัพย์สินพวกเราแยกกัน ฉันเองก็จะไม่ถามหาเงินคุณแม้แต่แดงเดียว เฟิงหวาหลี่คือสินทรัพย์ของฉัน ชุนเถาและหยินซิ่งฉันจะเป็นคนจ่ายเงินเดือนเอง”
“หมายความว่าคุณจะดูแลการกินคุณเองงั้นหรือครับ?” เจียงหยู่มองเธอติดตลก
“แล้วไม่ใช่หรือไง?” หวาเหวินถามกลับอย่างโมโห
“ครับๆๆ สมเหตุสมผลดี”
“ดังนั้นคุณห้ามล้ำเส้นฉัน อย่างน้อยก็ต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของฉัน”
“อย่างเช่นอะไรบ้าง?” เจียงหยู่ยักคิ้วใส่
“อย่างเช่น ห้ามแตะต้องสิ่งของของฉันตามใจชอบ เข้าห้องของฉันต้องเคาะประตู นอกจากในที่สาธารณะ ห้ามแตะเนื้อต้องตัวฉัน….ไม่พูดจาแทะโลมด้วยก็จะเป็นการดีที่สุด”
“นี่….คุณจะบังคับใจคนอื่นเกินไปหน่อยไหมครับ ผมอายุยี่สิบปีกว่า อายุยังน้อยเรี่ยวแรงก็เหลือเฟือ ส่วนภรรยาที่เคารพ….สวยงามปานบุปผา…นี่คุณจะให้ผมเป็นหลิ่วเซี่ยฮุ่ย ที่มีจิตใจแน่วแน่ไม่หวั่นไหวน่ะหรือ?”
“คุณ….คนอันธพาล” หวาเหวินรู้สึกว่าทัศนคติของเขามันไร้สาระ
“โอเค ไม่แกล้งคุณละ คุณวางใจเถอะ ผมเข้าใจความหมายของคุณดีครับ และจะให้ความเคารพคุณ”
กล่าวจบ เจียงหยู่ก็ลุกขึ้น เข้าไปใกล้เตียงของหวาเหวิน
“คุณจะทำอะไรน่ะ?” เธอมองเขาอย่างระแวดระวัง
“คุณจะแตกตื่นไปทำไม ผมอยากดูเจ้าเสี่ยวเฮย น่ารักดี”
เจียงหยู่ยื่นมือออกไปเพื่อจะลูบศีรษะของเสี่ยวเฮย
“เสี่ยวเฮยไม่คุ้นกับคนแปลกหน้า ระวังมันจะข่วนคุณบาดเจ็บ”
ซึ่งในความเป็นจริงเสี่ยวเฮยขี้อายมาก กระทั่งชุนเถากับหยินซิ่งมันก็ยังระแวงไม่ยอมให้จับ
นอกจากหวาเหวินแล้ว มันไม่เคยดีกับใคร
เสี่ยวเฮยไม่ใช่แมวพันธุ์ชื่อดังอะไร เพียงแต่เมื่อหกปีก่อน พบมันเป็นแมวเร่ร่อนบนภูเขาจงชุ่ย
หวาเหวินรู้สึกว่ามันน่าสงสารจึงเก็บมาเลี้ยง แล้วก็เลี้ยงมาตลอดจนถึงตอนนี้
ขณะที่หวาเหวินพูดออกมามันก็สายไปเสียแล้ว เจียงหยู่นำเสี่ยวเฮยที่อยู่บนเตียงขึ้นมาอุ้มอย่างคุ้นเคยมานาน
ที่เหนือความคาดหมายก็คือ เสี่ยวเฉยไม่เพียงไม่ข่วนเขา ยังมุดเข้าไปซุกอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างเอื่อยเฉื่อย
หวาเหวินจ้องตาถลนอย่างความประหลาดใจ มองด้วยสีหน้าอันเหลือเชื่อ
“มันก็ไม่ได้ดุนี่ ไม่เห็นร้ายกาจเท่าที่คุณพูดเลย”
“มันแต่ก่อนไม่ใช่แบบนี้ซะหน่อย……” หวาเหวินยังคงไม่อยากจะเชื่อว่าแมวที่ขี้ดุมาตลอดอย่างเสี่ยวเฮย เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเจียงหยู่แล้วกลับกลายเป็นเชื่อฟัง
“บางทีมันอาจจะชอบผมนะ”
เจียงหยู่ดีใจมาก มือหนึ่งประคองเสี่ยวเฮย มือหนึ่งลูบแผ่วเบา
เมื่อเปลี่ยนมาคุยเรื่องของเสี่ยวเฮย พลันเห็นได้ชัดว่าไม่มีความประหม่าเหมือนอย่างเมื่อสักครู่
หลังจากที่เจียงหยู่โอ้เอ้อยู่ที่ห้องของหวาเหวินอยู่สองชั่วโมงกว่า
แถมยังทานผลไม้ที่เตรียมมาให้หวาเหวินจนเกลี้ยง
ในที่สุดเห็นว่าหวาเหวินต้องการพักผ่อน จึงจากมาอย่างเสียดาย แล้วจึงกลับไปที่ห้องของตน
ขณะทำความสะอาด หยินซิ่งยังแซวชุนเถา “พี่ชุนเถา พี่ว่าคุณหนูพวกเราอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับท่านเขยแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะตกหลุมรักคุณหนูได้ไหมอ่ะ?”
“นี่ก็พูดยาก ท่านเขยเขาก็ค่อนข้างดีมาก ก็ต้องดูว่าต่อจากนี้เขาปฏิบัติกับคุณหนูพวกเราอย่างไร ฉันรู้สึกว่าคุณหนูพวกเราถึงแม้จะนิสัยเย็นชา แต่อย่างไรก็เป็นคนใจอ่อน ถ้าหากทำดีกับเธออยู่ตลอด แม้เป็นก้อนหินก้อาจจะละลายได้ล่ะมั้ง?”
คำพูดเหล่านี้ บังเอิญถูกเจียงหยู่ได้ยินขณะลุกมาดื่มน้ำกลางดึก เขายิ้มพราย
หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เขาไม่กล้าบอก แต่ทว่าสาวน้อยหวาเหวินคนนี้เขาชื่นชอบ เขายังรู้สึกว่าเธอน่าสนใจมาก โดยเฉพาะท่าทางเวลาที่เธอโกรธ
ณ วิลล่าส่วนตัวของเซี่ยจื๋อจ้วน
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์โทร เสียงปลายสายดังอยู่นานจึงค่อยมีคนรับ
“เซี่ยจื๋อจ้วนนี่พี่เกิดประสาทอะไรขึ้นมา โทรอะไรกันแต่เช้า? ไม่ให้คนหลับนอนบ้างหรือไง?” ปลายสายนั้นส่งเสียงหวีดแหลมของผู้หญิง
–อัพเดทครั้งต่อไป 25/12/2019